คลังบทความของบล็อก

วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2554

ศึกมวยไทย 7 สี : เพชรเอกปักเข่าเลิศเพชรจอดยก4ซิวแชมป์มวย7สี

เลิศเพชร ส.ท.ม่อนโพนทอง ชื่อชั้นการผ่านมวยเหนือกว่า แต่ว่าโดนแข้งซ้าย โดนหมัดซ้ายไม่ค่อยดี ยกสาม ปล้ำในเด้งตี โหมตี ราคาทำท่าจะไหล แต่หลังจากที่กรรมการแยก ยืนรับแข้งซ้าย รับหมัด รับเข่า ทิ้งตัวลงไปนอนคายฟันยาง ฟังกรรมการนับ ก่อนจับแพ้ ทีเคโอ เพชรเอก ลูกบ.ก. พร้อมส่งให้ เพชรเอก คว้าแชมป์รุ่นแบนตั้มเวต เวทีช่อง 7 สี ในศึกมวยไทย 7 สี เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา

ศึกมวยไทย 7 สี นัดวันอาทิตย์ที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา ที่เวทีมวยช่อง 7 สี คู่เอกเป็นการชิงแชมป์รุ่นแบนตั้มเวต ที่ว่าง ช่อง 7 สี เลิศเพชร ส.ท.ม่อนโพนทอง พบกับ เพชรเอก ลูกบ.ก. ในพิกัด 118 ปอนด์ เรตเปิด เลิศเพชรต่อ 7-4  กรรมการ ธนวัฒน์ วงศ์สาสานต์ ห้ามบนเวที

เกมหมดยกแรก เลิศเพชร ชื่อชั้นเหนือกว่าต่อ 7-4 ยกสอง เพชรเอก มีโอกาสชิงครั้งแรก แยกเขี้ยวชิงเดินเตะซ้าย ด้วยความมุ่งมั่น เพราะรอโอกาสนี้มานาน เลิศเพชร นิ่งมากเหมือนกันยกขาขวากันแต่ว่าไม่โต้  ทำใหแพชรเอกได้ใจ เตะซ้ายยาวๆ เลิศเพชร โดนมากๆ หลายๆ ครั้ง กระเด็นเหมือนกัน

และจากนั้นเพชรเอก มาเรื่อยๆ มาตลอด เลิศเพชร เริ่มบังไม่ทัน เพชรเอกนั้นขนมาเยอะวางแข้งซ้ายได้แล้ว ยังมีหมัดแจมอีกต่างหาก เลิศเพชร โดนหมัดไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หมดยก ราคาลดเหลือเลิศเพชร ชื่อดีกว่าต่อ 5-3 ทั้งที่ยกที่ผ่านมาไม่ชนะแต่ว่าต่ออนาคต

ยกสาม เลิศเพชร จับในทันที กรรมการปล่อยให้ตี เพชรเอกหนีไม่ออกต้องสู้เข่าโดนเข่าไม่ดีราคาจะไหลไป 2-1 กรรมการแยกออกมา เพชรเอก ที่มุ่งมั่นมากไม่ยอมปล้ำในดันเตะดันต่อยท้องต่อยหน้าและได้จังหวะ ปักเข่าซ้ายเข้าเต็มชายโครงดอกใหญ่ ดอกเดียว

เลิศเพชร ทิ้งตัวลงไปนอนกับพื้นเวทีคายฟังยาง ฟังกรรมการนับ และจับแพ้ทีเคโอไปในยกนี้เอง สร้างความตกตะลึงให้แฟนมวยอย่างมาก และจากนั้นกรรมการหันมาชูมือให้เพชรเอกพร้อมกับคว้าแชมป์รุ่น 118 ปอนด์เวทีช่อง 7 สีที่ว่างไปครอง

ผลคู่อื่นๆ กงจักร ส.ทวนทอง ที่เพิ่งตกรอบมาหมาดๆ โดนศอกพลิกแพ้คะแนน เดชฤทธิ์ (ศิษย์อาจารย์เช้า) ภพธีรธรรม, วราพล ส.ศักดิ์รินทร์ ชนะคะแนน มะเฟื่องน้อย ช.โรจน์สุรางค์, คฑาเพชร ส.สุรเดช ชนะคะแนน แสนเพชร เกียรติเพชรน้อย, เดชอุดม ลูกบ.ก. แพ้ทีเคโอ เสน่ห์ ศิษย์ฮอม ยก 5, เสือเล็ก อบต.นาเมืองเพชร ชนะคะแนน เสริมยศ ต.ชูชีพ

ศึกจ้าวมวยไทยช่อง 3 : เข้มทุบประกายแสงหมดยก4 ลิ่วชิงมวยรอบ

ประกายแสง ศิษย์ อ. ทำท่านรองเซ็ง ยกสามเตะขวาปล้ำเข่าได้เฮ แต่พอโดนหมัด โดนอัดหนักๆ ออกอาการไม่สู้ โดนกรรมการจับแพ้กลางยก 4 ในการชกกับ เข้ม ศิษย์สองพี่น้อง รอบตัดเชือกมวยรอบอีซูซุ ศึกจ้าวมวยไทย ที่เวทีมวยอ้อมน้อย วันเสาร์ที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา

ศึกจ้าวมวยไทย ที่เวทีมวยอ้อมน้อย วันเสาร์ที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา คู่เอก เข้ม ศิษย์สองพี่น้อง ชกตัดเชือกมวยรอบอีซูซุ ครั้งที่ 21 กับ ประกายแสง ศิษย์ อ. พิกัด 150 ปอนด์ เรตเปิดเข้มต่อ 7-4 กรรมการ ประไพร ประเทศ เป็นผู้ห้าม ผลัดแพ้ชนะกันคนละไฟต์ หมดยกแรก เข้มต่อ 2-1

ยกสอง ประกายแสงได้ช่วงเปิดเกมเตะขวา เข้มดักเตะขวา ก่อนที่ทั้งคู่จะออกแข้งหนักๆ กลางยกเข้มโดนแข้งขวาเต็มๆ แต่เกี่ยวขาเททิ้งเอาคืน ก่อนจะดักเตะขวาถีบสกัด หมดยกสอง เข้มต่อ 5-3

ยกสาม ประกายแสงโยกหาจังหวะเตะขวา เข้มไม่เร่งรอจังหวะสองเกี่ยวขาเททิ้ง ลุกขึ้นมาประกายแสงปล้ำเข่าเรียกเสียงเฮได้ดังๆ เข้มหาจังหวะแทงเอาคืน ประกายแสงไม่อยู่ห่างปล้ำเข่าแทงได้เนื้อๆ ปลายยกเข้มดักวางแข้งขวาเน้นๆ แต่ไปเสียจังหวะโดนแทงเข่าล้มคาเชือก ก่อนจะมีทีเด็ดต่อยหมัดจนประกายแสงออกอาการไม่ดี หมดยกสาม เข้มต่อ 5-1

ยกสี่ ประกายแสงลงทุนเดินคว้าคอแทงเข่า เข้มเด้งตีสู้ ก่อนจะต่อยหมัดขู่เอาไว้ ประกายแสง โดนแล้วออกอาการไม่สู้ ท่านรองเซ็งเป็ด สุดท้ายกรรมการทนดูไม่ไหว โบกยุติการชกชูมือให้เข้มชนะทีเคโอหมดทางสู้ ช่วงกลางยก เข้มเข้าไปชิงชนะเลิศกับ นพรัตน์ เกียรติกำธร ส่วนประกายแสงไปชิงที่ 3 กับ เดินชนเล็ก ส.ส.นิยม

ส่วนผลการชกคู่อื่นๆ มีดังนี้ สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง ชนะคะแนน สิงห์มณี ส.ศรีสมพงษ์, หยกวิทยา เพชรสี่หมื่น แพ้คะแนน เพชรวานร อ.คุณธร, ดาเมี่ยน ควายทองยิมส์ ชนะน็อก เดชสุริยา (พุ่มพันธุ์ม่วง) เบิกฤกษ์ยิม ยก 4,

วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2554

มวยเด็ดวันนี้

"เสี่ยยูริ" จัด มวยไทย ศึกเพชรเจ้าพระยาวันนี้ที่ รดน.
สายลมน้อย เข่าในดีกว่า จะชนะ ตระกูลเพชร
มานพน้อย-บุเรงนอง-เพชรลูกฟ่าง-มีลุ้น


ยอดเพชรอุบล จ่าอากาศเกริกไกร มวยไทยจังหวะเตะแทงเข่าปล้ำตีดีแต่เสียดสีเป็นรอง จะแพ้ บุรีรัมย์น้อย โฮมเคทอง 101 ป.

นนทกิจ ต.หมอศรี มวยไทยแข็งแกร่งเตะเข่าในปล้ำตีเหนียวแน่นกว่า จะชนะ ต้นรัก ส.ศิรินารถ 109 ป.

โชคดี ป.เตละกุล (แพ้คะแนน ยอดสุริยา ศิษย์ประจัน ที่ ลพน.) มวยไทยจังหวะเตะเข่าในปล้ำตีคล่องแต่ แรงปะทะเป็นรอง จะแพ้ ฟ้าประทาน บางใหญ่เอ๊กซ์เพรส (ชนะคะแนน มนุษย์หิน ส.ศักดิ์ชัยยิมส์ ที่ รดน.) มวยไทยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงมีฮึดตลอดกว่าท้ายๆ 104 ป.

เพชรลูกฟ่าง ช.พิณราช (ชนะคะแนน เพชรราชันย์ เพชรนพเก้า ที่ รดน.) มวยไทยแข็งแกร่งเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงฟอร์มสดมีฮึดตลอดกว่า จะชนะ น้ำเต้าทอง สก.สุไหงยิม (ชนะทีเคโอ ศิวกรณ์ ส.ศินารายณ์ ยก 4 ที่ รดน.) มวยไทยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรง ชนิดสนุก 101 ป.

บุเรงนอง ก.ร่มศรีทอง (แพ้คะแนน พรวายุ (ตี๋เล็ก จิตรเมืองนนท์) พ.ต.สายใจ ที่ รดน.) มวยไทยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าศอกรุนแรงมีลุ้นตลอดกว่า จะชนะ เพชรแท้ 96 ปีนัง (ชนะทีเคโอ แอ็ดดำ ทีเด็ด 99 ยก 4 ที่ รดน.) มวยไทยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงแต่กระดูกเสียดสีเป็นรอง 110 ต่อ 112 ป.

มานพน้อย ศิษย์หมอเส็ง (ชนะคะแนน ศิลาเพชร ส.สุรเดช ที่ รดน.) มวยไทยจังหวะฝีมือเตะต่อยหมัดแทงเข่าแม่นยำรุนแรงฉลาดถ้าพกพาหัวใจมาสู้ จะชนะ จักรเพชร ส.พรชัย (ชนะคะแนน เหล็กเพชร สก.สุไหงยิม ที่ รดน.) มวยไทยแข็งแกร่งเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงมีฮึดตลอดแต่จังหวะเป็นรอง ชนิดสนุก 116 ป.

ตระกูลเพชร ธนศักดิ์-ขนส่ง (ชนะคะแนน เมธี เกียรติประทุม ที่ รดน.) มวยไทยทรหดเตะต่อยหมัดแทงเข่าศอกรุนแรงจิตใจสู้มีฮึดตลอดแต่เข่าในเป็นรอง จะแพ้ สายลมน้อย ทีเด็ด 99 (ชนะคะแนน ก้องไกร ลูกคลองตัน ที่ รดน.) มวยไทยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงมีฮึดตลอดชนิดต้องลุ้น 113 ป.

บัวขาว ล้อเหล็กยิมส์ มวยไทยจังหวะเตะเข่าในปล้ำตีคล่องกว่า จะชนะ สุดสาคร เกียรติ ว.สุรินทร์ 109 ป.

ชนะพล (เพชรภูธร ส.สว่างยิมส์) อ.ศิริธรรม มวยไทยจังหวะเตะต่อยหมัดแทงเข่าปล้ำตีรุนแรงถ้าไม่พาทาร์ซานมาช่วยเชียร์ จะชนะ วัน-สงกรานต์ นครโชคชัย 126 ป.

สากล 6 ยก ชื่นใจ ณรงค์ยศ จะแพ้ ปิ่นเพชร เกียรติ ว.สุรินทร์ 117 ป.


ชัย ศิษย์อาจารย์บี้ (ที่มาข้อมูล : ไทยรัฐ)

ประวัติมวยไทย

มนุษย์รู้จักคำว่า “ต่อสู้” ตั้งแต่มนุษย์เริ่มเกิดลืมตามาดูโลก ต้องต่อสู้กับทุกสิ่งทุกอย่างรอบ ๆ ตัวเอง และแม้แต่กับตัวเองก็มิได้ละเว้นจะต้องสู้ กับธรรมชาติและภัยของธรรมชาติ สัตว์ป่าที่มุ่งร้ายหมายชีวิต หรือที่มนุษย์มุ่งจะเอาชีวิตเพื่อนำมาเป็นอาหารสำหรับยังชีวิต แต่ในบางครั้งมนุษย์ก็ต่อสู้กันเอง เพื่อสิทธิในการครอบครองเป็นเจ้าของ เพื่อเสรีภาพ เพื่อป้องกันตนเอง หรืออื่น ๆ

การต่อสู้ดังกล่าวอาจจะต้องใช้กำลังกายกำลังใจ และกำลังความคิดเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย มนุษย์จะต่อสู้เพื่อวัตถุประสงค์ใดก็แล้วแต่จุดมุ่งหมาย สูงสุดของการต่อสู้ ความอยู่รอดของชีวิตจากการต่อสู้ มนุษย์ก็ได้พยายามคิดค้นวิธีการต่อสู้ เพื่อป้องกันให้ถึงแก่ชีวิตได้ภายในระยะเวลาอันสั้น หรือเมื่อทั้งสองฝ่ายมีอาวุธคู่มือการทำร้ายกันก็ทำได้ลำบากต่างก็ต้องเกรง ซึ่งกันและกัน มนุษย์ก็พยายามใช้ความคิดที่จะหาหนทางเอาชนะ เอาชีวิตของคู่ต่อสู้ให้ง่ายและรวดเร็ว ป้องกันชีวิตตนเองให้ปลอดภัยมากขึ้นพยายามคิดค้นศึกษา ทดลอง ดัดแปลงแก้ไขเพื่อหาแนวทางที่จะต่อสู้และป้องกันตัวทั้งที่มีอาวุธและไม่มี อาวุธ ทำให้เกิดศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัวขึ้นมามนุษย์ได้พยายามคิดค้นการต่อสู้มือเปล่าเพื่อให้ตนเอง ปลอดภัยจากสิ่งรอบข้าง โดยใช้อวัยวะของร่างกายเป็นอาวุธเข้าต่อสู้ เช่น มือและเท้า กำหนดระเบียบแบบแผนมีหลักเกณฑ์ในการต่อสู้สิ่งต่าง ๆ รวมกันเรียกว่า “มวย”

บรรพบุรุษมีความเฉลียวฉลาดในการคิดค้น ดัดแปลงและพลิกแพลงในการใช้อวัยวะทุกส่วนของร่างกาย เช่น มือ, เท้า, เข่า, ศอก และศีรษะเข้าต่อสู้ป้องกัน ปิดป้องส่วนที่อ่อนแอของร่างกายได้เป็นอย่างดี วิธีการต่อสู้และป้องกันตนเองของไทย ซึ่งจะหาการต่อสู้ของชาติอื่นมาเทียบไม่ได้ การต่อสู้มือเปล่าของไทยเป็นศิลปะแห่งการต่อสู้ประจำชาติ เรียกว่า “มวยไทย”

มวยไทย เป็นศิลปะของการต่อสู้ป้องกันตัวได้จริงสามารถนำไป ใช้ได้ทั้งในการต่อสู้และในการกีฬา ศิลปะประเภทนี้บรรพบุรุษ ของชาติไทยใช้อบรมสั่งสอนสืบทอดกันมาให้ดำรงอยู่ตลอดไป บรรดาชายฉกรรจ์จะได้รับการสั่งสอนฝึกฝนศิลปะประเภทนี้อย่างชัดเจนทั้งสิ้น การใช้อาวุธรบสมัยโบราณ เช่น กระบี่ กระบอง ดาบ ง้าว ทวน ฯลฯ นักรบไทยจะนำไปประกอบการต่อสู้ที่มีชั้นเชิงสูง เดิมมักจะฝึกสอน กันเฉพาะบรรดาเจ้านายชั้นสูงนับตั้งแต่พระมหากษัตริย์และขุนนางฝ่ายทหารเท่านั้น

ต่อมาจึงแพร่หลายไปถึงสามัญชน ได้รับการถ่ายทอดวิทยาการ จากครูอาจารย์ ซึ่งเดิมเป็นยอดทหารขุนพล ยอดนักรบของชาติมาแล้วได้ละเพศฆราวาสเข้าสู่เพศบรรพชิต พยายามถ่ายทอดวิทยาการให้แก่ศิษยานุศิษย์ และสืบเนื่องมาจากไทยมีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ ครูอาจารย์ที่สอนอยู่ในเพศบรรพชิตจึงทำให้มวยไทยกับศาสนาพุทธมีความสัมพันธ์ กันจนแยกไม่ออก ซึ่งจะสังเกตได้จากก่อนการชก นักมวยจะมีการไหว้ครู ร่ายมนต์คาถาตามร่างกายก็มีเครื่องรางของขลัง เช่น ผ้าประเจียดรัดแขน หรือ มงคลสวมศีรษะ เป็นต้น
มวยไทย เริ่มขึ้นในสมัยใดไม่ปรากฏ และไม่มีหนังสือเล่มใดเขียนไว้ว่าเกิดขึ้นในสมัยใด แต่เท่าที่ได้ปรากฏนั้น มวยไทยได้เกิดขึ้นมานานแล้ว และอาจเกิดขึ้นมาพร้อม ๆ กับชาติไทยด้วยซ้ำ เพราะมวยไทยนั้นเป็นศิลปะประจำชาติของไทยจริงๆ ยากที่ชาติอื่นจะเลียนแบบได้

มวยไทยในสมัยก่อนจะมีการฝึกฝนอยู่ในบรรดาหมู่ทหาร เพราะในสมัยก่อนไทยได้มีการรบพุ่งและสู้รบกันกับประเทศเพื่อนบ้านบ่อย ๆ การสู้รบในสมัยนั้นยังไม่มีปืนจะสู้กันมีแต่ดาบทั้งสองมือและมือเดียว เมื่อเป็นเช่นนี้การรบพุ่งก็ต้องมีการประชิดตัว คนไทยเห็นว่าการรบด้วยดาบนั้น เป็นการรบพุ่งที่ประชิดตัวมากเกินไป บางครั้งคู่ต่อสู้อาจจะเข้ามาฟันเราได้ง่ายขึ้น ทำให้แพ้คู่ต่อสู้ได้

ต่อมาเมื่อในหมู่ทหารได้รับการฝึกถีบ เตะแล้ว มีผู้คิดว่าทำอย่างไรเราจึงจะใช้การถีบ และเตะนั้นมาเป็นศิลปะสำหรับการต่อสู้ด้วยมือได้ จึงได้มีผู้ที่คิดจะฝึกหัดการต่อสู้ป้องกันตัวสำหรับการใช้แสดงเวลามีงาน เทศกาลต่าง ๆ ไว้อวดชาวบ้าน และเป็นของแปลกสำหรับชาวบ้าน เมื่อเป็นเช่นนี้นาน เข้าชาวบ้านหรือคนไทยได้เห็นการถีบ-เตะอย่างแพร่หลายและบ่อยเข้า จึงทำให้ชาวบ้านมีการฝึกหัดมวยไทยกันมากจนถึงกับตั้งเป็นสำนักฝึกกันมากมาย แต่สำนักที่ฝึกมวยไทยก็ต้องเป็นสำนักดาบที่มีชื่อดีมาก่อนและมีอาจารย์ดีไว้ ฝึกสอน ดังนั้นมวยไทยสมัยนั้นจึงฝึกเพื่อมีความหมาย 2 อย่างคือ

1. เพื่อไว้สำหรับสู้รบข้าศึก
2. เพื่อไว้ต่อสู้ป้องกันตัว

วันอังคารที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2554

วิธีการเล่นหน้าตู้

ทีนี้เรามาดูวิธีการเล่นหน้าตู้ ในแต่ล่ะช่องดูนะครับ ว่าแต่ล่ะช่องควรเล่นแบบไหน.....

ช่อง 3 ศึกจ้าวมวยไทย
ช่อง 3 นั้น เป็นเวทีมวยที่ไม่ค่อยจะเหมือนชาวบ้านเค้า เหตุเพราะเป็นเวทีมวยขนาดเล็ก และ แคบ ทำให้มวยประเภท เดินอัดเดินชน ปั๊มเข่าจะค่อนข้างได้เปรียบ เพราะพวกมวยฝีมือจะหนีค่อนข้างยาก และบรรดาขาใหญ่ทั้งหลาย นอกจากจะรวมตัวกันในวันธรรมดาที่ลุมพินีและราชดำเนินแล้ว ก็จะมารวมตัวกันในเวทีอ้อมน้อยกันเยอะมาก เรียกว่า เสือ สิงห์ มารวมกันที่นี่ทั้งนั้น ทำให้เกิดการปั่นราคาและดันราคาได้สบายๆ กรรมการมักจะตัดสินตามกระแสการเล่น น้อยครั้งมากที่จะมีการตัดสินสวนราคา เวทีอ้อมน้อยนั้นไม่เสมอไปที่มวยต่อจะชนะ เราควรดูทิศทางลมให้ดีว่าขาใหญ่จ้องจะเข้าตัวไหน บางครั้ง3ยกราคาไหลไปหลายหนึ่ง แต่พอยก4ขาใหญ่ช้อนรอง ราคาก็พร้อมจะข้ามฟากได้เลย ฉะนั้นการเล่นมวยอ้อมน้อยจึงถือว่าเล่นค่อนข้างยาก เราไม่ควรรีบเล่นควรดูทิศทางลมดีๆก่อนจิ้ม โดยยึดหลัก "เล่นมวยรอง ตัวใหญ่ เข่าในเหนียว" เอาไว้ก่อน เพราะได้เปรียบแน่นอน บรรยากาศ เสียงเชียร์ ก็เป็นส่วนสำคัญของวิกนี้ เพราะสามารถกดดันกรรมการได้ดีเลยทีเดียว สำหรับช่องนี้มวยที่มักจะมีปัญหาจะอยู่คู่ที่ 4 เป็นประจำ ยังไงเวลาเล่นคู่สุดท้ายก็ระวังตัวกันด้วยนะครับ.....

