คลังบทความของบล็อก

วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2554

ดีด้า ไดเฟต "มวยไทยคือศิลปะอันงดงาม" (3)

เมื่อวันเวลาไม่เคยโกหกและยังคงทำหน้าที่อย่างเที่ยงตรง จนสภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวยให้กับการชกมวยอย่างทรหดโชกโชนดังเช่นอดีต ดีด้า จึงตัดสินใจหันหลังให้กับกลิ่นสาบสังเวียนเมื่อวัยขึ้นสู่เลข 3 จึงมาถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ทำให้หนุ่มสายเลือดเดียวกับนโปเลียนรายนี้เปลี่