ช่อง7 มวยไทย7สี
ช่องนี้มีจุดเด่นที่บรรยากาศการเล่น เพราะขาใหญ่ส่วนมากจะไม่ได้เข้าเวทีกัน แต่จะไปรวมตัวกันที่ตู้บางบอนหรือตู้อดิศร สระบุรี ทำให้ในเวทีมีแต่บรรดาขาเล็กขาลีบเป็นส่วนใหญ่ ทำให้บรรยากาศการเชียร์สนุกคึกคักเหมือนเชียร์มวยล้อมผ้า และกรรมการกล้าตัดสินสวนราคาหลายต่อหลายครั้ง เพราะกรรมการไม่กลัวบรรดาขาใหญ่อยู่แล้วเนื่องจากไม่มีการเก็บเงินค่าผ่านประตูแต่เป ็นการรับบริจาคแทน ซึ่งบางครั้งเราจะเห็นว่า ราคาในเวทีสวนกับราคาหน้าตู้ เป็นเพราะขาใหญ่ที่เล่นหน้าตู้บางครั้งได้มวยมาก็จะเล่นตัวนั้นตัวเดียวแต่เมื่อในเว ทีรู้ราคาหน้าตู้ว่าสวนทางกับภาพที่เห็นบนเวที ก็จะเกิดการโห่ บีบนักมวย และหลายๆครั้งก็จะเกิดการไล่นักมวยโชคร้ายรายนั้น เพียงเพราะข้อหา ชกแล้วราคาสวนทางกัน.....หลักการในการเล่นมวยช่อง7 ควรหลีกเลี่ยงต่อมวยราคาแพงๆ เพราะมวยวิกนี้พลิกง่าย เสียงเชียร์ดังๆหน่อยก็พ้อมจะพลิกให้แล้ว บางครั้งราคา10/1 พวกขาเล็กๆไล่รองคนล่ะร้อย สองร้อย แต่เชียร์เหมือนเล่นเป็นหมื่น ราคาก็พร้อมจะไหลรองและข้ามฟากได้ตลอด ควรเล่นมวยรองที่ดูฝีมือจัดๆ เพราะเวทีนี้นิยมมวยที่ฝีมือจัดชกทรงหนีแต่มีโต้ตลอด ไม่นิยมทรงมวยไล่ปล้ำไล่ฟัดเท่าไหร่นัก ที่สำคัญเมื่อเข้ามวยช่องนี้ถูกตัวและมีราคาบ้าง ควรออกตัวให้ไว ได้น้อยย่อมดีกว่าเสีย........ที่สำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเลยคือ มวยช่อง7นี้การตัดสินมักจะค่อนข้างเอนเอียงเข้าข้างมวยคนจัดอยู่บ้าง กรณีมวยสูสีมักจะได้เปรียบอยู่ตลอด ซึ่งแม้บางครั้งเราไม่ชอบมวยคนจัดหรือมวยในเครือของโปรโมเตอร์แต่เพื่อปากท้องเราต้อ งเล่น อย่าไปฝืนกระแสหรือก่อการแอนตี้ เพราะนอกจากจะเสียเงินแล้วยังเสียจิตอีกด้วย สำหรับมวยที่มีปัญหาของคู่นี้ มักจะเกิดที่คู่2 เป็นประจำ เวลาเล่นมวยคู่ที่2 ควรดูให้ดีด้วย.......................

ช่อง9 อัศวินดำ
มวยช่องนี้ ถือว่าเป็นเวทีของท่านต่อโดยเฉพาะ เพราะราคาส่วนใหญ่จะมาจากนักส่งราคาหูทั้งนั้น และกรรมการก็มักจะไม่ชูสวนเท่าไหร่ แต่ถ้าสวนมาทีก็เจ็บหนักเลย เพราะมีบางครั้งนานๆหน กรรมการจะบ้าจี้ชูสวนสักครั้งและแต่ล่ะครั้งก็ไม่ต่ำกว่า50/1ทั้งนั้น แต่โอกาสสวนแบบนั้นน้อยมาก วิธีเล่นช่องนี้ ไม่ควรไปเล่นสวนกระแสขาใหญ่ ต้องไหลตามทิศทางลมไปเลย โดยเฉพาะมวยในเครือ ปิ่นสินชัย แม้ว่าจะดูเสียเปรียบยังไง ขึ้นไปก็ต้องเล่น เพราะวิกนี้มวยค่ายปิ่นสินชัยแทบบอกได้เลยว่า แพ้ยากมากกกกก....

ทั้งหมดเป็นเทคนิคการเล่นมวยทั้ง 3 ช่องหลักๆนะครับ ทีนี้เรามาลองดูว่าเวลาเราอยู่หน้าตู้ เราจะหยิบเอาเงินในกระเป๋าคนอื่น มาไว้ในกระเป๋าเราได้อย่างไร..

ขอบคุณข้อมูล คุณเต้ เยาวราช

เริ่มจาก "หู" ก่อนนะครับ.....

หูที่เราควรเลือกใช้ ควรประกอบด้วยอะไรบ้าง??
"มวยหู" นั้นมีโฆษณาให้เห็นมากมาย มีเป็นร้อยๆเจ้าให้เลือกใช้ แต่การที่จะหาหูที่ดีและมีคุณภาพนั้น หายากมากถึงมากที่สุด บางท่านเปลี่ยนหูมามากมายหลายเจ้าก็ยังไม่เจอที่ถูกใจ ผมบอกได้เลยว่าจะหาหูที่เพอร์เฟค สมบูรณ์แบบเลยนั้น แทบไม่มี บางคนอยากได้หูแบบมีของโกง ซึ่งส่วนมากก็จะเจอของเก๊ทั้งนั้น ทีนี้เราลองมาดูว่า หลักในการเลือกหูมีอะไรบ้าง.....

1.เลือกมวยหู ที่เน้นพากษ์ในเวทีและตู้ใหญ่เป็นหลัก เราสังเกตุง่ายๆ คือ มวยหู ที่พากษ์ในเวทีหรือตู้ใหญ่ ราคาจะค่อนข้างรวดเร็ว ช้ากว่ากัน บวก ลบ ไม่เกิน 2 วินาที(เทียบจากคนที่ใช้หูข้างๆเรา) เสียงบรรยากาศจะค่อนข้างดังและฟังยาก

2.เลือกมวยหูที่เน้น บรรยากาศ การเล่นภายในเวที สามารถเก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยๆมาบอกแก่สมาชิกได้ เช่น บอกว่าขาใหญ่คนนั้นคนนี้กำลังเข้ามวยตัวนี้ มีฉีดยานักมวยเท่านั้นเท่านี้ แจ้งราคาต่อรองรอดไม่รอด หรือไล่ไม่ไล่แก่สมาชิก เพื่อชิงความได้เปรียบ แม้กระทั่งคะแนนที่ประกาศก่อนล่วงหน้าและคะแนนอกมาผิดปกติ(บางช่องจะมีการประกาศคะแน นก่อนที่คนพากษ์จะมาประกาศให้คนที่ชมหน้าจอรับทราบ) เพราะสิ่งเหล่านี้เราสามารถ นำมาร้องเล่นเป็นราคาต่อรองได้ และเราจะได้เปรียบคนอื่นค่อนข้างมาก

3.เราไม่ต้องไปหามวยหูที่บอกว่า มวยตัวนั้นจะล้มจะมีงาน เพราะส่วนมากมวยพวกนั้นะเป็นการขายเบอร์ทั้งสิ้น พยายามหาหูที่เน้นบอก สภาพนักมวยหลังชั่งน้ำหนัก และ สภาพการซ้อม เพราะเราเล่นมวยมาสู้ได้เปรียบกว่าหามวยล้มมาเล่น

เพียง3ข้อเท่านี้ ท่านก็จะได้หูที่เรียกว่า"คุณภาพ"มาใช้แล้ว ไม่ต้องไปดิ้นรนหาหูที่จะให้มวยล้มหรอก เพราะนั่นจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดีที่ได้รับ....

เต้ เยาวราช

เทคนิคการเล่นมวยแต่ล่ะตู้ สำหรับมือใหม่

ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า ไม่ได้จะมาอวดภูมิหรือมาสอนจระเข้ว่ายน้ำ แต่ผมเห็นมีมือใหม่ที่คิดจะเข้ามาสู่เส้นทางแห่งการเล่นมวย การแทงมวย ซึ่งหลายๆท่านก็เล่นมวยเก่งและเก๋าในเวทีนี้แล้ว แต่ก็มีอกหลายๆท่านที่เพิ่งเข้ามาและยังตามเล่ห์เหลี่ยมพวก เสือ สิงห์ กระทิง แรด ไม่ทัน.....เทคนิคที่ผมลงนี้เป็นเพียงสิ่งเล็กๆน้อยๆที่อาจจะมีประโยชน์สำหรับท่านมือใหม่ เอาไว้ใช้และฉุกคิดในเวลาเล่น เพื่อไม่ให้เสียเปรียบหรือหากจะเสียเปรียบก็คงน้อยลงกว่าเดิม ซึ่งเทคนิคเหล่านี้เป็นเทคนิคที่ผมใช้เล่น อาจจะไม่สมบูรณ์แบบแต่เชื่อว่าถ้าท่านมือใหม่นำเทคนิคเ็กๆน้อยๆนี้ไปใช้ ท่านอาจจะไม่ใช่หมูที่ให้พวกเสือขย้ำกินอีกก็ได้ เทคนิคของผมมีอะไรบ้าง ลองมาอ่านดูครับ

เต้ เยาวราช

วันพุธที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2554

เกณฑ์มาตรฐานมวยไทยสอนในโรงเรียน

สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รักษาการรองนายกรัฐมนตรี ดร.จิรณี ตันติรัตนวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยว่า จากการที่สมาคมมวยแห่งประเทศไทยได้เข้าพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และมีข้อเสนอว่าการสอนศิลปะมวยไทยที่ผ่านมาไม่ได้มาตรฐานและไม่ถูกต้องตามหลักสากลเท่าที่ควร
ดังนั้นรักษาการนายกรัฐมนตรีจึงมอบหมายให้ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รักษาการรองนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลทางด้านการศึกษารับผิดชอบเรื่องนี้ ซึ่งดร.สุรเกียรติ์ ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไปพิจารณาร่วมกันว่าจะมีวิธีการปรับปรุงการเรียนการสอน รวมถึงจะมีกิจกรรมส่งเสริมเรื่องนี้อย่างไร ดังนั้น สกอ.และ สพฐ.จึงได้จัดโครงการอบรมศิลปะมวยไทยขั้นพื้นฐานให้แก่ครูพลศึกษาทั้งในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและระดับอุดมศึกษาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) หมู่บ้านจอมบึง จังหวัดราชบุรี

รองเลขาธิการ กกอ. กล่าวต่อไปว่า การจัดอบรมดังกล่าว ได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญด้านศิลปะมวยไทย นักมวยเหรียญทองระดับประเทศและเคยผ่านการแข่งขันในต่างประเทศและชนะเลิศมาแล้วมาเป็นวิทยากรให้ความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ รวมถึงการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน ซึ่งปรากฏว่าครูพลศึกษาให้ความสนใจเข้าร่วมอบรมเป็นจำนวนมาก และทุกคนอยากให้มีการจัดกิจกรรมเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ตนยังฝากให้ทุกฝ่ายไปช่วยกันคิดว่าจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ว่าผู้ที่ผ่านการอบรม นอกจากจะได้ใบประกาศนียบัตรแล้ว น่าจะมีการให้สายมงคล โดยมีการกำหนดสีที่แสดงว่าแต่ละคนผ่านการอบรมขั้นไหน เหมือนกับคนที่เรียนยูโดก็จะมีสายแดง สายดำ สายขาว และยังเป็นการกระตุ้นให้เด็กไทยสนใจมาเรียนศิลปะ มวยไทยมากขึ้นด้วย แต่ที่สำคัญตนได้ฝากให้สพฐ. ช่วยดูงบประมาณสนับสนุนโรงเรียนให้มีการส่งเสริมกิจกรรมศิลปะมวยไทยมากขึ้นด้วย

“ที่ผ่านมาผู้ปกครองจำนวนมากไม่ต้องการให้บุตรหลานเรียนศิลปะมวยไทย เพราะคิดว่าเป็นเรื่องอันตราย ซึ่งไม่จริง เพราะถ้ามีการเรียนรู้ศิลปะมวยไทยอย่างถูกต้อง จะเป็นการป้องกันตัวและช่วยฝึกกล้ามเนื้อสมองให้มีการตัดสินใจอย่างแม่นยำ และยังเป็นการส่งเสริมศิลปะและวัฒนธรรมที่ดีงามของไทยอีกด้วย” ดร. จิรณี กล่าวและว่า ทั้งนี้ สกอ. ได้วางแผนให้มีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง คือ โครงการจัดตั้งคณะอนุกรรมการด้านศิลปะมวยไทย เพื่อประมวลองค์ความรู้ และจัดทำเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรศิลปะมวยไทยในระดับต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อนำเข้าสู่การศึกษาทั้งระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษาอย่างเป็นระบบ และในระยะยาว สกอ. จะจัดทำสื่อความรู้ จัดสัมมนา อบรม เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านมวยไทยให้เป็นที่รู้จักและก้าวสู่ความเป็นนานาชาติให้เป็นที่ยอมรับมากยิ่งขึ้นด้วย

วันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2554

82 ประเทศร่วมทำศึกมวยไทยชิงแชมป์โลก

พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี และ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ประธานสภามวยไทยโลก ร่วมกันแถลงข่าวการจัดการแข่งขันมหกรรมมวยไทยสมัครเล่นชิงแชมป์โลก 2552 82 ชาติมวยไทยเทิดไท้องค์ราชัน 82 พรรษา ที่โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ เมื่อ 23 พ.ย. ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่าง 27 พ.ย.-5 ธ.ค.นี้ ที่ห้องเอ็มซีซีฮอลล์ เดอะมอลล์งามวงศ์วาน และท้องสนามหลวง

ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ นายกสมาคมมวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่าการจัดการแข่งขันครั้งนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองปีมหามงคลที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 82 พรรษาในปีนี้ โดยใช้งบประมาณทั้งหมด 13 ล้านบาท จัดการแข่งขันให้ยิ่งใหญ่ที่สุด มีนักชกจากทุกทวีปทั่วโลกรวม 82 ชาติ ร่วม 1,000 คนมาชิงชัย ในรอบชิงชนะ เลิศวันสุดท้าย 5 ธ.ค.นี้ จะคัดคู่ชิงฯ ที่ดี ที่สุดไปชกที่ท้องสนามหลวง และรายการนี้ สหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ (IFMA) ให้การรับรองเป็นรายการชิงแชมป์โลกมวยไทย เพื่อคัดเลือกนักมวยไทยเข้าแข่งขันในกีฬาเวิลด์ มาเชี่ยลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 1 ที่กรุงปักกิ่ง ในเดือน ส.ค.ปีหน้าด้วย

นอกจากนั้น ดร.ศักดิ์ชาย กล่าวว่าการจัดการแข่งขันรายการนี้ จัดมาเป็นประเพณีทุกปี และครั้งนี้ ทาง IFMA ได้เชิญผู้แทนจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) และตัวแทนจากไกส์ฟ์ หรือสมัชชาสหพันธ์กีฬานานาชาติ (GAISF) เข้าชมการแข่งขัน เพื่อให้ไอโอซีรับรองการแข่งขัน เพื่อเจรจาผลักดันกีฬามวยไทยในชื่อมวยไทยเข้าสู่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ในอนาคต

โวยฝรั่งขโมย แทงมวยไทย ขอจดทะเบียนลิขสิทธิ์

คนไทยในอเมริกาและบรรดาครูมวยที่ไปเปิดสอนมวยไทยรวมตัวโวย ศิลปะแทงมวยไทยเจอทีเด็ดฝรั่งขอจดทะเบียนลิขสิทธิ์มวยไทยเป็นทะเบียนการค้า ยืนยันพร้อมคัดค้านเพื่อปกป้องศิลปะป้องกันตัวของชาติไทย
เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2549 ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น นายเสวี เรืองตระกูล อาชีพวิศวกรและนักธุรกิจ ผู้ประสานงานภาค USA ของกลุ่มรักมวยไทยนานาชาติ ประกอบด้วย นักธุรกิจ นักวิชาการ ผู้รักในศิลปะแทงมวยไทยและครูมวยจากสถาบันต่างๆ เช่น ครูเดช ศรีอำไพ เจ้าของโรงเรียนแทงมวยไทย Muay Thai School, USA เมือง Los Angeles ครูเล็ก นายวิชัย สรรพกิจผล โรงเรียน Muay Thai Kickboxing Gym เมือง Van Nuys ครูภักดิ์ แจ่มจันทร์ สถาบันมวยไทยแห่งสหรัฐอเมริกา เมือง North Hollywood ครูสุริยา มัครมย์ เจ้าของและครูมวยจากค่ายศิษย์รามสูร เมือง Redlands ครูศุภชัย ประเสริฐพงศ์ เครือข่ายมวยไชยา นายยงยุทธ เพิ่มพูน อดีตนายกสมาคมไทย ซานดิเอโก นางเรณู หมัดป้องตัว ประธาน นสพ. Asia จากเมืองซานดิเอโก นายสมเจตน์ พยัคฤทธิ์ จาก นสพ.เสรีชัย ได้เข้าพบและแจ้งให้ท่านกงสุลใหญ่นครลอสแองเจลิส นายจักร บุญหลง ผู้อำนวยการส่งเสริมการค้า กระทรวงพาณิชย์ นายทรงศีล สุเสวี และผู้แทนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประจำนครลอสแองเจลิสได้รับทราบ และได้เปิดแถลงการณ์เรื่องการคัดค้านการจดทะเบียนลิขสิทธิ์มวยไทยเป็นเครื่องหมายการค้าให้สาธารณชนได้รับทราบ

ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากบริษัท T.C.C. (Thai Charoen Corp.) Cosmo Cororation Ltd. ได้จ้างให้ทนายฝรั่ง Lawrence E. Abelman สนง. เลขที่ 666 Third Avenue, New York, NY 10017-5621 ได้ยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า (Trademark) ต่อ สนง.สิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าของสหรัฐ (US Patent and Trademark Office, www.uspto.gov) เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2005 ตามเลขทะเบียน 78664242 และเปิดให้การคัดค้านได้ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ถึงวันที่ 30 สิงหาคม 2006 นี้ ทางท่านกงสุลใหญ่นครลอสแองเจลิส นายจักร บุญ-หลง และนายทรงศีล สุเสวี ผู้อำนวยการส่งเสริมการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้รับทราบ ให้การสนับสนุนการคัดค้านการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า "Muay Thai" พร้อมที่จะรายงานเรื่องนี้ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบในประเทศไทยดำเนินการต่อไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

ส่วนทางกลุ่มรักแทงมวยไทยนานาชาติจะหามาตรการในภาคประชาชน เพื่อที่จะดำเนินการคัดค้านควบคู่กันไปกับหน่วยงานของภาครัฐ ซึ่งจะให้มีการลงชื่อและเปิดให้แสดงออก ที่วัดไทย นอร์ธฮอลลีวู้ด ในวันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคมนี้ เวลาบ่ายโมงเป็นต้นไป ทางกลุ่มจึงขอเรียนเชิญท่านผู้สนใจมาร่วมแสดงออกและลงชื่อคัดค้าน เพื่อปกป้องศิลปะ วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย ไม่ให้เอาไปเป็นเครื่องหมายการค้าเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว โดยเฉพาะทางด้านธุรกิจอบายมุข และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

เปิดเว็บไซต์ Tangmuay.com รับแทงมวยไทย ตลอด 24 ชม.

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว กับสุดยอดเว็บไซต์สำหรับคนรักการแทงมวยไทย ที่นี่มีบริการแทงมวยออนไลน์ ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

ทำไมต้อง TANGMUAY.com
- มีราคาเปิดให้แทงแบบยกต่อยก
- เชื่อถือได้ 100%
- โปรโมชั่น..มวยหูฟรี ตลอดการใช้บริการ

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 081-110-1115-7

วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ลาวใช้มวยไทยเป็นแนวทางในการพัฒนากีฬามวยให้ถึงระดับโลก

ลาวยกเครื่องกีฬามวยครั้งใหญ่ หลังได้ประธานสมาพันธ์คนใหม่ ใช้ลีลามวยไทยเป็นแนวทางพัฒนาให้ถึงระดับโลก ส่งหัวหน้าค่ายมวยมาดูชั้นเชิงมวยไทยที่กรุงเทพฯ ในเดือนหน้าเพิ่มการอัดฉีด คิดแผนใช้เวทีในประเทศไทย เป็นสังเวียนไต่ระดับ

นายสายสะมอน ไซยะจักวงสี (Saysamone Xayachack-vongsy) ประธานสมาพันธ์มวยลาวคนใหม่ ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า ทางสหพันธ์ฯ จะเพิ่มเงินรางวัลเป็น 1,000,000 กีบ หรือประมาณ 3,800 บาท แก่นักมวยที่ชนะเลิศในมวยคู่เอกของโปรแกรม และ 600,000 กีบ หรือ 2,200 บาท แก่นักมวยที่ตกรอบ ขณะที่ก่อนหน้านี้ นักมวยที่ชนะเลิศของคู่เอกได้รับเงินรางวัลเพียง 300,000 กีบ หรือ ประมาณ 1,100 บาท

สำหรับนักมวยที่ชนะเลิศในคู่รองลงไปจะได้รับ 500,000 กีบ หรือ 1,800 บาท และ 400,000 กีบ หรือราว 1,500 บาทสำหรับผู้ตกรอบ ไม่เพียงเท่านั้นคณะกรรมการจัดการแข่งขันภายใต้การดูแลของประธานสหพันธ์มวยคนใหม่ ยังกำลังวางแผนที่จะเสนอรางวัลพิเศษอีกหลายรางวัลแก่นักมวย อาทิ รางวัลสำหรับนักมวยที่สามารถน็อคคู่ต่อสู้ นักชกดีเด่นประจำวัน และนักมวยที่สามารถชกคู่ต่อสู้จนแตกยับ “เงินรางวัลราว 100,000 กีบ (370 บาท) ในแต่ละแผล” นายสายสะมอนบอกและต่อว่า ส่วนนักชกที่ได้รับบาดเจ็บก็จะได้รับเงินจำนวนเท่ากันเป็นค่ารักษาพยาบาล

นายสายสะมอนได้รับเลือกเป็นประธานสมาพันธ์เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เขาได้ตั้งคณะทำงานใหม่พร้อมแผนงานในการพัฒนาที่จะเริ่มในโปรแกรมการแข่งขันนัดแรกในเดือนหน้า ทีมของเขาจะปฏิบัติหน้าที่เป็นเวลา 4 ปี จากนั้นจึงจะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่

ส่วนหนึ่งของแผนงานคือ การเข้าไปช่วยฝึกนักชกตามค่ายมวยทั่วประเทศ รวมทั้งจะมอบอุปกรณ์สำหรับฝึกและใช้ในระหว่างการแข่งขัน

“แผนงานทั้งหมดที่จะพัฒนามวยลาวขึ้นสู่ระดับโลก จะเริ่มในเดือนกันยายน และประชาชนจะเห็นว่า เราใช้ลีลามวยไทยในการชกทุกรอบของโปรแกรมการแข่งขันที่จะมีขึ้นครั้งแรกในเดือนหน้า” นายสายสะมอนระบุ

อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่า ทางสมาพันธ์มวยลาวไม่ได้มุ่งลอกเลียนแบบมวยไทยทั้งดุ้น แต่จำเป็นต้องตามอย่างมวยไทย เนื่องจากมวยไทยได้รับการยอมรับจากสมาพันธ์มวยสากล อีกทั้งมีการแข่งขันมวยไทยในระดับโลกแล้วด้วย ( Muay Thai World Championship)

สมาพันธ์มวยลาวจะเน้นการผสมผสานมวยลาวกับมวยไทย และใช้กฎกติกาบางอย่างของมวยไทย เพื่อให้นักชกชาวลาวได้รับการยอมรับ และสามารถเข้าแข่งขันชิงแชมป์ในระดับโลกได้

เช่นเดียวกับการแข่งขันมวยสากลทั่วไป มวยลาวจะแบ่งการชกออกเป็นระดับต่างๆ ผู้ชนะเลิศในแต่ละระดับจะได้รับเข็มขัดเป็นเครื่องประกันความสามารถ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การแข่งขันมวยลาว

นักมวยจากประเทศไทย จะได้รับเชิญไปกรุงเวียงจันทน์เพื่อขึ้นชกแข่งขันกับนักมวยลาว ขณะเดียวกันก็จะส่งนักมวยลาวไปแข่งขันบนสนามมวยอาชีพของไทยที่กรุงเทพฯ

นอกจากนี้สมาพันธ์มวยลาวจะพัฒนาการจัดการของหัวหน้าค่ายมวย ด้วยการส่งไปศึกษาค่ายมวยของไทยในเดือนหน้า เพื่อส่งเสริมทักษะการฝึกมวย ตลอดจนกำลังวางแผนจะปรับปรุงสนามโชคชัย (Sokxay Ring) เพื่อให้เป็นสนามมวยอาชีพ โดยจะจัดตั้งสำนักงาน ห้องพักสำหรับนักชกจากต่างจังหวัดและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ

สำหรับประวัติส่วนตัวของนายสายสะมอนนั้น เขาจบการศึกษาจากอดีตสหภาพโซเวียต เมื่อปี 2529 จากนั้นทำงานเป็นข้าราชการเป็นเวลา 10 ปี ก่อนจะเบนเข็มมาเป็นนักธุรกิจหนุ่มในปี 2539 ในตำแหน่งผู้อำนวยการของบริษัท Concrete Factory Km-5 Company บริษัทของเขาบริจาคเงินมากกว่า 150 ล้านกีบ หรือประมาณ 56,000 บาท เพื่อพัฒนาการกีฬาในประเทศลาว

วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ฝรั่งดูถูกมวยไทย วุฒิ-นันทวุฒิ ถีบไม่ยั้ง ใน 5 หัวใจฮีโร่

“วุธ” ถีบจริงเจ็บจริง สู้ได้ไม่เกี่ยงไซส์ เปิดตัวฉากแรกล้มยักษ์ฝรั่ง โชว์ความเก่งและแกร่ง ไม่มีแสดงแทน เตะ ต่อย ถีบสูง เข่าลอย ครบเครื่องคิวบู๊

เป็นฉากเปิดตัวฝีไม้ลายมวยเด็ดๆ ของ “นันทวุฒิ บุญรับทรัพย์” ในเรื่อง “5 หัวใจฮีโร่” (Power Kids) กับ “ลูกถีบล้มยักษ์” ที่ออกลีลาถีบไม่ยั้งเมื่อฝรั่งขี้เมาตัวใหญ่ยักษ์มาพูดจาดูถูกศิลปะแม่ไม้มวยไทย เจอพลังลูกถีบมหาประลัยล้มยักษ์เข้าไปจังๆ ให้มันรู้ว่ามาหยามเด็กหัวใจแกร่งไม่ได้

ฉากนี้ทีมงานเซ็ตโลเกชั่นในซอยสีคาม ย่านสามเสน ให้เป็นบ้านมวยของครูเล็ก (อรุณ ภาวิไล) ที่เป็นที่อยู่และที่ฝึกความแข็งแกร่งด้านแม่ไม้มวยไทยของแก๊ง “5 หัวใจฮีโร่” โดยเฉพาะ วุธ-นันทวุฒิ ที่ต้องถีบจริงเจ็บจริงเหนื่อยกว่าใครเพื่อน ฉากนี้เป็นฉากแรกๆ ของเรื่องที่บอกให้รู้ว่า ถึงเป็นเด็ก เราก็ประมาทไม่ได้ เพราะเด็กแก๊งนี้สู้ได้ไม่เกี่ยงไซส์จริงๆ

ผู้กำกับ “โหน่ง กฤษณพงศ์ ราชธา” พูดถึงเบื้องหลังฉากนี้ว่า “คือในฉากนี้จะมีคนญี่ปุ่นมาขอฝึกมวยไทยแล้วก็จะมีฝรั่งขี้เมาคนนึงดูถูกว่ามวยไทยมาเรียนทำไมไม่เห็นมีประโยชน์ก็ทำให้เด็กโมโหจนมีการต่อสู้กันขึ้นในบ้านมวยไทยที่อยู่ริมน้ำ ฉากนี้จะเป็นฉากแรกเลยครับที่เปิดตัวให้เห็นถึงความเก่งและแกร่งของวุฒิและแคทที่ต้องออกแอ็คชั่นมากกว่าเด็กคนอื่นๆ โดยเฉพาะตัวน้องวุฒิเองที่ต้องหนักที่สุด

เพราะต้องแอ็คชั่นสู้จริงถีบจริงกับฝรั่งในเรื่องตัวใหญ่มากตั้ง 2 เมตรนะครับ เทียบกันกับวุฒิที่สูงแค่เกือบหน้าอก ไซส์มันก็ต่างกันมากนะครับ ซึ่งผมก็ต้องซ้อมเด็กๆ อยู่ค่อนวันนะครับ เพราะต้องดีไซน์ท่าต่อสู้ที่มีทั้งเตะต่อย ถีบสูง เข่าลอยด้วย มีการใช้อุปกรณ์ช่วยอย่างเชือกกระโดด มีทั้งเลอะแป้งอีก ก็ยากอยู่พอตัวเลยครับกว่าจะผ่านไปได้แต่ละคัท ก็รู้สึกพอใจมากๆ กับซีนนี้ที่จะได้เห็นว่าเด็กมีฝีมือจริงๆ เล่นเองจริงๆ จนคนดูอาจจะเผลอตัวเชียร์เด็กๆ ด้วยความสนุกไปด้วยก็ได้ครับ”

ด้านนักบู๊รุ่นเล็กของเราก็ได้เผยถึงการแสดงในฉากนี้ว่า “เหนื่อยมากครับ ตอนนี้นึกถึงก็ยังเหนื่อยอยู่เลยครับ เพราะทีมงานนัดกองตั้งแต่เช้าเพื่อให้ผมมาเตรียมความพร้อม มาซ้อมแอ็คชั่นจริงๆ ในเซ็ต ก็ได้ลองอยู่หลายท่ามากครับ กว่าจะลงตัวอย่างที่เห็นในฉาก ที่เด่นๆ ก็คงจะเป็นท่าถีบยันหน้าฝรั่งและก็เข่าลอยเข้าที่ยอดอกครับ ก็เป็นฉากที่สนุกด้วยและยากมากด้วยฉากหนึ่งเลยครับ

จริงๆ แอ็คชั่นเรื่องนี้ยากทุกฉากแหละครับฉากนี้ผมต้องเล่นกับฝรั่งตัวยักษ์มากครับ แค่แหงนหน้ามองก็เหนื่อยแล้วครับ นี่ต้องมาแอ็คชั่นกับเค้าด้วยยิ่งยากไปกันใหญ่ อาโหน่งผู้กำกับเค้าก็ไม่ได้เร่งหรือกดดันนะครับ แต่จะคอยมาซ้อมคอยแนะนำอยู่ด้วยตลอดการถ่ายทั้งวันเลยครับ จริงๆ ถ่ายไม่หลายเทคนะครับเพราะเราซ้อมกันมาค่อนข้างดีแต่ที่นานเพราะต้องถ่ายหลายๆ มุมเพื่อให้ภาพออกมาสวยและสมจริงมากกว่าครับ ฉากนี้ก็มีแคทมาช่วยบู๊อยู่ข้างๆ ด้วยครับ ก็ต้องกะจังหวะให้ดีๆ ไม่งั้นพลาดขึ้นมาก็จะเจ็บได้ครับ แต่ก็มีกระเด็นมีล้มมีเจ็บบ้างนิดหน่อยครับ รวมๆ แล้วก็เป็นฉากเปิดตัวของวุฒิที่สนุกมากครับ อยากให้มาดูกันนะครับ”

เตรียมชมฉากลูกถีบไร้ปราณีนี้ได้ในภาพยนตร์แอ็คชั่นเด็กหัวใจแกร่ง “5 หัวใจฮีโร่” พร้อมท้าพิสูจน์ความมันส์เต็มตา 5 มีนาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์

ยลลีลา "เบร์ดาสโก" โชว์มวยไทย

มาชมภาพลีลาการออกอาวุธของ เฟร์นานโด เบร์ดาสโก นักเทนนิสมือ 8 ของโลก ในการฝึกซ้อมชกมวยไทย โดยมี สมจิตร จงจอหอ ยอดนักชกขวัญใจชาวไทย เป็นผู้ฝึกสอน ซึ่งในกิจกรรมนี้มี "ซุปเปอร์บอล" ภราดร ศรีชาพันธ์ มาร่วมแจมภายในงานด้วย
เมื่อวันพุธที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา เมื่อเวลา 15.30 น. ณ บริเวณลานชั้น 1 ของ อิมแพค อารีนา เมืองทองธานี เฟร์นานโด เบร์ดาสโก มือวางอันดับ 2 ของรายการ "ไทยแลนด์ โอเพน 2010" ชาวสเปน ได้ร่วมทำกิจกรรมพิเศษในการฝึกซ้อมศิลปะแม่ไม้มวยไทย กับ สมจิตร จงจอหอ ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิคมวยสากลสมัครเล่นชาวไทย

โดยบรรยากาศภายในงาน มีทั้งสื่อมวลชน และประชาชนให้ความสนใจเข้าชมกันอย่างคับคั่ง ซึ่ง มือวางอันดับ 2 ของรายการ "ไทยแลนด์ โอเพน" ได้โชว์ศิลปะประจำชาติไทยได้อย่างงดงาม โดยมีโชว์การออกอาวุธมวยไทยทั้ง เข่า ศอก และวิธีถีบ นอกจากนั้นยังมีแขกรับเชิญสุดพิเศษ อย่าง ภราดร ศรีชาพันธ์ มาร่วมทำกิจกรรมการฝึกซ้อมมวยไทยในครั้งนี้ด้วย

"ชอบดูกีฬามาร์เทียล อาร์ต มาก ผมเลยสนใจกีฬาชนิดมากเป็นพิเศษ อทิเช่น คิกบ็อกซิง และ มวยไทย ผมเคยดูหนังเรื่อง องค์บาก ของประเทศไทยมันเป็นหนังที่สนุกมากๆ ซึ่งเป็นแรงจูงใจสำคัญทำให้ผมสนใจในกีฬามวยไทย ผมคิดหากมีโอกาสผมก็อยากจะกลับมาฝึกมวยไทยเพิ่มเติมอีก เพราะตอนนี้ผมชอบมันมากๆ" เบร์ดาสโก ยอดนักหวดชาวสเปน ให้สัมภาษณ์ภายในงาน

ขณะที่ สมจิตร จงจอหอ กล่าวกับผู้สื่อข่าว MGR SPORT ถึงการมาฝึกฝนมวยไทยของ เฟร์นานโด เบร์ดาสโก ว่า "อย่างแรกเลย ผมรู้สึกประทับใจมากๆ ที่มีนักเทนนิสระดับโลกมาให้ความสนใจในศิลปะแม่ไม้มวยไทยของเรา ซึ่งเป็นศิลปะประจำชาติไทย นับเป็นเรื่องที่ดีมากๆ โดยภาพออกไปสู่สายตาประชาคมโลก จะแสดงให้เห็นได้เป็นอย่างดีว่า มวยไทย ของเรา เป็นศิลปะการต่อสู้ที่อันตรายที่สุดในโลก และยังเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยของเราได้เป็นอย่างดี"

ส่วน "ซุเปอร์บอล" ภราดร ศรีชาพันธ์ อดีตนักหวดลูกสักหลาด มือ 1 ชาวไทย ได้ทิ้งท้ายว่า "เบร์ดาสโก ถือเป็นนักเทนนิสที่นิสัยดีมากๆ เรารู้จักกันมานานแล้ว สมัยที่ผมยังลงเล่นทัวร์นาเมนต์อยู่ ซึ่งในรายการนี้ผมคิดว่าเขามีลุ้นมากเลยทีเดียว"

วันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

'ศศิธารา' เดินหน้ารวม 2 มวยไทยเป็นหนึ่ง

ดร.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าทาง ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ นายกสมาคมมวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ได้แจ้งมาว่าจะต้องเร่งรวมสมาคมมวยไทย จาก 2 สมาคม คือ สมาคมมวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย และสมาคมมวยไทยแห่งประเทศไทย ที่มี นายสันติภาพ อินทรพัฒน์ เป็นนายกสมาคมฯ ให้เป็นสมาคมเดียว ก่อนจะเสนอให้สมัชชาสหพันธ์กีฬานานาชาติ (ไกส์ฟ) ได้รับรองภายในเดือน ธ.ค.นี้ ไม่เช่นนั้นมวยไทย จะหมดสิทธิแข่งขันในกีฬาต่างๆ เช่น ซีเกมส์ หรือมหกรรมกีฬาที่จัดโดยสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ)

สำหรับเรื่องนี้ได้มีการหารือกับ นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และในการเดินทางไปประชุมด้านการท่องเที่ยวที่ฝรั่งเศส ในช่วงเดือน ธ.ค.นี้ จะมีการหารือกับ นายไฮน์ เวอร์บรูเกน ประธานไกส์ฟ เพื่อขอข้อมูลด้วย ขณะเดียวกัน นายสันติภาพ ก็ได้โทรศัพท์มาหาพร้อมกับแจ้งว่า ตามข้อเท็จจริงการที่จะมีกีฬามวยไทย แข่งขันในมหกรรมกีฬาต่างๆ ไกส์ฟ ไม่มีสิทธิมาเกี่ยวข้อง ซึ่งตนรับทราบข้อมูลเบื้องต้น แต่ก็ต้องศึกษาเอกสารจากทั้ง 2 ฝ่าย อย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมกับจะหารือกับนายสันติภาพในเร็วๆ นี้ด้วย

ดร.ศศิธารา กล่าวต่อว่านโยบายของรัฐมนตรีกีฬา คือ ต้องการให้มวยไทยรวมเป็น 1 สมาคม ให้ได้ พร้อมมอบหมายให้ตนไปเจรจากับนายกสมาคมฯ ทั้ง 2 ท่าน ส่วนตัวมองว่าต่างฝ่ายต่างก็ตั้งใจทำงานเพื่อกีฬามวยไทย นายสันติภาพ ก็ช่วยงานมากในมหกรรมกีฬาต่างๆ ส่วน ดร.ศักดิ์ชาย ก็เป็นบุคคลที่กว้างขวางในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะกับไกส์ฟเชื่อว่าทั้ง 2 คน ไม่มีอะไรขัดแย้งกัน เพียงแต่ว่าต่างก็ทำงานในมุมของตนเองมานานและต่างฝ่ายก็มีบารมี ซึ่งต้องยอมรับว่าถ้าจะเอาผู้มีบารมี 2 คน มารวมกันก็คงไม่ง่าย

“อย่างไรก็ตาม การจะรวมสมาคมมวยไทยเข้าด้วยกัน ทั้ง 2 ฝ่าย ถือเป็นเรื่องที่ดีของวงการกีฬาไทยที่ทุกคนอยากเห็น และทั้งนายสันติภาพและ ดร.ศักดิ์ชาย น่าจะยินดี ทั้งนี้ก็เพื่อความเป็นเอกภาพของมวยไทย ส่วนกรณีที่ว่าใครจะมาเป็นนายกสมาคมฯ ส่วนตัวมองว่าสามารถทำได้ใน 2 แนวทาง คือ 1.ดร.ศักดิ์ชาย กับนายสันติภาพ ตกลงสลับกันเป็น หรือ 2.หาคนกลางมาเป็น” ดร.ศศิธารา กล่าว

กษัตริย์จอร์แดนเสด็จเยือนค่ายมวย

สมเด็จพระราชาธิบดี อับดุลเลาะห์ บิน อัลดุลเลาะห์ กษัตริย์แห่งจอร์แดน โปรดกีฬามวยไทยเป็นกรณีพิเศษ เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ เยี่ยมค่ายมวยไทย ป.เปาอินทร์ จรัลสนิทวงศ์ 31 พร้อมพระอนุชาและพระราชโอรส ทอดพระเนตรนักมวยไทยโชว์แม่ไม้มวยไทยชุดใหญ่ พร้อมทอดพระเนตรนักมวยหญิงต่างชาติซ้อมมวยไทยโชว์ เมื่อเย็นวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา

กษัตริย์อับดุลลาห์ที่ 2 แห่งจอร์แดน เสด็จเยือนประเทศไทยโดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทยถวายการต้อนรับ เมื่อเวลา 17.30 น.ของวันอังคารที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระราชาธิบดี อับดุลลาห์ บิน อัลอุสเซ็นที่ 2 กษัตริย์แห่งประเทศจอร์แดน พร้อมด้วย เจ้าชาย อุสเซ็น อัลดุลลาห์ที่ 3 พระราชโอรส, เจ้าชาย ฮาชิม บิน อัลดุสเซน พร้อมด้วยเจ้าชาย อาลี บิน อันฮุสเซน พระอนุชา และคณะเจ้าหน้าที่ราชองครักษ์ เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ มายังค่ายมวยไทย ป.เปาอินทร์ ของพล.ต.ต.ประจวบ เปาอินทร์ ภายในซอยจรัลสนิทวงศ์ 31 เพื่อทอดพระเนตรกีฬามวยไทยเป็นการส่วนพระองค์ โดยมี พล.ต.ต.ประจวบ เปาอินทร์ ถวายการต้อนรับ

หลังเสด็จพระราชดำเนินถึง กษัตริย์จอร์แดน ทอดพระเนตรการสาธิตแม่ไม้มวยไทยซึ่งจัดแสดงถวายโดยนักมวยในค่าย ป.เปาอินทร์ โดยทรงให้ความสนพระทัยเป็นพิเศษ เกี่ยวกับแม่ไม้เช่น จระเข้ฟาดหาง และ แม้ไม้ท่าต่าง โดยมี พล.ต.ต. ประจวบ ถวยคำอธิบายผ่านเจ้าหน้าที่แปลภาษา จากนั้นจึงทอดพระเนตร การสาธิตวิธีซ้อมมวยไทยของนักมวยไทยหญิงจากต่างประเทศ ที่ได้โชว์การเตะกระสอบ, ต่อยเป้า เตะเป้า ที่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของกีฬามวยไทย ก่อนจะเสด็จพระราชดำเนินกลับ โดย พล.ต.ต. ประจวบ ได้ถวาย ชุดอุปกรณ์มวยไทย เช่น มงคลคาดศรีษะ ผ้าประเจียด พร้อมถวายคำอธิบายถึงอุปรกณ์ต่างๆ และถวายรูปปั้นนายขนมต้มด้วย

พ.ต.ต.ประจวบ เปาอินทร์ กล่าวว่า "นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นพ้น ที่ตนได้มีโอกาสต้อนรับการเสร็จพระราชดำเนินอย่างใกล้ชิด พระเจ้าอยู่หัวแห่งจอร์แดนสนพระทัยมวยไทยเป็นอย่างมาก พร้อมมีรับสั่งว่าจะนำโค้ชมวยไทยไปเปิดการฝึกสอนที่จอร์แดนในอนาคตด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องดีอย่างยิ่ง ในการเผยแพร่มวยไทย สู่ประเทศในแถบเอเชียกลาง ตนพยายามถวายคำอธิบายอย่างดีที่สุด เพื่อให้ทรงทราบในรายละเอียดอย่างครบถ้วน สำหรับตนแล้วคิดว่าหากมวยไทยสามารถถูกเผยแพร่ไปในประเทศแถบเอเชียกลางได้ จะอนาคตที่สนใจของมวยไทยอย่างแน่นอน"

หลักสูตร 'มวยไทย' ใกล้บรรจุ สพฐ.แล้ว

นายนิโรธ สุนทรเลขา ประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและกีฬา สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.สส.กีฬา) เป็นประธานประชุมคณะกรรมการฯ ที่อาคารรัฐสภา 3 เมื่อ 12 พ.ค. สรุปสาระสำคัญ คือ ที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าการบรรจุวิชา “มวยไทย” เป็นหลักสูตรการศึกษา โดยมีผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ (สพก.) ร่วมหารืออย่างพร้อมเพรียง

ผู้แทน สพก.แจ้งว่าหลักสูตร “ศิลปะมวยไทย” เดินหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยหลักสูตรในระดับประถมศึกษา (ขั้นพื้นฐาน) ระดับมัธยมศึกษา (ขั้นกลาง) จนถึงระดับอุดมศึกษา (ขั้นสูง) ระดับชั้นอย่างน้อย 18 ชั่วโมง หรือคาบต่อปี ซึ่งวัตถุประสงค์ของหลักสูตรศิลปะมวยไทย คือ ต้องการให้เรียนรู้ถึงประวัติศาสตร์มวยไทย เข้าถึงประโยชน์และคุณค่าตลอดจนรู้จักระเบียบประเพณีวัฒนธรรมการเรียนและการฝึกศิลปะมวยไทย นำศิลปะมวยไทยไปใช้ในการออกกำลังกาย พร้อมทั้งเป็นการป้องกันตัวอย่างถูกต้อง รวมทั้งให้ตระหนักถึงความสำคัญและอนุรักษ์ศิลปะมวยไทย ทั้งนี้ สพฐ.จะจัดกิจกรรมมหกรรมกีฬาไทยโดยมีกีฬาตะกร้อและมวยไทย เป็นกีฬาหลักขึ้นในทุกภูมิภาค เริ่มตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย. ต่อเนื่องไปจนกระทั่งเดือน ส.ค. นอกจากนี้จะจัดการแข่งขันระดับชิงแชมป์ประเทศไทย ขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมา อีกด้วย

นายนิโรธ กล่าวว่าหลักสูตรศิลปะมวยไทย ในเวลานี้ถือว่าสมบูรณ์แล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ การอบรมบุคลากรครูต้นแบบมวยไทย หรือที่เรียกว่า “ครูแม่ไก่” 185 เขตการศึกษา หลังจากนั้น สพฐ. จะส่งหนังสือเวียนขอความร่วมมือให้สถาบันต่างๆ เพื่อส่งเสริมศิลปะมวยไทย เป็นกิจกรรมในการเรียนการสอนต่อไป ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับจากสถาบันต่างๆ ก่อนจะผลักดันเข้าเป็นหลักสูตรอย่างเต็มรูปแบบในอนาคตต่อไป

วันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

14 ประเทศร่วมชิงชัย มวยไทยแชมป์เอเชีย เตรียมดันสู่อินเตอร์

ส.มวยไทย สมัครเล่นฯ - ศึกมวยไทยชิงแชมป์เอเชียครั้งที่ 2 ชิงถ้วยสมเด็จพระบรมฯ หลายชาติมี2-3 ทีมแย่งส่งเข้าแข่งต้องพิจารณาองค์กรที่คุณสมบัติถูกต้อง เตรียมหาแนวร่วมผลักดันสู่กีฬาอินเตอร์อย่างชัดเจน เผย 14 ชาติยันร่วมวงแน่ "บิ๊กเหวียง" ประธานเปิด ช่อง 11 ยิงสดทั้งปิดและเปิด

นายขจร พราวศรี เลขาธิการสมาคมมวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การแข่งขันมวยไทยสมัครเล่นชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 2 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมารฯ ระหว่างวันที่ 19-23 พฤศจิกายนนี้ ที่โรงเรียนมวยไทยรังสิต ปรากฏว่ามีหลายชาติไม่ว่าจะเป็น อิหร่าน, ฟิลิปปินส์ ฯลฯ แจ้งความจำนงเข้าร่วมแข่งขันถึง 2-3 องค์กร

แสดงให้เห็นว่ากีฬามวยไทยเริ่มได้รับความนิยมแพร่หลายในนานาชาติ อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการหารือเพื่อให้องค์กรมวยไทยสมัครเล่นแต่ละชาติ ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการโอลิมปิกชาตินั้นๆ ให้เป็นเอกภาพ และชัดเจนในการร่วมกิจกรรม เพื่อเป็นแนวร่วมในการผลักดันกีฬามวยไทยสู่การแข่งขันระดับนานาชาติต่อไป ทั้งนี้องค์กรที่จะร่วมแข่งขันครั้งนี้ ทางสมาคมฯ ได้พิจารณาจากการสมัครเป็นสมาชิกของสหพันธ์มวยไทยแห่งเอเชีย

ทางด้านนายสมเกียรติ ตันทัตสวัสดิ์ กรรมการฝ่ายต่างประเทศสมาคมมวยไทยสมัครเล่นฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ 14 ชาติที่เข้าร่วมการแข่งขันมวยไทยสมัครเล่นชิงแชมป์เอเชีย ได้แจ้งยืนยันการเดินทางและจำนวนนักมวยแล้วดังนี้ กัมพูชา 6 คน, ฮ่องกง 3 คน, มาเก๊า 3 คน, อิหร่าน 10 คน, เวียดนาม 9 คน, อินเดีย 9 คน, อุซเบกิสถาน 11 คน, เติร์กเมนิสถาน 6 คน, พม่า 7 คน, ฟิลิปปินส์7 คน, เกาหลี 7 คน, ญี่ปุ่น 7 คน, มาเลเชีย 7 คน

ขณะที่ประเทศไทยได้ทีมยะลาแชมป์เก่าส่งเข้าแข่งขัน13 คน สำหรับคาซัคสถาน และทาร์จิกิสถาน ยังไม่แจ้งเข้าร่วมการแข่งขัน ทั้งนี้พิธีเปิดในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ พลเอกเชษฐา ฐานะจาโร ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานเปิด โดยช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์จะถ่ายทอดสดทั้งพิธีเปิดและปิด ตั้งแต่เวลา 16.30-18.30 น.

ลาวใช้มวยไทยเป็นแนวทางในการพัฒนากีฬามวยให้ถึงระดับโลก

ลาวยกเครื่องกีฬามวยครั้งใหญ่ หลังได้ประธานสมาพันธ์คนใหม่ ใช้ลีลามวยไทยเป็นแนวทางพัฒนาให้ถึงระดับโลก ส่งหัวหน้าค่ายมวยมาดูชั้นเชิงมวยไทยที่กรุงเทพฯ ในเดือนหน้าเพิ่มการอัดฉีด คิดแผนใช้เวทีในประเทศไทย เป็นสังเวียนไต่ระดับ

นายสายสะมอน ไซยะจักวงสี (Saysamone Xayachack-vongsy) ประธานสมาพันธ์มวยลาวคนใหม่ ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า ทางสหพันธ์ฯ จะเพิ่มเงินรางวัลเป็น 1,000,000 กีบ หรือประมาณ 3,800 บาท แก่นักมวยที่ชนะเลิศในมวยคู่เอกของโปรแกรม และ 600,000 กีบ หรือ 2,200 บาท แก่นักมวยที่ตกรอบ ขณะที่ก่อนหน้านี้ นักมวยที่ชนะเลิศของคู่เอกได้รับเงินรางวัลเพียง 300,000 กีบ หรือ ประมาณ 1,100 บาท

สำหรับนักมวยที่ชนะเลิศในคู่รองลงไปจะได้รับ 500,000 กีบ หรือ 1,800 บาท และ 400,000 กีบ หรือราว 1,500 บาทสำหรับผู้ตกรอบ ไม่เพียงเท่านั้นคณะกรรมการจัดการแข่งขันภายใต้การดูแลของประธานสหพันธ์มวยคนใหม่ ยังกำลังวางแผนที่จะเสนอรางวัลพิเศษอีกหลายรางวัลแก่นักมวย อาทิ รางวัลสำหรับนักมวยที่สามารถน็อคคู่ต่อสู้ นักชกดีเด่นประจำวัน และนักมวยที่สามารถชกคู่ต่อสู้จนแตกยับ “เงินรางวัลราว 100,000 กีบ (370 บาท) ในแต่ละแผล” นายสายสะมอนบอกและต่อว่า ส่วนนักชกที่ได้รับบาดเจ็บก็จะได้รับเงินจำนวนเท่ากันเป็นค่ารักษาพยาบาล

นายสายสะมอนได้รับเลือกเป็นประธานสมาพันธ์เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เขาได้ตั้งคณะทำงานใหม่พร้อมแผนงานในการพัฒนาที่จะเริ่มในโปรแกรมการแข่งขันนัดแรกในเดือนหน้า ทีมของเขาจะปฏิบัติหน้าที่เป็นเวลา 4 ปี จากนั้นจึงจะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่

ส่วนหนึ่งของแผนงานคือ การเข้าไปช่วยฝึกนักชกตามค่ายมวยทั่วประเทศ รวมทั้งจะมอบอุปกรณ์สำหรับฝึกและใช้ในระหว่างการแข่งขัน

“แผนงานทั้งหมดที่จะพัฒนามวยลาวขึ้นสู่ระดับโลก จะเริ่มในเดือนกันยายน และประชาชนจะเห็นว่า เราใช้ลีลามวยไทยในการชกทุกรอบของโปรแกรมการแข่งขันที่จะมีขึ้นครั้งแรกในเดือนหน้า” นายสายสะมอนระบุ

อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่า ทางสมาพันธ์มวยลาวไม่ได้มุ่งลอกเลียนแบบมวยไทยทั้งดุ้น แต่จำเป็นต้องตามอย่างมวยไทย เนื่องจากมวยไทยได้รับการยอมรับจากสมาพันธ์มวยสากล อีกทั้งมีการแข่งขันมวยไทยในระดับโลกแล้วด้วย ( Muay Thai World Championship)

สมาพันธ์มวยลาวจะเน้นการผสมผสานมวยลาวกับมวยไทย และใช้กฎกติกาบางอย่างของมวยไทย เพื่อให้นักชกชาวลาวได้รับการยอมรับ และสามารถเข้าแข่งขันชิงแชมป์ในระดับโลกได้

เช่นเดียวกับการแข่งขันมวยสากลทั่วไป มวยลาวจะแบ่งการชกออกเป็นระดับต่างๆ ผู้ชนะเลิศในแต่ละระดับจะได้รับเข็มขัดเป็นเครื่องประกันความสามารถ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การแข่งขันมวยลาว

นักมวยจากประเทศไทย จะได้รับเชิญไปกรุงเวียงจันทน์เพื่อขึ้นชกแข่งขันกับนักมวยลาว ขณะเดียวกันก็จะส่งนักมวยลาวไปแข่งขันบนสนามมวยอาชีพของไทยที่กรุงเทพฯ

นอกจากนี้สมาพันธ์มวยลาวจะพัฒนาการจัดการของหัวหน้าค่ายมวย ด้วยการส่งไปศึกษาค่ายมวยของไทยในเดือนหน้า เพื่อส่งเสริมทักษะการฝึกมวย ตลอดจนกำลังวางแผนจะปรับปรุงสนามโชคชัย (Sokxay Ring) เพื่อให้เป็นสนามมวยอาชีพ โดยจะจัดตั้งสำนักงาน ห้องพักสำหรับนักชกจากต่างจังหวัดและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ

สำหรับประวัติส่วนตัวของนายสายสะมอนนั้น เขาจบการศึกษาจากอดีตสหภาพโซเวียต เมื่อปี 2529 จากนั้นทำงานเป็นข้าราชการเป็นเวลา 10 ปี ก่อนจะเบนเข็มมาเป็นนักธุรกิจหนุ่มในปี 2539 ในตำแหน่งผู้อำนวยการของบริษัท Concrete Factory Km-5 Company บริษัทของเขาบริจาคเงินมากกว่า 150 ล้านกีบ หรือประมาณ 56,000 บาท เพื่อพัฒนาการกีฬาในประเทศลาว

วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

แพร่มวยไทยเช่นเทควันโด

คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติมีมติเอกฉันท์ขึ้นทะเบียนศิลปะมวยไทยต้นตำรับเป็นมรดกทางวัฒนธรรม รวบรวมข้อมูลที่ถูกต้องไว้พร้อมแล้ว คาดจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ไม่แพ้เทควันโดของเกาหลี จัดพิธีประกาศ 30 ก.ค.

นายสมชาย เสียงหลาย เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) กระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า จากการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงานขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาท้องถิ่นทางวัฒนธรรม ได้มีการหยิบยกประเด็นการพิจารณาศิลปะมวยไทยเพื่อรับรองการประกาศขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม โดยมีข้อสรุปว่า ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ในการประกาศขึ้นทะเบียนศิลปะมวยไทยเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม

ทั้งนี้ ได้กำหนดให้มวยไทยที่จะขึ้นทะเบียน หมายความเฉพาะศิลปะมวยไทยที่ได้มีการสืบสานอย่างต่อเนื่องและยาวนาน มิใช่มวยไทยที่เป็นกีฬาแข่งขัน

นายสมชายกล่าวว่า ที่ประชุมยังมีมติเห็นด้วยในการจะจัดทำตำรับมวยไทยแห่งชาติขึ้น เพื่อเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลองค์ความรู้เกี่ยวกับมวยไทยไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เบื้องต้นได้เก็บรวบรวมไว้เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังเห็นว่าศิลปะมวยไทยมีความสำคัญและจำเป็นที่จะต้องมีการจัดลำดับขั้นของศิลปะมวยไทยไว้อย่างเป็นระบบ เพื่อใช้ในการเตรียมการสอนภายในประเทศ และสำหรับใช้ในการสอนชาวต่างชาติที่สนใจและชื่นชอบศิลปะมวยไทยเป็นจำนวนมาก โดยมีท่วงท่าในศิลปะที่ถูกต้อง เหมาะสม ไม่ผิดเพี้ยน

"หากดำเนินการสำเร็จลุล่วงแล้วก็จะสามารถสร้างมูลค่าตามแนวเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เหมือนกับเทควันโดของประเทศเกาหลีที่สร้างมูลค่าให้แก่ประเทศ" นายสมชายกล่าว

เลขาธิการ กวช.กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) จะจัดพิธีการประกาศขึ้นทะเบียนศิลปะมวยไทย พร้อมกับรายการอื่นๆ รวม 21 รายการ ในวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ ที่หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

สื่อเทศตีข่าวไทสันมีสิทธิ์มาชกมวยไทย

สื่อนอกตีข่าว ไมค์ ไทสัน อดีตยอดกำปั้นรุ่นยักษ์ชาวมะกัน มีโอกาสมาเป็นลูกหลานนายขนมต้ม หลังสภามวยไทยโลกกำลังเดินหน้าดึงมาแดนสยามเพื่อเรียนรู้การชกมวยไทย หวังสอนเจ้า "มฤตยูดำ" ให้รับรู้ประเพณีไหว้ครู, พาเข้าวัดเพื่อกล่อมจิตใจ ตลอดจนให้ความเคารพคู่ต่อสู้เมื่ออยู่บนเวทีผ้าใบอีกด้วย

ไมค์ ไทสัน อดีตแชมป์โลกชาวอเมริกัน อาจขึ้นสังเวียนเปลี่ยนแนวไปชกมวยไทย "เอเอฟพี" สำนักข่าวต่างประเทศชื่อดัง รายงานข่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม ที่ผ่านมาว่า สภามวยไทยโลก ต้องการดึง "มฤตยูดำ" ไมค์ ไทสัน อดีตแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวต 3 สถาบัน ชาวอเมริกัน เดินทางมาประเทศไทย และเรียนรู้การชกมวยไทยต่อไป

รายงานข่าวระบุว่า สภามวยไทยโลกซึ่งก่อตั้งเพื่อส่งเสริมมวยไทยและจัดการชกไปทั่วโลกนั้น กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับตัวแทนของ ไทสัน และจะเดินทางไปยังลาสเวกัส, รัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันพฤหัสบดีหน้าเพื่อพูดคุยกับเจ้า "มฤตยูดำ" ในเรื่องนี้

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสภามวยไทยโลกรายหนึ่งซึ่งมีส่วนร่วมในการเจรจาด้วยนั้น เผยว่า "เขา (ไทสัน) ชอบมวยไทย เขาพร้อมที่จะทำให้เกิดการเจรจา ในกรณีที่เรื่องนี้ประสบความสำเร็จล่ะก็ เขาจำเป็นจะต้องใช้เวลาอยู่เมืองไทยสักระยะ ไม่ใช่เพียงแค่เรียนรู้มวยไทยเท่านั้น แต่ยังต้องแสดงให้เห็นถึงความเคารพประเพณีและวัฒนธรรมไปพร้อมๆ กันด้วย"

"เขาจะได้รับการต้อนรับอย่างดีในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม เขาจะต้องเรียนรู้การถ่อมตัว ความนับถือ และการส่งเสริมประเพณีของมวยไทย เราจะสอนเขาให้รับรู้ถึงประเพณีการไหว้ครู, พาเขาไปวัดเพื่อชำระจิตใจ และยังจะสอนเขาให้รับรู้ถึงการแสดงความเคารพคู่ต่อสู้เมื่ออยู่บนสังเวียนการชกอีกด้วย" แหล่งข่าววงใน ระบุ

ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์ "วอชิงตัน โพสต์" ของเมืองลุงแซม ได้เปิดเผยว่า เจ้า "มฤตยูดำ" ซึ่งหยุดชกไปตั้งแต่ได้รับบาดเจ็บเอ็นหัวเข่าฉีกในไฟต์ที่พ่ายน็อกเอาต์ แดนนี่ วิลเลี่ยมส์ นักมวยชาวอังกฤษ ในยกที่ 4 ของการชกอุ่นเครื่อง เมื่อเดือนกรกฎาคมปีก่อนนั้น มีโอกาสที่จะกลับมาขึ้นสังเวียนผ้าใบอีกครั้งในวันที่ 25 มิ.ย. นี้ หรือก่อนวันเกิดครบรอบ 39 ปีของตนเองเพียงแค่ 5 วันเท่านั้น

เชลลี่ ฟิงเคิ่ล ผู้จัดการของ ไทสัน ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวว่า ยังไม่ได้กำหนดเวลาและคู่ต่อสู้ที่จะขึ้นชกกับอดีตแชมป์โลก 3 สถาบันแต่อย่างใด กระนั้นก็ตาม วันเสาร์ที่ 25 มิ.ย. นี้ เป็นช่วงเวลาที่สถานที่ชกในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ว่างพอดี ทำให้คาดหวังว่าน่าจะมีการชกในช่วงเวลาดังกล่าว

กวช.เล็งขึ้นทะเบียนแม่ไม้ “มวยไทย” หวั่นต่างชาติทำเพี้ยน

ที่สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) นายสมชาย เสียงหลาย เลขาธิการคณะ กรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) เปิดเผยว่า จากการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงานขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาท้องถิ่นทางวัฒนธรรม ได้มีการหยิบยกประเด็นการพิจารณาศิลปะมวยไทย เพื่อรับรองการประกาศขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม โดยมีข้อสรุปดังนี้ที่มติประชุมมีความเห็นด้วย 100% ในการประกาศขึ้นทะเบียนศิลปะมวยไทย เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ซึ่งได้กำหนดให้มวยไทยที่จะขึ้นทะ เบียน หมายความเฉพาะศิลปะมวยไทยที่ได้มีการสืบสานมาอย่างต่อเนื่อง และยาวนาน มิใช่มวยไทยที่เป็นกีฬาแข่งขัน

เลขา กวช. กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังมีมติเห็นด้วยในการที่จะต้องจัดทำตำรับมวยไทยแห่งชาติขึ้น เพื่อเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลองค์ความรู้เกี่ยวกับมวยไทยไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเบื้องต้นได้เก็บรวบรวมข้อมูลไว้เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังเห็นว่าศิลปะมวยไทยมีความสำคัญและจำเป็นที่จะต้องมีการจัดลำดับขั้นของศิลปะมวยไทยไว้อย่างเป็นระบบ เพื่อใช้ในการเรียนการสอนภายในประเทศ และสำหรับใช้ในการสอนชาวต่างชาติที่สนใจและชื่นชอบศิลปะมวยไทยเป็นจำนวนมาก โดยมีท่วงท่าในศิลปะที่ถูกต้องเหมาะสมไม่ผิดเพี้ยนและหากดำเนินการสำเร็จลุล่วงแล้ว ก็จะสามารถสร้างมูลค่าตามแนวทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เหมือนกับเทกวนโดของประเทศเกาหลีที่สร้างมูลค่าให้กับประเทศ

เลขา กวช. กล่าวต่อไปว่า สำหรับขั้นตอนการดำเนินงานรับรองการขึ้นทะเบียนศิลปะมวยไทยนั้น สวช.จะจัดพิธีการประกาศขึ้นทะเบียนพร้อมกับรายการอื่นๆ รวม 21 รายการในวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ที่หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาภูมิปัญญาของชาติถูกรุกราน ทำลายจากวัฒนธรรมต่างชาติ รวมถึงการนำภูมิปัญญาไปใช้ไม่เหมาะสม ส่งผลให้สูญเสียอัตลักษณ์ของภูมิปัญญานั้นๆ จำนวนมาก ดังนั้นการประกาศขึ้นทะเบียน มวยไทย เป็นมรดกทางภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมนั้น จะเป็นหนทางหนึ่งในการปกป้องคุ้มครองและเป็นหลักฐานสำคัญของประเทศ และจะผลักดันให้ศิลปะมวยไทยสามารถขึ้นทะเบียนระดับโลกต่อไปให้ได้

วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2554

ส่ง "มวยไทย" เข้า ครม. หวังปูทางสู่ "ระดับโลก

กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมชงเรื่องให้ ครม. รับรอง "กีฬามวยไทย" หวังสร้างความมั่นใจให้สมัชชาสหพันธ์กีฬานานาชาติ ที่กำลังจะรับรองกีฬามวยไทย พร้อมกับช่วยยกระดับให้เป็นสากลเหมือน "เทควันโด" ของเกาหลี
มวยไทย สนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมเสนอเรื่องต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อผลักดัน สภามวยไทยโลก ให้ได้รับการรับรองจากสมัชชาสหพันธ์กีฬานานาชาติ (จีเอไอเอสเอฟ) โดยหวังว่าจะเป็นบันไดก้าวแรก ที่จะผลักดันให้มีการบรรจุมวยไทยเข้าในการแข่งขันกีฬารายการต่างๆ อย่างเป็นทางการ อาทิ เอเชียนเกมส์ หรือกระทั่ง โอลิมปิกเกมส์

ทั้งนี้ "สภามวยไทยโลก (ดับเบิลยูเอ็มซี)" จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2538 โดยปัจจุบันมีสมาชิกเพิ่มขึ้นถึง 110 ประเทศ โดยทำหน้าที่ส่งเสริมเผยแพร่ด้านการฝึกสอน รวมทั้งกำหนดระเบียบควบคุมการแข่งขันในทุกประเทศ เพื่อให้เป็นไปตามกติกามาตรฐานที่ประกาศใช้โดยคณะกรรมการกีฬามวย ตามพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ.2542 นอกจากนี้ ยังเป็นองค์กรที่ดำเนินภารกิจร่วมกับ สหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ (ไอเอฟเอ็มเอ) ซึ่งเป็นองค์กรในระบบคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ที่ จีเอไอเอสเอฟ ให้การรับรองด้วย

ส่วนการที่ต้องเตรียมเสนอเรื่องเข้าสู่ ครม. ก็เนื่องจากในวันที่ 24 เมษายน 2548 นี้ "จีเอไอเอสเอฟ" มีกำหนดนำเรื่องกีฬามวยไทยเข้าสู่การพิจารณารับรองของที่ประชุมใหญ่ ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ดังนั้น การที่ไทยให้การรับรองด้วย จะยิ่งสร้างความมั่นใจให้กับสมัชชาของจีเอไอเอสเอฟว่า กีฬามวยไทยได้รับการส่งเสริม และสนับสนุนจากรัฐบาลไทยอย่างแท้จริง

สนธยา กล่าวว่า กีฬามวยไทยเป็นศิลปะการป้องกันตัวของไทยที่มีจุดเด่นเป็นเอกลักษณ์ จนสำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ ได้กำหนดให้เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ ประเภทศิลปวัฒนธรรมประจำชาติมาแล้ว แต่การจะให้กีฬามวยไทยแพร่หลายสู่การแข่งขันระดับสากลเทียบศักดิ์ศรีเท่ากับกีฬาประจำชาติอื่นๆ อย่างเช่น
  1. เทควันโด ของเกาหลี
  2. ยูโดและคาราเต้ ของญี่ปุ่น
  3. วูซู ของจีน
จำเป็นต้องได้รับการรับรองจากจีเอไอเอสเอฟเป็นด่านแรก จึงจะได้รับอนุมัติให้บรรจุในการแข่งขันรายการต่างๆ นอกจากนั้น ในปัจจุบันมีปัญหาเกิดขึ้นกับกีฬามวยไทยหลายอย่าง หลังจากที่ได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วโลก แต่ก็มีบางองค์กรที่จัดตั้งขึ้นโดยนำชื่อคนไทยหลายคนหลายระดับเข้าเป็นกรรมการโดยพลการ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์โดยรวมของการบริหารงาน ขณะที่การแข่งขันบางรายการของไทย ก็นำนักชกมวยไทยชาวต่างชาติที่ฝีมือไม่ได้มาตรฐานมาร่วมชก ซึ่งก็ถือเป็นการทำลายกีฬาชนิดนี้อีกทางหนึ่งด้วย ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีองค์กรกลางที่ได้รับการรับรอง เพื่อการทำงานอย่างเป็นระบบและมีเอกภาพขึ้น

ดันรัฐตั้งสถาบันศิลปะการต่อสู้ของชาติก่อน "มวยไทย" กลายพันธุ์ใน ตปท.

ผศ.ดร.ชาญชัย ยมดิษฐ์ ประธานสาขามวยไทยศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) หมู่บ้านจอมบึง เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนพร้อมด้วยคณาจารย์จากวิทยาลัยมวยไทยศึกษา ในโครงการความร่วมมือระหว่าง มรภ.หมู่บ้านจอมบึง กับสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตมหาสารคาม และนักศึกษาปริญญาโท สาขามวยไทยศึกษา รุ่นที่ 1 รวม 32 คน ได้เดินทางไปศึกษาดูงานในประเทศเกาหลีใต้ เนื่องในวิชาสัมมนามวยไทยเปรียบเทียบ โดยเลือกศึกษาเปรียบเทียบกับเทควันโดของประเทศเกาหลีใต้ที่สถาบันศิลปะประจำชาติเกาหลีใต้ และเยี่ยมสภามวยไทยสมัครเล่นโลกของเกาหลีใต้ ที่กรุงโซล

"การไปดูงานครั้งนี้ ได้รับแนวคิดในการพัฒนามวยไทยว่า ควรพัฒนามวยไทยให้เป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐบาล โดยเฉพาะมวยไทยมีศักยภาพมากกว่าเทควันโด และพัฒนาจนเป็นกีฬาอาชีพ มีบ่อเกิดจากบรรพบุรุษโดยตรง และมีหลายมิติ ทั้งมิติของมวยไทยสมัครเล่น มวยไทยอาชีพ มวยไทยแนวอนุรักษ์และขัดเกลาสังคม และมวยไทยเพื่อออกกำลัง ขณะที่เทควันโดยังเป็นกีฬาสมัครเล่น จะต่างกันตรงที่รัฐบาลเกาหลีใต้ดำเนินการเองอย่างเป็นระบบ แต่ของไทยกระจัดกระจาย ขาดการพัฒนาอย่างมีทิศทาง รัฐบาลจึงควรเอาจริงเอาจัง โดยตั้งสถาบันศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวของชาติ จัดทำมาตรฐาน และสร้างศักยภาพในการใช้ศิลปะแขนงนี้ เพราะมวยไทยช่วยด้านการกล่อมเกลาทางสังคม การออกกำลังกาย การประกอบอาชีพ และกีฬาสมัครเล่นสำหรับนานาชาติ ทั้งยังเป็นทุนทางวัฒนธรรมเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันกับนานาชาติ ไม่เช่นนั้นมวยไทยจะกลายพันธุ์เป็นศิลปะของชาวต่างชาติ เช่น มวยเควัน คิ๊กบอกซิ่ง และอื่นๆ" ผศ.ดร.ชาญชัย กล่าว

เทรนด์ใหม่... มวยไทยขึ้นห้าง

กีฬามวยไทยเฟื่อง เปิดเวทีกลางสังคมไฮโซ ทรูฟิตเนสหวังจับกระแสเทรนด์ออกกำลังกายแบบป้องกันตัว เหมาะสำหรับผู้หญิงรุ่นใหม่ ราคาแพงแต่ใช้ประโยชน์ได้จริง นอกเหนือจากแอโรบิก โยคะ พิลาทิส ทรูฟิตเนสนำเสนอเวทีมวยไทยสู่สถานออกกำลังกายเป็นแห่งแรกของประเทศไทย

นายตระกูลชัย แก้วอ่อน "ครูแอ้" หัวหน้าครูฝึกกีฬามวยไทยแห่งทรูฟิตเนส กล่าวว่า กีฬามวยไทยเป็นศิลปะการป้องกันตัวที่มีเสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติไทย มวยไทยเป็นมวยโบราณที่สมัยก่อนจะใช้ในการทำสงคราม มีชั้นเชิง มีลูกไม้ลีลาท่วงท่าที่สวยงาม แตกต่าง

จากมวยสากล ดังนั้นคอร์สเวทีมวยไทยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการให้คนไทยได้รู้จักกับเทรนด์การออกกำลังกายแปลกใหม่ที่สนุกสนานและไม่จำเจ อีกอย่างหนึ่งก็เพื่อจะได้นำเทคนิคที่ได้เรียนรู้ไปใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ในชีวิตประจำวัน

ครูแอ้บอกว่า คอร์สเวทีมวยไทยนี้เปิดมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ถือว่าการตอบรับค่อนข้างดี ตอนนี้มีลูกค้าที่เป็นผู้ชาย 60% ผู้หญิง 40% เกือบทั้งหมดจะเป็นคนที่ไม่มีพื้นฐานของการชกมวยมาก่อน ซึ่งครูต้องปูพื้นฐานเริ่มต้นเหมือนกันใหม่ทั้งหมด โดยเริ่มจากระดับที่ 1 Beginer เป็นการสอนทักษะการเคลื่อนไหว ท่วงท่า ลีลา การตั้งหมัดชกและรับ ระดับ 2 Intermediat การเข้าคู่ จะเป็นการรับและส่งหมัดระหว่างคู่ต่อสู้ ระดับ 3 Advance สอนวิธีการปีนป่าย เข้าชาร์จคู่ต่อสู้และเทคนิคการทุ่ม ทับ จับ หัก

"สำหรับกีฬามวยไทยของที่นี่จะเป็นการสอนแบบคาร์ดิโอ คือ การออกกำลังกายแบบต่อเนื่องไม่หยุดพัก จะช่วยให้ผู้เล่นมีความสนุกสนานและเพลิดเพลิน อีกทั้งยังได้รูปร่างที่ฟิตและเฟิร์มเร็วกว่าการออกกำลังกายประเภทอื่นๆ" ครูแอ้กล่าว

ครูแอ้กล่าวอีกว่า มวยไทยเป็นกีฬาที่สามารถเล่นได้ทุกเพศทุกวัย แต่มีข้อจำกัดสำหรับคนที่เป็นโรคหัวใจและโรคร้ายแรงอื่นๆ ดังนั้นเราจึงมีผู้เชี่ยวชาญที่คอยตรวจเช็กสภาพร่างกายก่อนจะเข้ามาลงเล่นจริงก่อน ในคอร์สเรียนหนึ่งหนึ่งจะมีนักเรียน 10 คน ต่อ 1 ห้อง ใช้ระยะเวลาในการฝึก 1 ชั่วโมง ขณะนี้มีครูฝึกอยู่ทั้งหมด 4 คนด้วยกัน ทรูฟิตเนสจะเปิดสอนคอร์สเวทีมวยไทยทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่ 5 โมงเย็นเป็นต้นไป หรือถ้าต้องการให้ฝึกแบบตัวต่อตัว ก็สามารถระบุเวลามาได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ด้านไฮโซสาว นางกินรี ดาร์ริงตัน ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท หนึ่งในสาวรักสุขภาพที่ชื่นชอบกีฬามวยไทยโดยเฉพาะมวยไชยา กล่าวว่า "เราถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วว่ากีฬามวยไทยเป็นกีฬาที่ต้องเลือดตกยางออก และเล่นได้เฉพาะผู้ชายเท่านั้น แต่พอได้มาสัมผัสจริงๆ จึงรู้ว่ามวยไทยเป็นกีฬาที่เหมาะสำหรับผู้หญิงเป็นอย่างมาก เพราะมันมีลักษณะเด่นที่เป็นการออกกำลังกายแบบป้องกันตัว เราสามารถนำไปใช้กับชีวิตประจำวันได้ โดยเฉพาะสังคมเมืองที่น่ากลัวแบบนี้ ผู้หญิงกลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ ยิ่งต้องระวังตัวเองให้มากๆ มวยไทยเป็นกีฬาที่ช่วยให้หุ่นฟิตและเฟิร์มในทุกๆ ส่วนของร่างกาย อย่างดาราฮอลลีวู้ดหลายคนเขาก็หันมานิยมมวยไทยกันมาก อีกอย่างหนึ่งกีฬามวยเป็นกีฬาที่สนุกกว่าการออกกำลังกายแบบอื่น ทำให้สมองของเราเปิดโล่งและมีสมาธิกับการทำงานมากขึ้น"

คอร์สเวทีมวยไทยของทรูฟิตเนส เปิดให้บริการมาตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีอยู่สาขาเดียวที่ห้างสรรพสินค้าเซน ชั้น 9-10 สำหรับการสอนแบบตัวต่อตัวราคาจะอยู่ที่ชั่วโมงละประมาณ 1,250 บาทเลยทีเดียว

กทม.ดันมวยไทยเป็นหลักสูตรสอนเด็กกรุง

กทม.ร่วมสภามวยไทยโลกและสมาคมมวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการส่งเสริมศิลปมวยไทย ผลักดันเป็นหลักสูตรสอนเด็ก กทม.

วันนี้ (17 ก.ย.) ณ โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ ถ.รัชดาภิเษก : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วย พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ประธานสภามวยไทยโลก และ ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ นายกสมาคมมวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อร่วมกันพัฒนาและเผยแพร่ศิลปะมวยไทย รวมทั้งการนำศิลปะมวยไทยไปใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวางและมีประสิทธิภาพ เช่น มวยไทยกับการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ มวยไทยเพื่อการศึกษา และมวยไทยเพื่อการป้องกันตัว ทั้งนี้เพื่อเป็นการอนุรักษ์และสืบทอด “มวยไทย” ซึ่งถือเป็นศิลปวัฒนธรรมภูมิปัญญาของชาติไทยให้คงอยู่ตลอดไปอย่างยั่งยืน อีกทั้งเพื่อให้เด็ก เยาวชนและประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครได้ใช้มวยไทยเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต และได้มีส่วนร่วมในการสืบทอดและอนุรักษ์ “ศิลปะมวยไทย” ให้เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติแบบยั่งยืน เผยแพร่ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายทุกรูปแบบในระดับชาติ จนพัฒนาไปสู่ระดับสากลตามแบบอย่างวิถีไทย

นอกจากนั้น ทั้งสามหน่วยงานยังร่วมกันสนับสนุนและพัฒนาบุคลากรทางการกีฬา และผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องด้านการกีฬาให้มีความรู้ ความสามารถเกี่ยวกับศิลปะมวยไทยมากยิ่งขึ้น โดยจัดทำหลักสูตรและจัดวิทยากรในการถ่ายทอดความรู้ตามหลักสูตรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ “ศิลปะมวยไทย” รวมทั้งร่วมกันผลักดันให้หลักสูตร “ศิลปะมวยไทย” เข้าสู่ระบบการศึกษาในโรงเรียนสังกัด กทม.และศูนย์การเรียนรู้ (ศูนย์กีฬา, ศูนย์เยาวชน, ลานกีฬา) ในสังกัด กทม.อย่างทั่วถึงรวมถึงร่วมกันจัดหาและปรับปรุงสถานที่ พัฒนาและประยุกต์เครื่องแต่งกายมวยไทยให้มีความเหมาะสมกับการเรียนการสอน การแสดง การฝึกซ้อม และการแข่งขันเกี่ยวกับศิลปะมวยไทยด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2554

“Fairtex” ค่ายมวยใจกลาง RCA ปลุกกระแสมวยไทย...ใครก็ฝึกได้

มวยไทย กีฬาที่คนไทยมักจะมองว่า ‘เชย’ ไม่ทันสมัย และเป็นกีฬาของคนชนบท แต่วันนี้ ทุกอย่างได้เปลี่ยนไป เมื่อต่างชาติให้ความสนใจหันมาเล่นกีฬาประเภทนี้ กันมาก และเกิดสนามฝึกสอนมวยไทยที่ทันสมัย อย่าง Fairtex Muaythai ของตระกูล “บุษราคัมวงษ์” หลายแห่งในต่างประเทศ

และล่าสุด หนุ่มฮอต สาวฮอต ย่านอาร์ซีเอ ก็หันมาให้ความสนใจมวยไทย เพราะ “เปรม บุษราคัมวงษ์” ทายาทค่ายมวย Fairtex ได้ใช้งบหลายล้านบาท เนรมิตพื้นที่ สปอร์ตคลับ ข้างสนามไดร์กอล์ฟ ย่านอาร์ ซี เอ คาดหวังกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ และเด็กรุ่นใหม่หันมาให้ความสนใจมวยไทย

เปรม บุษราคัมวงษ์ เจ้าของ Fairtex Muaythai RCA กล่าวว่า การตัดสินใจเปิด แฟร์เท็กซ์ ที่อาร์ ซี เอ ส่วนหนึ่ง ต้องการให้เป็นสถานที่ออกกำลังกายรูปแบบใหม่ ที่ฉีกรูปแบบของค่ายมวยไทยแบบเดิม ๆ ที่ทุกคนมองว่าเป็นเรื่องเข้าถึงยาก เฉพาะกลุ่ม และน่ากลัว ให้เป็นเรื่องง่าย โดยการยกการออกกำลังกายด้วยมวยไทย มาไว้ที่ใจกลางเมือง อย่าง อาร์ ซี เอ ให้คนเมืองหลวงสามารถมาออกกำลังกายแบบมวยไทย ง่ายๆ หลังเลิกงาน หรือ เลิกเรียน

(คลิกเพื่อดูภาพขนาดใหญ่)

สำหรับแฟร์เท็กซ์ มวยไทย อาร์ ซี เอ ได้ประยุกต์ศาสตร์และศิลป์ของมวยไทยให้เป็นมวยไทยแนวใหม่ที่ทันสมัย เหมาะกับยุคสมัยในปัจจุบันมากขึ้น ด้วยวัตถุประสงค์ อยากให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ว่ามวยไทย ไม่ใช่การต่อสู้ที่รุนแรงอีกต่อไป แต่เป็นการออกกำลังกายโดยใช้หลักของศิลปะการป้องกันตัว และยังเป็นกีฬาที่เหมาะสมสำหรับคนที่ต้องการเผาผลาญไขมัน ได้เป็นอย่างดี ซึ่งในครั้งนี้ ไม่ได้เจาะกลุ่มไปที่ผู้ชายเท่านั้น แต่ยังมุ่งไปที่กลุ่มของเด็ก และผู้หญิง ที่สามารถเล่นมวยไทยได้อย่างสะดวกสบาย ตามสโลแกนที่ว่า “แฟร์เท็กซ์ มวยไทย ใครๆ ก็ฝึกได้”

ทั้งนี้ การเปิดที่อาร์ ซี เอ ต้องการจะสื่อให้เห็นว่ามวยไทย ไม่ใช่กีฬาที่เชย ที่เล่นกันเฉพาะในชนบท เท่านั้น แต่ใจกลางเมืองหลวง ย่านบันเทิงที่ทันสมัย มีสนามฝึกซ้อมมวยไทย เช่นกัน ประกอบกับต้องการยกระดับมวยไทยให้ดูทันสมัยในสายตาคนไทย เหมือนกีฬาเทคควันโด หรือ กีฬาอื่นๆ ที่ได้รับอิทธิพลมาจากต่างประเทศ ซึ่งแฟร์เท็กซ์ อาร์ ซี เอ นี้ ต่างจากที่พัทยา เพราะตรงนี้ ต้องการจะทำให้เป็นสถานที่ออกกำลังกาย ไม่ได้มุ่งหวังการฝึกซ้อมเพื่อการแข่งขัน ดังนั้น การเรียนมวยไทยที่นี่ ต่างจากที่พัทยา ด้วยเช่นกัน

ส่วนหลักสูตรในการสอน เริ่มจากคนที่ไม่เคยฝึกมวยไทยมาก่อน จะเรียนขั้นพื้นฐาน ไปจนถึงระดับบุคคลที่ไม่เคยมีประสบการณ์ เข้าแข่งขัน แต่ต้องการฝึกเทคนิคเพิ่มเติม โดยแบ่งคลาสออกเป็นคลาสต่างๆ


Beginner 1 และ 2 เป็นคลาสเริ่มต้นของผู้ที่ไม่มีพื้นฐาน


Intermediate เป็นอีกระดับต่อจากพื้นฐาน


Advance เป็นระดับที่ต้องการฝึกซ้อมเทคนิค เพื่อเข้าแข่งขัน


Private เป็นการฝึกซ้อมแบบตัวต่อตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าคอร์สลดน้ำหนัก โดยมีครูฝึกดูแลอย่างใกล้ชิด
(คลิกเพื่อดูภาพขนาดใหญ่)

ในส่วนอัตราค่าเรียน 1 เดือน 4,500 บาท สามารถมาเรียนได้ทุกวัน โดยจะมีเทรนเนอร์ คอยดูแลจำนวน 4 คน รวมตัว คุณเปรม ที่เป็นเทรนด์เนอร์สอนด้วย ส่วนพื้นที่รองรับผู้เรียนต่อคลาสจำนวน 20 คน โดยตั้งเป้าผู้เรียนไว้เดือนละ 20 คน เฉลี่ยอายุผู้เรียนอยู่ที่ประมาณ 12 ปี ไปจนถึง 30 กว่าปี ส่วนการขยายสาขาเพิ่มในกรุงเทพฯ ตอนนี้ยังไม่ได้คิด เพราะต้องการทำตรงจุดนี้ให้ดีก่อน ถ้ามีผู้สนใจเรียนมากขึ้น อาจจะมีการขยายสาขาเพิ่ม ส่วนการขยายสาขาในต่างประเทศ ปัจจุบันมีสาขามากกว่า 10 สาขา ใน ประเทศสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ มีแผนจะขยายสาขาเพิ่มอีกในหลายประเทศ ในประเทศไทย มี 3 สาขา คือ บางพลี พัทยา และอาร์ ซี เอ

“ผมอยากปลุกกระแสการออกกำลังกายในเมืองไทย ให้คนไทยหันมาสนใจและให้ความสำคัญกับศิลปะการป้องกันตัวอย่างมวยไทยให้มากขึ้น ในปัจจุบันลูกค้าของแฟร์เท็กซ์ มวยไทย จะเป็นชาวต่างชาติ มากกว่า 70% โดยเรามองเห็นว่า “มวยไทย” เป็นศิลปะของคนไทยก็อยากให้คนไทยได้รู้จักได้เรียนรู้ และเห็นประโยชน์ของมวยไทย อย่างจริงจัง แทนที่เด็กไทยจะไปฝึกศิลปะการป้องกันตัวของชาติอื่นๆ น่าจะหันมาส่งเสริมให้เด็กไทยได้ฝึกมวยไทยมากขึ้น ทั้งนี้ เพื่อร่วมกันอนุรักษ์ศิลปะมวยไทยให้คงอยู่คู่คนไทยตลอดไป”

นอกจาก การเปิดสอนมวยไทย แฟร์เท็กซ์ ที่อาร์ ซี เอ ยังเปิดคลาสออกกำลังกาย โยคะ สปินนิ่ง บอดี้คอมแบด และ คลาสแอร์โรบิคอื่นๆ เพราะเชื่อว่า จะได้กลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้หญิงมากขึ้น ปัจจุบันผู้หญิงไทยหันมาให้ความสนใจเรียนมวยไทย เพิ่มมากขึ้น เพราะนอกจากจะได้ออกกำลังกาย เพื่อให้รูปร่างดีแล้ว ยังได้ศิลปะการป้องกันตัวกลับไปด้วย ซึ่งผู้หญิงต่างชาติเอง ค่อนข้าง เห็นถึงความสำคัญตรงนี้ และมาเรียนมวยไทยกันเป็นจำนวนมาก

แฟร์เท็กซ์ มวยไทย เป็นหนึ่งในธุรกิจ แฟร์เท็กซ์ กรุ๊ป หลังจากประสบความสำเร็จในธุรกิจเสื้อผ้า และอุปกรณ์กีฬา นายบรรจง บุษราคัมวงษ์ ประธานแฟร์เท็กซ์ กรุ๊ป เริ่มเข้ามามีบทบาทในวงการมวยไทย โดยได้ก่อตั้งค่ายมวยไทยแฟร์เท็กซ์ขึ้นมาจากความชอบส่วนตัว ประกอบกับให้ค่ายมวยไทยเป็นมากกว่า สถานที่ฝึกซ้อม โดยเปลี่ยนค่ายมวยธรรมดากลายเป็นรีสอร์ทหรู บนพื้นที่ 9 ไร่ที่ พัทยา เพื่อรองรับชาวต่างชาติที่สนใจมาเรียนมวยไทยอย่างแท้จริง

วันพุธที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2554

“มวยไทยแอโรบิก” หมัด ศอก เข่า เตะ เพื่อคนรักสุขภาพ

กระแสการรักษาสุขภาพยังคงแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะท่ามกลางการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หลายคนเลือกจะออกกำลังกายแบบแอโรบิก ที่มีอยู่หลายจุดทั่วกรุงเทพและในแต่ละจังหวัด รูปแบบไม่ต่างกันมากเท่าใด คือมีคนนำเต้น มีเพลงมันส์ๆ จากนั้นก็ใส่กันโลด เต้นทันบ้างไม่ทันบ้าง แต่ก็ได้ตามเป้าหมายหลักคือได้ขยับแข้งขาเรียกเหงื่อกันคนละ 30-45 นาที ร่างกายแข็งแรงสุดๆ

แต่ถ้าจะสังเกตสักนิดจะพบว่าทุกลานแอโรบิกมักเต็มไปด้วยคุณสาวๆ ทั้งสาวแท้ สาวเทียม พาลเอาคุณผู้ชายทั้งหนุ่มน้อยและหนุ่มเหลือน้อยออกอาการเขิน ไม่ค่อยกล้าออกไปร่วมวง บางคนกังวลถึงขนาดกลัวคนอื่นมองว่า “ไม่แมน” กลายเป็น “เก้ง-กวาง” ไปโน่นเลย ทำให้หนุ่มๆ จำนวนมากพลาดโอกาสออกเหงื่อเพื่อสุขภาพแนวนี้ไปอย่างน่าเสียดาย

หากในขณะนี้ปัญหานี้จะถูกกำจัดไป เมื่อมีการคิดการออกกำลังกายที่ชื่อว่า “มวยไทยแอโรบิก” ขึ้นมา

นพ.อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ ผอ.กองออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยที่มาของการออกกำลังกายแนวใหม่ อย่าง “มวยไทยแอโรบิก” ว่า เป็นเพราะสังเกตว่าที่ลานแอโรบิกที่มีอยู่ทั่วทุกชุมชนนั้น ผู้ที่ใช้บริการส่วนใหญ่จะเป็นสุภาพสตรี ทั้งที่การออกกำลังกายแบบแอโรบิกเป็นรูปแบบการออกกำลังกายที่ดีมาก จึงอยากคิดวิธีการออกกำลังกายแนวนี้ที่ทุกเพศทุกวัยสามารถทำได้ โดยนำกีฬาที่ห้าวหาญบึกบึนแข็งแกร่งตามสไตล์การต่อสู้เก่าแก่ของบ้านเราอย่าง “มวยไทย” มาผสมผสานกับรูปแบบการออกกำลังกายต่อเนื่องอย่างแอโรบิกเข้าไว้ด้วยกัน

“แอโรบิกเป็นการออกกำลังกายระดับกลาง เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย แต่เสียดายตรงที่สังเกตดูหลายหนแล้วจะไม่ค่อยมีผู้ชายเล่น ก็เลยอยากทำแอโรบิกที่ผู้ชายรวมถึงทุกเพศทุกวัย ทั้งเด็กรวมไปถึงผู้สูงอายุก็เล่นได้ เราได้รับความร่วมมือจากสถาบันวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งวิจัยและให้ข้อมูลแก่เราว่ารูปแบบท่ามวยไทยหากทำต่อเนื่องแล้วจะคล้ายกับการออกกำลังกายแบบแอโรบิก และท่ามวยไทยที่มีมากมายนั้นสามารถนำมาปรับใช้ออกกำลังได้แทบทุกส่วนของร่างกาย แถมสามารถประยุกต์บางท่าที่ไม่หนักจนเกินไปให้เหมาะแก่ผู้สูงอายุได้อีกด้วย”

“ส่วนเรื่องของการออกแบบท่านั้นเราได้รับความร่วมมือจากอาศรมศิลป์ ซึ่งเป็นสถาบันที่ทำด้านอนุรักษ์ภูมิปัญญาไทยด้านศิลปะป้องกันตัวและการต่อสู้โดยเฉพาะ โดยได้เลือกท่ามวยไทยแท้ๆ และนำแต่ละท่าที่เหมาะสมมาร้อยให้ต่อเนื่องให้เป็นรูปแบบการออกกำลังกาย”

หมออรรถพลให้ภาพต่อไปอีกว่า ท่าต่างๆ ที่นำมาจัดทำเป็นมวยไทยแอโรบิกนั้น มีครบทั้งหมัด ศอก เข่า เตะ ในหมวดหมัดก็จะมีหมัดตรง หมัดเสย หมัดงัด เข่าก็จะมีเข่าตรง ท่าเตะก็จะมีเตะตรง เตะเฉียง เตะเสย เตะตัด ท่าศอกจะมีศอกตรง ศอกเสย ศอกเฉียง และศอกกลับ รวมถึงมีท่าพิเศษต่างๆ ตามรูปแบบแม่ไม้มวยไทย เช่น จระเข้ฟาดหาง แต่หากกลุ่มเป้าหมายที่มาออกกำลังกายเป็นผู้สูงอายุ ก็จะเน้นการนำออกกำลังกายเป็นท่าหมวดหมัดและศอก จะเว้นหมวดที่ใช้เท้าทั้งเข่าและเตะ รวมถึงท่าพิเศษจำพวกแม่ไม้มวยไทยอื่นๆ เพื่อความปลอดภัยของผู้ออกกำลังกายสูงอายุด้วย


ผอ.กองออกกำลังกายฯ เล่าถึงความคืบหน้าล่าสุดของโปรเจ็กต์นี้ต่อไปอีกว่า เมื่อสิ้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา คณะทำงานชุดเผยแพร่การออกกำลังกายแบบมวยไทยแอโรบิกก็ได้ลงพื้นที่จังหวัดราชบุรีเพื่อจัดกิจกรรมแนะนำมวยไทยแอโรบิกที่สนามกีฬาจังหวัด มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 3,000 คน ซึ่งถือว่าประชาชนตอบรับดีมากโดยเฉพาะเด็กผู้ชายและวัยรุ่นชายที่ดูเหมือนจะชอบการออกกำลังกายแนวแมนๆ อย่างมวยไทยแอโรบิกเป็นพิเศษ

“ที่ไปเริ่มที่แรกที่ราชบุรี เพราะ อ.วิชิต เชื้อเชิญ ซึ่งเป็นอาจารย์จากอาศรมศิลป์ท่านเป็นคนที่นี่ และมีลูกศิษย์ลูกหาที่สนใจมาศึกษาเรื่องมวยไทยและศิลปะป้องกันตัวจากท่านเยอะ วันที่จัดงานมีกิจกรรมเกี่ยวกับมวยไทยแอโรบิกมากมาย ทั้งนำเต้นพร้อมกันและการจัดการแข่งขัน โดยเราแบ่งประเภทผู้เข้าแข็งเป็นประเภทเด็กนักเรียนและประชนชนทั่วไป ซึ่งก็มีผู้สนใจมาสมัครแข่งกันหลายสิบทีม”

ถึงตรงนี้ผู้อ่านหลายคนคงจะเริ่มสนใจการออกกำลังกายรูปแบบทะมัดทะแมงนี้แล้ว แต่อาจจะยังกังขาเรื่องผลที่จะได้รับจากมวยไทยแอโรบิกว่าเป็นอย่างไร ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงได้อย่างไรบ้าง

นพ.อรรถพลก็ได้อธิบายโดยอ้างอิงผลการศึกษาของสำนักวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายใต้การสนับสนุนของเครือข่ายวิจัยสุขภาพ มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ว่า หากออกกำลังกายด้วยรูปแบบมวยไทยสัปดาห์ละ 3 วันๆ ละประมาณ 30 – 40 นาที ช่วยให้การทำงานของหัวใจ ปอด ดีขึ้น ระบบการไหลเวียนเลือดในร่างกายดีขึ้น การออกกำลังกายแบบมวยไทยนี้ เหมาะกับคนทุกเพศ ทุกวัย

“มวยไทยแอโรบิกเป็นการทำท่าแบบต่อเนื่อง ถือเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกแบบหนึ่ง ซึ่งจะสามารถสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกายได้ ที่สำคัญก็คือต้องออกกำลังเป็นประจำสม่ำเสมอ ทำแค่ 15-30 นาทีก็ได้ครับ แต่อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 หน แต่ถ้าทำได้ทุกวันยิ่งดี”

หมออรรถพลยังได้บอกถึงก้าวต่อไปของโครงการดีๆ แบบนี้ว่า ในปีหน้าหากของบประมาณได้ จะเดินสายจัดกิจกรรมเผยแพร่แนวทางการออกกำลังกายมวยไทยแอโรบิกให้ได้ทุกภาคของประเทศ อย่างน้อยภาคละ 1 ครั้ง เพื่อให้ประชาชนทุกภาคได้รู้จักและเข้าถึงเพื่อสามารถทำไปใช้ประโยชน์ต่อสุขภาพได้

ามวยไฟเขียว ชิงแชมป์มวยไทย ครั้งแรกของโลก

มวยไทยโกอินเตอร์ หลังสภามวยโลกให้การรับรองพร้อมได้ฤกษ์จัด มวยไทยชิงแชมป์โลก เป็นครั้งแรกในโลก 2 รุ่นซ้อน ในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ ที่ออสเตรเลีย โดย ยอดแสนไกร แฟร์เท็กซ์ แชมป์มวยไทย รุ่นเวลเตอร์เวท วิกลุมพินี จะข้ามรุ่นชิงแชมป์ว่าง รุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวทกับ จอห์นเวย์น พาร์ นักชกที่กำลังฮอตสุดๆ ของเจ้าถิ่น ขณะที่รุ่นครุยเซอร์เวทนักชกจิงโจ้จะปะทะมวยยุ่น ด้าน พล.ต.อ.โกวิท ภักดีภูมิ มั่นใจอนาคตมวยไทยจะกระจายไปทุกมุมโลกแน่

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศในประเทศไทย อาคารมณียา ถนนเพลินจิต พล.ต.อ.โกวิท ภักดีภูมิ รองประธานสภามวยโลก ในฐานะประธานสภามวยโลก มวยไทย เป็นประธานแถลงข่าวการจัดชิงแชมป์ว่างมวยไทย ของ สภามวยโลก มวยไทย ที่โกลด์โคสต์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ในวันที่ 10 ธันวาคมนี้

ประธานสภามวยโลก มวยไทย กล่าวถึงการจัดในครั้งนี้ว่า ถือเป็นครั้งแรกที่ โฮเซ่ สุไลมาน ประธานสภามวยโลก (ดับเบิลยูบีซี) ได้อนุมัติให้มีการจัดชิงแชมป์โลกมวยไทยขึ้น โดยที่สภามวยโลกให้การรับรองอย่างเป็นทางการ รวม 2 รุ่น คือ รุ่นครุยเซอร์เวท เป็นการพบกันระหว่าง นาธาน คอร์เบตต์ แชมป์มวยไทยจากแดนจิงโจ้ กับ แม็กนัม ซาไก แชมป์จากประเทศญี่ปุ่น และคู่ชิงแชมป์ว่างรุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวท ระหว่าง จอห์นเวย์น พาร์ นักมวยไทยที่โด่งดังที่สุดในออสเตรเลีย กับ ยอดแสนไกร แฟร์เท็กซ์ เจ้าของแชมป์รุ่นเวลเตอร์เวท เวทีมวยลุมพินี

"ที่ผ่านมาสภามวยโลก มวยไทย ได้มีการจัดการแข่งขันขึ้นและมีการชิงแชมป์หลายครั้ง แต่เป็นการชิงแชมป์ระดับภูมิภาค หรือแชมป์แต่ละประเทศเท่านั้น แต่ในการจัดที่ประเทศออสเตรเลียครั้งนี้ ถือว่าเป็นครั้งแรกของโลกที่สภามวยโลกให้การรับรองการชิงแชมป์มวยไทยอาชีพ โดยจะใช้กฎกติกามวยไทยตามที่การกีฬาแห่งประเทศไทยกำหนดทั้งหมด"

พล.ต.อ.โกวิท กล่าวอีกว่า จากการประชุมใหญ่สภามวยโลก ที่ประเทศสเปน เมื่อเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา สภามวยโลก ได้มีการเปิดตัว สภามวยโลก มวยไทย อย่างเป็นทางการ และบรรดาชาติสมาชิกของสภามวยโลกต่างให้การยอมรับเป็นอย่างดี ซึ่งทำให้เรามีความมั่นใจว่าในอนาคตมวยไทยจะได้รับการยอมรับจัดแข่งขันไปทั่วทุกมุมโลก เนื่องจากมีสถาบันหลักให้การรับรองแล้ว และน่าจะทำให้นักมวยไทยหลายคนมีโอกาสก้าวสู่ระดับนานาชาติต่อไป

วันอังคารที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2554

"เชษฐา" มั่นใจดันมวยไทยเข้าโอลิมปิก 2016

“บิ๊กเหวียง” พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ประธานสภามวยไทยโลก (WMC) เปิดเผยเมื่อ 23 พ.ค. ว่าวางแผนที่จะผลักดันกีฬามวยไทยเข้าสู่กีฬาโอลิมปิกให้ได้ในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2016 โดยขณะนี้ นายไฮน์ เวอร์บรูเกน ประธานสมัชชาสหพันธ์กีฬานานาชาติ (GAFIS) ได้รับรองมวยไทยเข้าสู่ขบวนการคัดเลือกกีฬาโอลิมปิก หลังจากให้การรับรองสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ (IFMA) เข้าเป็นสมาชิก ซึ่งทั้ง WMC และ IFMA รวมทั้ง ดร.ณัฐ อินทรปาณ สมาชิกคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) จะจับมือกันผลักดันกีฬามวยไทยเข้าสู่กีฬาโอลิมปิกให้ได้ต่อไป

พล.อ.เชษฐา กล่าวอีกว่าการผลักดันชนิดกีฬาเข้าสู่มหกรรมกีฬาโอลิมปิกนับเป็นเรื่องยาก เพราะ IOC จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเพียง 28 ชนิดกีฬา แต่ในขณะนี้มวยไทยมีความหวังเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากในการประชุมของของ IOC ที่จีน เมื่อปีที่ผ่านมา IOC จะเพิ่มชนิดกีฬาในโอลิมปิกอีก 3 ชนิด โดยพิจารณาจากความแพร่หลาย การได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง มีการเล่นและแข่งขันทั่วโลก การแข่งขันสนุกตื่นเต้น มีศิลปะและมีคนติดตามการแข่งขัน และมีสมาชิกอยู่ใน 5 ทวีปทั่วโลก ซึ่ง นายไฮน์ เวอร์ บรูเกน ที่จะทำหน้าที่คัดเลือกชนิดกีฬา ได้แจ้งให้สมาชิกทราบว่า 1 ใน 3 ชนิดกีฬาที่จะเพิ่มเข้าสู่โอลิมปิก 2016 จะมีกีฬาจากกลุ่มมาเชียลอาร์ท (กีฬาต่อสู้) 1 ชนิดกีฬา จาก 9 ชนิดที่กำลังพิจารณาอยู่คือ มวยไทย, คาราเต้, คิกบ๊อกซิ่ง, ไอกิโด, เคนโด, ซอมโบ้, วูซู, ซูโม่, ยิวยิทสู

“บิ๊กเหวียง” กล่าวต่อไปว่าจากการมาเยือนไทย 2 ครั้งของ นายไฮน์ เวอร์ บรูเกน เปิดเผยว่าตอนนี้กีฬามวยไทยได้รับการพูดถึงมากที่สุด รองลงมาได้แก่ คาราเต้ แต่มวยไทยต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างเต็มที่ เหมือนกับที่รัฐบาลเกาหลีใต้ให้การสนับสนุนเทควันโด อย่างไรก็ตามตนมั่นใจว่า โอกาสที่มวยไทยจะเบียดคาราเต้เข้าสู่โอลิมปิก 2016 มีมาก และ WMC ที่มีสมาชิกอยู่ 125 ทุกทวีปทั่วโลกจะเผยแพร่ศิลปะมวยไทยให้เป็นที่นิยมทั่วโลกมากขึ้น โดยร่วมกับเอกชนจัดรายการมวยไทย TGN ร้อยรวมใจ สืบสานมวยไทยสู่โอลิมปิก ถ่ายทอดสดมวยไทยผสมผสานกับการนำเสนอชีวิตจริงของนักมวย, เกร็ดความรู้มวยไทย กติกา พร้อมวัฒนธรรม ออกสู่สายตาชาวโลก 177 ประเทศทั่วโลก ทางสถานีโทรทัศน์ TGN (ช่อง 5 TGN) ถ่ายทอดสดผ่านดาวเทียม ทุกวันอังคารเวลา 20.15-22.15 น. รับชมได้ทางทรูวิชั่นส์ ช่อง 97 เพื่อสร้างกระแสนิยมมวยไทยทั่วโลก โดยเฉพาะในยุโรป, สหรัฐอเมริกา และแอฟริกาที่มีอิทธิพลต่อ IOC มาก

ส่วนเรื่องปัญหาองค์กรมวยไทยในเมืองไทยที่ขัดแย้งกันนั้นไม่มีปัญหา เพราะได้ชี้แจงให้ GAFIS และ IOC เข้าใจหมดแล้ว หากมวยไทยเข้าสู่โอลิมปิกสำเร็จ สหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ หรือ IFMA จะทำหน้าที่คัดเลือกนักกีฬาเข้าแข่งขันเหมือนกับไอบาของมวยสากลสมัครเล่นและถ้าทำสำเร็จไทยได้ประโยชน์มหาศาลเพราะมีเหรียญทองแน่นอนในกีฬาโอลิมปิก ไม่ต้องสร้างแรงกดดันให้กับสมาคมที่มีความหวังอย่างมวยสากลสมัครเล่น หรือยกน้ำหนัก

ตุ๊กตาเรซิ่น แม่ไม้มวยไทย

"มวยไทย" ศาสตร์การต่อสู้ที่ดุเดือดรุนแรง แฝงไปด้วยศิลปะงดงาม ปัจจุบัน แม่ไม้มวยไทยแท้ๆ หาชมได้ยากยิ่ง แต่ด้วยฝีมือสร้างสรรค์ของศิลปินชาว อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง อย่าง บัณฑิต โกศลสิทธิ์ ได้นำศิลปะการต่อสู้ของคนไทยกลับมาให้คนรุ่นใหม่สัมผัสอีกครั้ง โดยผ่านตุ๊กตา ที่มีท่วงท่า ลีลา และอารมณ์ ดุจมีชีวิตจริง

บัณฑิต โกศลสิทธิ์ เปิดเผยถึงแรงบันดาลใจเกิดจากความรักในมวยไทยของเจ้าของผลงานตั้งแต่เยาว์วัย ผสมผสานกับวิชาการปั้นตุ๊กตาชาววังที่ได้รับการถ่ายทอดจากครอบครัว เริ่มมาจากคุณแม่เคยเรียนปั้นตุ๊กตาชาววัง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2519 ซึ่งมีอาจารย์มาสอนอาชีพให้ชาวบ้าน ส่วนตัว พอจบ ม.ต้น ก็มาต่อด้านศิลปกรรม จบมาก็ทำงานบริษัท จนมีช่วงหนึ่งตกงาน เลยมาฝึกปั้นตุ๊กตาชาววังกับแม่ และได้เห็นท่าย่างสามขุมของมวยไทย แล้วประทับใจ เพราะชอบมวยตั้งแต่เด็กจนเกิดเป็นแรงบันดาลใจอยากปั้นเป็นตุ๊กตานักมวยไทย

หลังจากออกผลงานครั้งแรกปี 2535 ปัญหาที่พบ คือ ตุ๊กตาปั้นที่ทำจากดินเผา มีปัญหาแตกหักง่าย ไม่สะดวกในการขนย้ายระหว่างเดินทาง เลยเปลี่ยนวัสดุเป็น เรซิ่น แทน เพราะแข็งแรงกว่า แล้วลงสีให้เหมือนกับสีของดินเผา ต้องการรักษาความรู้สึกของการเป็นงานทำมือไว้

สำหรับจุดเด่นของตุ๊กตามวยไทยของเขานั้น อยู่ที่ความถูกต้องในท่วงท่าของแม่ไม้มวยไทย ซึ่งมาจากการศึกษาอย่างจริงจัง และได้รับคำแนะนำของครูมวยไทย รวมถึงเน้นเรื่องกายวิภาคให้ดูสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดโครงสร้างร่างกาย, กล้ามเนื้อ, เส้นเลือด และอารมณ์ใบหน้า

"ผมพยายามทำให้ลูกไม้ต่างๆ ถูกต้องที่สุด โดยเป็นมวยไทยโบราณ แบบคาดเชือก ซึ่งหาดูไม่ได้แล้ว ผมคิดว่า มวยไทยสวยงาม เป็นศาสตร์วิชาต่อสู้รอบตัว การปั้นแต่ละท่า ศึกษาจากหนังสือประวัติศาสตร์มวย และมีครูมวยคอยแนะนำบ้าง และดูจากของจริง แรกๆ ปั้นมาแล้ว มันดูเตะ ต่อยไม่มีน้ำหนัก ก็ปรับเปลี่ยนมาเรื่อยๆ ตอนนี้ ก็ 10 กว่าปีแล้ว คนภายนอกดูแล้วบอก สวย แต่ตัวผม พอใจประมาณ 80% เพราะเราก็อยากพัฒนาไปเรื่อยๆ" บัณฑิตกล่าว

สำหรับตุ๊กตาแม่ไม้มวยไทยมีทั้งหมด 82 ท่า และยิ่งเป็นมวยไทยโบราณ มีถึง 180 ท่า ขณะนี้ มีแบบที่ปั้นแล้ว ประมาณ 20 ท่า หลายท่าเป็นศิลปะการต่อสู้ที่หาชมไม่ได้แล้วจากการแข่งขันจริงๆ ตุ๊กตามวยไทยจึงเป็นเหมือนอีกหนึ่งบทบันทึกในการถ่ายทอดศิลปะ ในอดีตมาให้คนรุ่นใหม่ และต่างชาติได้รู้จัก โดยบัณฑิต มีความฝันว่า จะพยายามศึกษาและปั้นแม่ไม้มวยไทยออกมาให้ได้ครบถ้วนทุกกระบวนท่า

โดยสนนราคาขายตั้งแต่ 250 ถึง 1,500 บาท จะมีร้านค้ารับไปขาย อีกทั้ง ทำตามคำสั่งซื้อ กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนไทย นำไปมอบเป็นของที่ระลึกให้ชาวต่างชาติในวาระต่างๆ รวมถึง ร้านอาหารไทยในต่างแดนนำไปตกแต่งร้าน ตอนนี้ได้รับคำสั่งซื้อจากต่างชาติ อาทิ โรมาเนีย, ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น มียอดขายประมาณหลายร้อยตัวต่อเดือน

"ปกติชาวต่างชาติชอบมวยไทยมาก เขาจะศึกษาอย่างจริงจัง ดังนั้น เราต้องทำให้ถูกต้องที่สุด ไม่ให้เขาว่าได้ และผมก็พยายามถ่ายทอดศิลปะของเรา โดยจะใช้ชื่องานว่า มวยไทย ไม่ใช่คำว่าไทย บ็อกซิ่ง (Thai Boxing) และผมก็เตรียมทำโบว์ชัวร์เพื่ออธิบายที่มาที่ไปของแต่ละแม่ไม้เสริมเข้าไว้ด้วย" บัณฑิตกล่าว

ปัญหาสำคัญ คือ อุปกรณ์ยังไม่พร้อม ด้วยเป็นงานกึ่งทำมือ จึงไม่สามารถผลิตครั้งละมากๆ ได้ รวมถึงขาดแคลนทีมงาน เวลานี้ ทำกันอยู่แค่ 2 คน แม้อีกหน้าที่จะเป็นวิทยากร สอนปั้นตุ๊กตาชาววัง อยู่ที่ ม.เกษตรศาสตร์ และพยายามสอนการปั้นตุ๊กตามวยไทยอยู่ด้วย แต่การหาทีมงานมาร่วม ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนอกจากใจรักแล้วยังต้องมีความอดทนสูงด้วย

ส่วนการโดนเลียนแบบมีอยู่บ้าง ทั้งทำเหมือน 100% และทำรูปแบบใกล้เคียงกันออกมาแข่ง แต่ทั้งนี้ ถ้าเป็นระดับผู้ประกอบการรายย่อยๆ ไม่มาแย่งตลาดโดยตรง คงไม่ว่ากัน เพราะเข้าใจหัวอกคนทำมาหากิน แต่ถ้าเป็นกลุ่มโรงงานคงต้องมีการฟ้องร้องต่อไป

ทั้งนี้ แผนในอนาคต บัณฑิต โกศลสิทธิ์ มีโครงการเตรียมจะออกชุดตุ๊กตานักรบโบราณ ไม่ว่าจะเป็นขุนพลเอก หรือนักรบชาวบ้าน เช่น ชาวบางระจัน เพราะมีลักษณะใกล้เคียงกับตุ๊กตามวยไทย ที่สามารถถ่ายทอดความเป็นไทย ผ่านการต่อสู้ รวมถึง ยังสามารถเพิ่มเติมจุดเด่นด้วยอุปกรณ์ อาทิ ดาบ หรือเกาะเหล็ก เป็นสินค้าเสริมได้อีกด้วย สนในจติดต่อ โทร.035-662-569 และ 087-900-8081

วันจันทร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2554

นักวิจารณ์มวยชื่อดังประจำบีบีซีลาโลก

แฮรร์รี คาร์เพนเตอร์ คอมเมนเตเตอร์มวยชื่อดังของบีบีซี ลาโลกแล้ว ด้วยวัย 84 ปี
นักวิจารณ์มวยชื่อดังของสำนักข่าวบรรษัทกระจายเสียงแห่งอังกฤษ หรือบีบีซี

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า แฮร์รี คาร์เพนเตอร์ นักวิจารณ์มวยชื่อดังของสำนักข่าวบรรษัทกระจายเสียงแห่งอังกฤษ หรือบีบีซี เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 84 ปี

โดยการเปิดเผยของ นายเดวิด วิลล์ ทนายประจำตัวของนายคาร์เพนเตอร์ ระบุว่า นักวิจารณ์มวยรายนี้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลคิงส์ คอเลจ ในกรุงลอนดอน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น หลังมีอาการป่วยด้วยโรคหัวใจมาตั้งแต่ฤดูร้อนที่แล้ว

ทั้งนี้ คาร์เพนเตอร์ ร่วมงานกับบีบีซี ตั้งแต่ปี 2492 หลังจากรับราชการอยู่ในกองทัพเรือเป็นเวลา 2 ปี โดยเขาเริ่มงานเป็นผู้สื่อข่าวสายมวยตั้งแต่ปี 2505 จนถึงปี 2537 อีกทั้งยังเคยร่วมงานกับหนังสือพิมพ์ชื่อดังหลายฉบับด้วย

ทึ่งครูมวย 6 ขวบออกตระเวนสอน

ทึ่ง! “จีจ้าน้อย” ครูมวยจิ๋วสุดในโลก อายุแค่ 6 ขวบ ตระเวนสอนศิลปะแม่ไม้มวยไทยให้กับเด็กๆ ตามโรงเรียนต่างๆ เผยเป็นลูกสาวเจ้าของค่ายมวยดังในสัตหีบ เริ่มฝึกมวยตั้งแต่ 4 ขวบ มีแววอัจฉริยะได้ขึ้นเวทีชกครั้งแรกตอน 5 ขวบ ลีลาการชกดุดัน ต่อมาหาประกบคู่มวยไม่ได้เลยหันเหมาเป็นครูมวยสอนเด็กๆ แทน แถมมีความสามารถพิเศษวิเคราะห์วิจารณ์มวยแม่นยำ

ณ เวทีมวยชั่วคราวตลาดนัดกิโล 10 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อเวลา 00.15 น. วันที่ 12 มี.ค. นายสันต์ศักย์ จรูญ งามพิเชษฐ์ ที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้เป็นประธานเปิดการแข่งขัน จัดการชกมวยไทยในชื่อศึกดาวรุ่งศิษย์สีเผือกเพื่อการกุศล ซึ่งเป็นการแข่งขันชกมวยเด็กดาวรุ่ง น้ำหนักไม่เกิน 30 กิโลกรัม จำนวน 11 คู่ เพื่อหารายได้มอบเป็นทุนอาหารกลางวันให้กับเด็กนักเรียนในเขต ต.พลูตาหลวง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนจะถึงรายการแข่งขันชกมวย ได้มีการโชว์ศิลปะแม่ไม้มวยไทยบนเวที โดยมี ด.ญ.อังคณา สำเภาเงิน หรือ น้องหมวย อายุ 6 ขวบ อยู่บ้านเลขที่ 27/30 หมู่ 4 ต.สัตหีบ เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนชุมชนบ้านเตาถ่าน ต.สัตหีบ และ ด.ช.วโรดม ต้นทอง อายุ 8 ขวบ หรือ “ดาวคะนอง ศิษย์ลมหนาว” แชมป์มวยเด็กของภาคตะวันออก เป็นคู่แสดงท่าแม่ไม้มวยไทยจำนวน 8 ท่า ประกอบด้วย ท่าอิเหนาแทงกริช มอญยันหลัก จระเข้ฟาดหาง ฤษีบดยา เถรกวาดลาน หนุมานเหินสมุทร หิรัญยักษ์ม้วนแผ่นดิน และนารายณ์บั่นเศียร ซึ่งได้รับความสนใจและเสียงปรบมือดังกึกก้องทั่วสนามมวย

นายสมชาย สำเภาเงิน และ นางบัวลี สำเภาเงิน บิดาและมารดาของน้องหมวย เปิดเผยว่าตนมีลูก 2 คน น้องหมวยเป็นคนเล็ก ส่วนพี่ชายอายุ 12 ขวบ เป็นนักมวยไทยฉายา “ฉลามขาว เพชรเตาถ่าน” ที่บ้านเปิดเป็นค่ายมวยชื่อค่ายเพชรเตาถ่าน สำหรับน้องหมวยได้เริ่มฝึกมวยไทยตั้งแต่อายุ 4 ขวบครึ่ง พออายุ 5 ขวบก็ขึ้นเวทีชกครั้งแรกที่ จ.ระยอง ผลออกมาเสมอ หลังจากนั้นก็เดินสายหาคู่ชกมาตลอด แต่ก็ไม่มีเพราะเป็นผู้หญิงและตัวเล็กกว่านักมวยหญิงคนอื่นๆ จนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้ขึ้นเวทีชกอีกครั้งกับ “น้องเนย ลูกอ่างตานนท์” ที่ จ.ระยอง ผลปรากฏว่าชนะคะแนน

นอกจากน้องหมวยจะเก่งในเชิงชกมวยกว่าเด็กในวัยเดียวกันแล้ว ยังเป็นครูมวยที่เก่งจนน่าทึ่งอีกด้วย โดยระหว่างที่ตนตระเวนไปสอนศิลปะแม่ไม้มวยไทยให้กับบรรดาเด็กๆ ตามโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่ อ.สัตหีบ ก็จะพาน้องหมวยไปเป็นครูมวยสอนเด็กๆ ด้วย ซึ่งน้องหมวยมีพรสวรรค์ในการสอนศิลปะแม่ไม้มวยไทยได้อย่างดีเยี่ยมจนได้รับคำชมไปทั่วและพากันตั้งฉายาว่าจีจ้าน้อย

“ปกติลูกสาวเป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยกล้าแสดงออก แต่ถ้าขึ้นเวทีเมื่อไหร่จะสวมหัวใจราชสีห์ จนแฟนมวยยกให้เป็นว่ามวยพันธุ์ดุ อีกทั้งลูกสาวยังวิเคราะห์วิจารณ์มวยได้อย่างแม่นยำ ทั้งในเรื่องจุดเด่นจุดด้อยของนักมวยแต่ละคน แต่ที่ลูกสาวภาคภูมิใจที่สุดก็คือได้เป็นครูสอนมวยไทยให้กับนักเรียนรุ่นพี่ และน่าจะถือว่าเป็นครูมวยอายุน้อยที่สุดในโลก” พ่อน้องหมวยกล่าวด้วยความปลื้ม

วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2554

ดีด้า ไดเฟต "มวยไทยคือศิลปะอันงดงาม" (4)

ดารามือใหม่ของเรายังเปิดเผยถึงบุญคุณของ "มวยไทย" ที่ส่งผลให้ตัวเองสามารถพลิกฐานะจากเด็กกำพร้าสู่ความเป็นซูเปอร์สตาร์ได้ในปัจจุบันว่า

"จากการที่คนไทยเป็นคนใจกว้าง ให้การนับถือผู้อื่นเป็นอย่างดี ผมจึงไม่มีปัญหาที่ว่าจะได้รับการดูถูกจากใครเลย ที่สำคัญคือประเทศไทยนั้นมีบุญคุณกับผมมาก"

"สำหรับผมแล้ว มวยไทย คือศิลปะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุด ทำให้ไม่คิดจะหันไปสนใจการต่อสู้ในแบบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น คาราเต้, กังฟู หรือ เควัน อะไรก็แล้วแต่ เพราะมวยไทยเป็นสิ่งที่วิเศษที่สุดแล้ว และก็สามารถเปลี่ยนชีวิตผมได้ในทุกวันนี้”

"ในอดีตผมอาจจะลำบาก ยากจนมาก แต่ก็เพราะมวยไทย ที่ทำให้ชีวิตผมในวันนี้ดีกว่าเดิมมากมาย กลายเป็นคนที่มีรถเฟอร์รารี่ขับ แน่นอนว่าผมไม่จนแล้ว มีคนยกย่องมากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องการคือการทำอะไรบางอย่างให้กับประเทศไทยบ้าง"

สิ่งที่ ดีด้า เกริ่นไว้คือการเตรียมงานเปิดตัวรายการ "เรียลิตี้โชว์" ที่จะดึงเยาวชนมาฝึกมวยไทยในค่ายซ้อม เพื่อหาคนเก่งในศาสตร์ "มวยไทย" อย่างจริงจังเสียที

"ผมคิดว่ามีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่มีความสามารถด้านการชกมวยไทย แต่ว่ายังขาดโอกาส และไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเดินบนหนทางที่ถูกต้องได้อย่างไร ผมคิดว่าเวทีนี้จะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับพวกเขาเหล่านั้น เพื่อสืบต่อศิลปะมวยไทยต่อไป"

ทั้งนี้ ดีด้า คาดว่ารายการเรียลิตี้น้องใหม่รายการนี้จะเปิดตัวให้แฟนๆ ได้ชมกันในช่วงปลายปีนี้ หรือหากติดขัดก็อาจจะเป็นในปีหน้า ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเรื่องการเลือกช่องโทรทัศน์ว่าจะออกอากาศทางสถานีใดในประเทศไทย ที่สำคัญรายการนี้จะมีการถ่ายทอดกลับไปยังประเทศฝรั่งเศส บ้านเกิดของ ดีด้า อีกด้วย

ถึงวันนี้แม้หนุ่มฝรั่งเศสนาม ดีด้า ไดเฟต จะอำลาจากผืนผ้าใบอย่างเป็นทางการไปหลายปีแล้ว แต่ก็ยังมุ่งมั่นที่จะเผยแพร่ศาสตร์การต่อสู้จากลุ่มน้ำเจ้าพระยาสู่สายตาชาวโลกด้วยการทำรายการเรียลิตี้โชว์ ซึ่งเหตุผลเดียวที่ ดีด้า บอกไว้ก็คือ

มวยไทยคือสิ่งงดงามที่สุดสำหรับผม และผมก็ตกหลุมรักมวยไทยไปตั้งแต่วันแรกที่ได้รู้จักกัน”

ดีด้า ไดเฟต "มวยไทยคือศิลปะอันงดงาม" (3)

เมื่อวันเวลาไม่เคยโกหกและยังคงทำหน้าที่อย่างเที่ยงตรง จนสภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวยให้กับการชกมวยอย่างทรหดโชกโชนดังเช่นอดีต ดีด้า จึงตัดสินใจหันหลังให้กับกลิ่นสาบสังเวียนเมื่อวัยขึ้นสู่เลข 3 จึงมาถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ทำให้หนุ่มสายเลือดเดียวกับนโปเลียนรายนี้เปลี่ยนไปยึดอาชีพทางการแสดงแทน ด้วยการนำชีวิตของนักชกบนเวทีมวยไทยมาตีแผ่บนแผ่นฟิล์มในชื่อว่า "โชคดี"

"มีแฟนๆ จำนวนมากที่รู้จักผมจากการชกมวยไทยจากการถ่ายทอดสดของสถานีโทรทัศน์ในฝรั่งเศส จากความโด่งดังในครั้งนั้นทำให้ผมเขียนหนังสือชีวประวัติของตัวเองขึ้นมา และมันก็ได้รับความสนใจจากผู้สร้างหนัง ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เกิดขึ้นมาได้ ที่สำคัญสามารถขายลิขสิทธิ์ได้มากถึง 125 ประเทศ นั่นทำให้ผมดีใจจนพูดไม่ออกเลยทีเดียว เพราะผมทำมันเองแทบจะทุกอย่าง ทั้งการเขียนบท อำนวยการสร้าง ออกแบบฉาก รวมไปถึงการแสดงเป็นตัวเอกของเรื่อง ผมก็รู้สึกภูมิใจกับมันมาก"

ดีด้า ยังได้เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างชีวิตบนแผ่นฟิล์ม กับการชกมวยไทยด้วยว่า

"การชกบนเวทีผมต้องต่อสู้กับคู่แข่ง มันก็เหมือนกับการอยู่ในธุรกิจภาพยนตร์ที่ผมก็ต้องแข่งขันกันกับคนอื่น เพียงแต่ว่ามันอาจจะเป็นเรื่องที่เบากว่า เพราะระหว่างที่เราอยู่ในโลกของธุรกิจบันเทิง อาจจะมีคนมาเสิร์ฟกาแฟระหว่างทำงาน แตกต่างจากการชกบนเวทีที่ไม่มีถ้วยกาแฟมาให้ผมนั่งจิบแน่"

ดีด้า ไดเฟต "มวยไทยคือศิลปะอันงดงาม" (2)

ในวันที่อากาศร้อนอบอ้าวคุกคามกรุงเทพฯ ทีมข่าวกีฬาของ "ผู้จัดการรายวัน" มีนัดกับหนุ่มฝรั่งเศสอดีตนักมวยไทยชื่อกระฉ่อนบนแผ่นดินยุโรป ที่ปัจจุบันผันตัวเองจากซูเปอร์สตาร์บนผืนผ้าใบสู่วงการบันเทิงอย่างไม่ขัดเขิน

ทันทีที่เราไปถึงโรงแรมคอนราร์ดฯ ก็ได้พบกับชายชาวต่างชาติผิวขาว รูปร่างเล็ก ทว่าดูแกร่งเกร็งไปด้วยกล้ามเนื้อที่สมส่วนภายใต้การแต่งตัวตามสบายในเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีชมพูอ่อนๆบนเก้าอี้นั่งอย่างสบายอารมณ์ พร้อมด้วยสื่อมวลชนจากหลายสำนัก ที่รายล้อมเป้าหมายของเราอยู่ แน่นอนว่านี่แหละ "ดีด้า ไดเฟต" ที่เรามองหาอยู่

ทันทีที่ได้ทำความรู้จักกันผ่านล่ามสาวหน้าหวาน ดีด้า แสดงท่าทีเป็นมิตรอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับกล่าว "สวัสดีครับ" เป็นภาษาไทยอย่างคุ้นลิ้น โดยอดีตนักชกหนุ่มวัย 37 ปีเล่าให้เราฟังถึงพรหมลิขิตอันเป็นจุดเริ่มต้นที่นำพามารู้จักกับ "มวยไทย" กีฬาที่เขารักอย่างแนบแน่นว่า

"ผมเป็นเด็กกำพร้าจากตอนเหนือของกรุงปารีสในฝรั่งเศส ต้องอาศัยอยู่กับคุณยาย แต่ก็ไม่ได้ใกล้ชิดอะไรมากมายนัก การมีชีวิตเติบโตจากครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบจากย่านที่เปรียบเหมือนแหล่งเสื่อมโทรม ทำให้ผมมีชีวิตที่ผิดทางต้องเข้าไปอยู่ในคุก แต่เหมือนโชคชะตาลิขิตที่นั่นแหละทำให้ผมได้เกิดใหม่และรู้จักกับมวยไทย"

"วันหนึ่งระหว่างรับโทษมีเพื่อนร่วมคุกนำภาพถ่ายการชกมวยไทยในประเทศไทยให้ดู มันทำให้ผมรู้สึกทึ่งมากเลยทีเดียว ผมตกหลุมรักมวยไทยตั้งแต่แรกเห็น พอเพื่อนเล่าเรื่องราวต่างๆนานาที่เกี่ยวข้องกับกีฬาชนิดนี้ให้ฟัง ผมเริ่มมีความรู้สึกอยากมาเห็นและเรียนรู้ด้วยตัวเองบ้าง"

จุดเริ่มต้นดังกล่าวนี่เองทำให้อดีตเด็กวัยรุ่นจอมเกเรวัย 18 ปี ตัดสินใจเก็บข้าวของจากบ้านเกิดเพื่อเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงลุ่มน้ำเจ้าพระยาในเมืองไทย โดยจุดหมายแรกที่หัวใจของ ดีด้า นำพามาก็คือ "สนามมวยลุมพินี" ซึ่งเป็นจุดหมายเดียวที่หนุ่มน้อยในวันนั้นรู้จักเกี่ยวกับเมืองไทยนั่นเอง

"มันตื่นเต้นมากที่ได้มาดูมวยไทยที่เวทีลุมพินี นั่นเป็นที่แรกที่ผมต้องการจะไปในเมืองไทย ผมได้ดูนักชกทั้งสองฝ่ายบนเวทีกำลังออกอาวุธทั้งหมัด เท้า เข่า ศอก เข้าใส่กันอย่างเมามัน โดยมีเสียงคนดูรอบสนามโห่ร้อง โอ้ว โอ้ว โอ้ว เป็นจังหวะ มันเรียกความรู้สึกคึกคักเร้าใจมาก ในบรรยากาศแบบนั้นมันทำให้เลือดผมสูบฉีดอย่างแรง เห็นแล้วก็ต้องร้องอุทานออกมาอย่างลืมตัวเลย กับการต่อสู้บนเวทีของจริงในวันนั้น"

ก้าวต่อไปที่ทำให้ ดีด้า นำพาตัวเองเข้าสู่ค่ายมวย "ส.เพลินจิต" ได้นั้น อดีตนักชกสายเลือดน้ำหอมกล่าวว่า

"ระหว่างที่ผมนั่งชมอยู่ในสนามมวยลุมพินี ผมไม่รู้จักใครเลย ผมมาคนเดียว และก็รู้ทันทีว่ามวยไทยนี่แหละคือสิ่งที่ต้องการ ตอนนั้นผมเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ในที่นั่งอยู่ใกล้เวทีคนหนึ่ง มีคนเข้าไปยกมือไหว้เขามากมาย ผมก็เลยคิดว่าต้องเข้าไปรู้จักคนๆ นี้ให้ได้เลยไปดักรอเขาตรงทางออก จนผมได้พบกับเขา หรือคุณทองดี ที่เป็นเจ้าของค่ายมวยไทย "ส.เพลินจิต" ผมได้เข้าไปฝากตัวกับเขาและก็ได้ไปกินอยู่หลับนอนและเริ่มต้นฝึกซ้อมมวยไทยอยู่ที่นั่นตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา"

ดีด้า ไดเฟต "มวยไทยคือศิลปะอันงดงาม" (1)

"สำหรับผมแล้ว มวยไทย คือศิลปะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุด ทำให้ไม่คิดจะหันไปสนใจการต่อสู้ในแบบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น คาราเต้, กังฟู หรือ เควัน อะไรก็แล้วแต่ เพราะมวยไทยเป็นสิ่งที่วิเศษที่สุดแล้ว และก็สามารถเปลี่ยนชีวิตผมได้ในทุกวันนี้"

แทบจะเป็นเรื่องปกติสำหรับการแข่งขันชกมวยไทยในสนามมวยทั้ง "ลุมพินี" และ "ราชดำเนิน" ที่เราคนไทยจะได้ประสบพบเห็นเหล่าบรรดากองทัพชาวต่างชาติที่ต่างเดินทางมาจากทั่วทุกสาระทิศเพื่อซึมซับบรรยากาศอันน่าตื่นตาตื่นใจของการประเคนหมัดเท้าเข่าศอกเข้าหากัน พร้อมชมการต่อสู้ที่เปรียบดั่งการร่ายรำของนักชกบนสังเวียนที่ห้ำหั่นกันเพียง 5 ยก ก็จบการแข่งขันของแต่ละคู่

ใครจะรู้บ้างว่าสำหรับชาวต่างชาติบางคนที่ยอมทุ่มตัว เทหัวใจให้กับ แม่ไม้มวยไทย อย่างไม่ลืมหูลืมตา จะสามารถขยับตัวเองจากเด็กกำพร้าสู่ตำแหน่งนักกีฬาซูเปอร์สตาร์เพียงชั่วข้ามปีด้วยศาสตร์การต่อสู้ของลูกหลานนายขนมต้มชนิดนี้

วันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2554

ISUZU หวัง THAI FIGHT นำ "มวยไทย" ผงาดโลก

อีซูซุชื่นชมความสำเร็จของการแข่งขันศึกมวยไทยนานาชาติ "THAI FIGHT" และแชมป์คนแรก "ฟาบิโอ พินคา" แชมป์มวยไทยจากประเทศฝรั่งเศสที่ร่วมสืบทอดมรดกการต่อสู้ "ศิลปะแม่ไม้มวยไทย" อันล้ำค่าของไทยได้อย่างยอดเยี่ยมคว้ารางวัลเงินสด 2 ล้านบาท และรถ "อีซูซุดีแมคซ์ เอ็กซ์-ซีรี่ส์" ราคาเกือบ 1 ล้านบาทไปครอง พร้อมมุ่งหวังให้กีฬามวยไทยไปผงาดบนเวทีโลก

หลังจากคัดเฟ้นจนเหลือนักมวยไทย 4 ชาติสุดท้ายจาก 16 ชาติ ศึกมวยไทยนานาชาติ "THAI FIGHT" ได้ฤกษ์ระเบิดศึกครั้งสุดท้ายชิงชัยบนสังเวียน "แชมป์" ประกาศความเป็นสุดยอดนักมวยไทยที่ร่วมสืบสานตำนานความยิ่งใหญ่ของ "ศิลปะแม่ไม้มวยไทย" อันเลื่องชื่อท่ามกลางเสียงเชียร์อันกึกก้องของบรรดาแฟนมวยทั่วฟ้าเมืองไทย ณ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา

โดยคู่ชิงชนะเลิศ ได้แก่ ฟาบิโอ พินคา (Fabio Pinca) จากฝรั่งเศส ที่ชนะ เพชรมั่นคง เพชรฟอร์กัส จากไทย ปะทะ ยูเซฟ บูร์กาเนม (Youssef Boughanem) จากเบลเยียม ที่ชนะ โชอิจิโร มิยาโคชิ (Shoichiro Miyakoshi) จากญี่ปุ่นเมื่อแกร่งปะทะแกร่งทำให้เวทีผืนผ้าใบของ THAI FIGHT เดือดพล่าน

แต่ด้วยลีลามวยไทยในสไตล์มวยหมัดหนักของฟาบิโอ พินคา ที่ลุยชกเก็บคะแนนคู่ต่อสู้ตลอด 3 ยก ทำให้คว้าแชมป์คนแรกของศึก THAI FIGHT ในที่สุด

  • รางวัลชนะเลิศ : ฟาบิโอ พินคา จากฝรั่งเศส รางวัลเงินสด 2,000,000 บาท และรถอีซูซุดีแมคซ์ เอ็กซ์-ซีรี่ส์ มูลค่า 1,000,000 บาท
  • รางวัลที่ 2 : ยูเซฟ บูร์กาเนม จากเบลเยียม รางวัลเงินสด 1,000,000 บาท
  • รางวัลที่ 3 : โชอิจิโร มิยาโคชิ จากญี่ปุ่น รางวัลเงินสด 300,000 บาท
  • รางวัลที่ 4 : เพชรมั่นคง เพชรฟอร์กัส จากไทย รางวัลเงินสด 200,000 บาท
มร.เอช. นาคางาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า การได้เห็นนักมวยต่างชาติชกมวยไทย และมีลีลาแม่ไม้มวยไทยไม่แพ้คนไทยเลยนั้น เป็นสิ่งที่คนไทยควรภาคภูมิใจ เพราะนั่นหมายถึงว่า เป็นโอกาสดีที่มวยไทยจะก้าวเข้าสู่ระดับโลก และเป็นที่รู้จักของนานาประเทศซึ่งอีซูซุจะดีใจมากถ้าหากวันหนึ่งมวยไทยได้รับการบรรจุเป็นหนึ่งในกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ และโอลิมปิก

อย่างไรก็ตามขอให้คนไทยติดตามการแข่งขันศึกอีซูซุคัพที่กำลังแข่งขันกันอยู่ทุกวันเสาร์ ณ สนามมวยสยาม (อ้อมน้อย) เพื่อลุ้นว่านักชกคนใดจะได้เป็นแชมป์ศึกอีซูซุคัพ ครั้งที่ 21 ซึ่งจะเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันศึกมวยไทยนานาชาติ THAI FIGHT ในปีหน้าต่อไป
อนึ่งการแข่งขัน "THAI FIGHT" มีวัตถุประสงค์การสนับสนุนการแข่งขัน คือ
  1. เพื่อเป็นการต่อยอดการแข่งขันศึกมวยไทย "อีซูซุคัพ" ซึ่งถือว่าเป็นศึกมวยไทยที่จัดขึ้นยาวนานที่สุดถึง 20 ปี และเป็นรายการมวยถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ที่ยาวนาน และมีเรตติ้งดีที่สุด
  2. เพื่อให้เป็นที่ประจักษ์ว่า "มวยไทย คือ มรดกทางวัฒนธรรมของไทย" ศิลปะป้องกันตัวประจำชาติไทยที่ควรค่าแก่การประกาศความเป็นเจ้าของ และให้ทั่วโลกยอมรับว่าการแข่งขันมวยไทยที่ดีที่สุดต้องที่เมืองไทยเท่านั้นเพราะมวยไทยถือเป็นสุดยอดศิลปะการต่อสู้ที่สวยงามและอันตรายที่สุดในโลกที่ผสมผสานศาสตร์ และศิลป์ได้อย่างลงตัว บ่งบอกถึงการต่อสู้ที่มีพิษสงรอบตัวของบรรพบุรุษไทยที่ได้นำศิลปะการใช้ส่วนต่างๆ ของร่างกายมาเป็นอาวุธที่ทั้งสวยงาม และอันตราย เพื่อต่อสู้ปกป้องรักษาความเป็นไทย นับเป็นมรดกอันทรงคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ และยั่งยืน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรักษา "มวยไทย" ไว้ให้อยู่คู่กับชาติไทยสืบต่อไป
  3. เพื่อยกระดับการแข่งขันมวยไทยสู่สากลโดยการผสมผสานมวยไทย และความบันเทิงเข้าด้วยกันเป็น Sport Entertainment ที่สร้างสรรค์โดยคนไทยอย่างสมบูรณ์แบบ
โดยกติกาการแข่งขัน คือ
  1. นักมวยไทยที่มีชื่อเสียงจาก 16 ประเทศ ได้แก่ เนเธอร์แลนด์, ฝรั่งเศส, อังกฤษ, รัสเซีย, ออสเตรเลีย, สเปน, เบลเยี่ยม, อิตาลี, เยอรมนี, โมร็อกโก, ตุรกี, อิหร่าน, จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี และประเทศไทย ร่วมแข่งขัน
  2. นักมวยสามารถใช้อาวุธมวยไทยได้ครบเครื่อง ทั้งหมัด เท้า เข่า ศอก ตามหลักกติกามวยไทย และชกเพียง 3 ยกเท่านั้น
  3. การแข่งขันแบ่งเป็นรอบคัดเลือก 2 ครั้ง และรอบชิงชนะเลิศ

- รอบคัดเลือก รอบแรก จาก 16 คน คัดเหลือ 8 คน

- รอบคัดเลือก รอบสอง จาก 8 คน คัดเหลือ 4 คน

- รอบรองชนะเลิศ และชิงชนะเลิศ จาก 4 คน คัดเหลือ 2 คนเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในวันเดียวกัน

โดยสถานที่จัดการแข่งขันรอบคัดเลือก ณ อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก รองรับผู้เข้าชมภายในอาคารได้ถึง 10,000 คน ส่วนรอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ ณ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา ซึ่งสามารถรองรับผู้เข้าชมภายในสนามจำนวน 40,000 คน และถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ในช่วงที่ผ่านมานั่นเอง...

วันจันทร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2554

รักษ์ มวยไทย ในวิถีโปรโมเตอร์ต่างชาติ (1)

รูปแบบการจัดเวทีชกมวยไทยในเมืองนอก คล้ายการจัดเอนเตอร์เทนแบบมวยปล้ำ

"ในฐานะที่ผมเป็นโปรโมเตอร์จัดการแข่งขันมวยไทยในต่างประเทศ ทำให้ต้องเดินทางมาเมืองไทยค่อนข้างบ่อย และทุกครั้งหากได้พบปะพูดคุยกับเยาวชนไทยผมมักจะถามพวกเขาว่า กีฬาอะไรที่พวกคุณสนใจ ส่วนใหญ่แล้วจะตอบว่า ฟุตบอล หรือ เทนนิส แต่เมื่อถามถึงมวยไทยพวกเขากลับแสดงท่าทีไม่สนใจ เรื่องดังกล่าวทำให้ผมวิตกมากเพราะอันที่จริงแล้ว มวยไทย คือศิลปะป้องกันตัวอันเป็นสัญลักษณ์ของคนไทย แต่กลับไม่มีใครอยากสานต่อ ในขณะเดียวกัน ศิลปะป้องกันตัวของเกาหลีและญี่ปุ่นอย่างเทควันโด และ ยูโด กลับได้รับความสนใจมากกว่า"

ความรู้สึกข้างต้นนี้คือสิ่งที่ มาเร็ค บารอน ยาเนเชค โปรโมเตอร์ จัดการแข่งขันมวยไทยในยุโรปมากว่า 10 ปี วิตกกังวลถึงสถานะมวยไทยนับวันจะเสื่อมความนิยมในประเทศต้นกำเนิดลงไปทุกที ในขณะที่ดัชนีความนิยมในต่างประเทศของศิลปะป้องกันตัวประเภทนี้กลับเป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสาธารณรัฐเช็ก ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ มาเร็ค มีผู้สนใจฝึกมวยไทยสูงถึง 2,000 คน

มาเร็ค ซึ่งเป็นอดีตบุตรชายเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเช็กประจำประเทศไทยที่ได้เรียนรู้มวยไทยอย่างลึกซึ้งตั้งแต่อายุ 10 ปี จากความหลงใหลในอดีตของเด็กชาย มาเร็ค ปัจจุบันผู้ชายสัญชาติเชก คือ กุญแจสำคัญในการเผยแพร่ศิลปะป้องกันตัวจากประเทศเล็กๆ ในถิ่นอุษาคเนย์ ให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

บรรทัดต่อจากนี้ คือ ความรู้สึกและเส้นทางของ มาเร็ค บารอน ยาเนเชค ผู้ที่ไม่ได้คิดว่ามวยไทยคือการต่อสู้ แต่มวยไทยคือศิลปะป้องกันตัวด้วยมือเปล่าขั้นสูงอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองไทย

บุกยิง เฮี้ยง มวยตู้ นักแทงมวยชื่อดัง

ตำรวจรับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตที่ ร.พ.ราษฎร์บูรณะ จึงไปสอบสวนพร้อมด้วย พ.ต.ต.กมล นุ่มหอม สวส.(สบ2) และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน พบศพ นายสุชาติ เรืองศรี อายุ 72 ปี อยู่บ้านเเลขที่ 45 หมู่ 8 ซ.ประชาอุทิศ 10 แขวงและเขตราษฎร์บูรณะ กทม. ถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบขนาด เข้าแก้มซ้ายทะลุขมับขวา เสียชีวิตเนื่องจากกระสุนตัดก้านสมอง โดยที่เกิดเหตุอยู่ภายในบ้านพักสุดซอยประชาอุทิศ 10 จึงเดินทางไปตรวจสอบเป็นบ้านไม้ 2 ชั้นที่บริเวณโต๊ะอาหารชั้นล่างพบคราบเลือดจำนวนมาก จากการสอบสวน นายสมพงษ์ สุจิตวัฒนสุข อายุ 39 ปี บุตรเขย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุพ่อตาเพิ่งจะกลับเข้าบ้านตอน 2 ทุ่ม ซึ่งลูกหลานกินข้าวกันแล้ว จึงแยกย้ายกันขึ้นห้อง มีผู้ตายนั่งกินข้าวอยู่คนเดียว กระทั่งมีคนร้ายเปิดประตูบุกเข้ามาชักปืนจ่อยิง ก่อนวิ่งหลบหนีไปขึ้นรถจักรยานยนต์ ที่มีคนร้ายอีกคนจอดรออยู่หลบหนีไป

นายสมพงษ์ ให้การต่อว่า "ก่อนหน้านั้นได้มีชายต้องสงสัย 2 คนอายุราว 30 ปีเศษ ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดแถวบ้าน ตนเห็นผิดสังเกต เนื่องจากมีบ้านตนหลังเดียว จึงออกไปถามชายดังกล่าวอ้างว่ามาหาเพื่อนและรีบขับรถออกไป ซึ่งจำได้ว่าคนขี่รูปร่างท้วม ขี่รถ จยย.ยี่ห้อคาวาซากิ จีทีโอ ทะเบียน 382 คนซ้อนรูปร่างผอม เสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงยีนส์ น่าจะเป็นคนร้ายที่มาดูลาดเลาก่อนลงมือ"
เบื้องต้นสอบสวนทราบว่า ผู้ตายเคยทำธุรกิจส่งมะพร้าวกะปิตามตลาด และเปิดรับแทงมวยตู้ฉายา เฮี้ยง มวยตู้ ย่านราษฎร์บูรณะ ตอนหลังวางมือให้คนอื่นทำ และออกเงินกู้ มีบ้านให้เช่าในย่านดังกล่าว มีตำรวจในพื้นที่รู้จักดี คนร้ายน่าจะเป็นมือปืนรับจ้าง สาเหตุน่าจะหักธุรกิจด้านมืด

มวยไทยศิลปะคู่บ้านสู่เวทีโลก (2)

สมัยอธุธยาตอนต้นนั้นยังชกกันด้วยมือเปล่า เท้าเปล่ากันอยู่ พระมหากษัตริย์อย่างพระเจ้าเสือหรือขุนหลวงสรศักดิ์เคยปลอมตัวออกจากวังเพื่อไปประลองมวยไทยกับชาวบ้าน เสถียรเล่าเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ของมวยไทย

สมัยกรุงธนบุรีมวยไทยเป็นหนึ่งในสรรพวิชาการต่อสู้ที่คนไทยต้องฝึกเพื่อทำสงครามกู้ชาติกับพม่า พระเจ้าตากสินมหาราช และพระยาพิชัยดาบหักมีส่วนอย่างมากในการเผยแพร่ศิลปะมวยไทยสมัยนั้น ในงานเทศกาลหรืองานบุญ พระยาพิชัยจะเป็นหนึ่งในนักมวยที่ขึ้นประลองฝีมือเสมอๆ สมัยนั้นจะใช้ด้ายดิบชุบแป้งให้แข็ง เส้นโตขนาดดินสอดำ แล้วนำมาพันตั้งแต่สันมือจนถึงข้อศอก และพันรัดเป็นปอยด้านหลังข้อมือเป็นรูปก้นหอย เรียกว่า คาดเชือก เมื่อด้ายแข็ง ที่พันมือสัมผัสกับผิวหนังจะทำให้เนื้อฉีกขาดได้ง่าย เรียกเลือดในการต่อสู้ได้ทุกครั้งไป ปัจจุบันศิลปะมวยไทยกลายเป็นอาชีพหนึ่งที่ประกอบกิจการค่ายมวยอย่างเป็นล่ำเป็นสัน มีการจัดการชกมวยอาชีพทุกวันที่เวทีราชดำเนินและเวทีลุมพินี นอกจากจะเป็นการรักษาศิลปะของชาติไม่ให้สูญหายแล้ว การแข่งขันมวยอาชีพยังเป็นแหล่งพนันที่ถูกกฎหมายขนาดใหญ่ ที่บรรดาเซียนมวย เข้าไปต่อรองราคาคู่มวย วันหนึ่งๆ มีเงินสะพัดในเวทีมวยจำนวนมหาศาล ชาวต่างชาติเขาเข้ามาเห็นการชกมวยไทย พวกเขาชอบ อยากเรียน แต่เขากลัว มวยไทยสมัครเล่นจึงเกิดขึ้นในลักษณะเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรม ไม่เน้นการใช้อาวุธที่รุนแรงหรือการเอาชนะ เน้นที่การใช้ศิลปะ

เสถียรเล่าถึงแนวคิด ในการจัดตั้งมวยไทยสมัครเล่น มวยไทยสมัครเล่นเกิดขึ้นในประเทศไทย เมื่อ 10 ปีมาแล้ว มีการจัดการแข่งขันชิงแชมป์โลก 3 ครั้งที่ประเทศไทย ครั้งแรกมีต่างประเทศ เข้าร่วม 17 ประเทศ ครั้งที่ 2 มี 40 ประเทศ และนี้เป็นครั้งล่าสุด จุดประสงค์หลักเพื่อเผยแพร่ศิลปะมวยไทยให้แพร่หลาย การต่อสู้จะทำให้อ่อนลงในการปะทะกัน แต่แม้ไม้ลูกไม้ของมวยไทยยังอยู่ครบ ฝึกให้คนที่เรียนมวยไทยเคร่งครัดในประเพณีการไหว้ครู มารยาทของนักกีฬา เดี๋ยวนี้คนต่างชาติเขาพัฒนาฝีมือมวยไทยไปมากทั้งแม่ไม้ทั้งลูกไม้ คนไทยตัวเล็กกว่า เรื่องฝีมือเรายังสู้เขาได้ แต่เราแรงไม่มีโดนเรียกตัวมากะทันหัน อุดม แก้วดี นักมวยสมัครเล่นรุ่นไม่เกิน 57 กิโลกรัม เล่าความรู้สึกหลังจากแพ้คะแนนนักมวยสมัครเล่นจากฟินแลนด์

นอกจากการจัดการแข่งขันชิงแชมป์มวยไทยสมัครเล่นในประเทศไทยแล้ว ทางสมาพันธ์มวยไทยนานาชาติกำลังรวบรวมข้อมูลต่างๆ นำเสนอต่อคณะกรรมการโอลิมปิกสากล เพื่อให้มวยไทยได้เข้าแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก ซึ่งในารแข่งขันโอลิมปิกที่ประเทศออสเตรเลียนี้ มวยไทยจะเป็นหนึ่งในกีฬาสาธิตด้วย วีสตังค์ กี์ เด็กหนุ่มชาวฟิลิปปินส์ เขาเป็นนักมวยไทยสมัครเล่นรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 67 กิโลกรัม หลังจากที่แพ้นักมวยไทยจากประเทศเกาหลีใต้ เขาบอกเล่าความรู้สึกที่มีต่อกีฬามวยไทยว่า ผมเพิ่มหัดมวยไทยได้แค่ 2 เดือนเท่านั้น และผมจะฝึกต่อไป มวยไทยแพร่หลายมากในฟิลิปปินส์ ครั้งหน้าผมจะกลับมาแข่งใหม่ ผมคิดว่า มวยไทย It's a Good Game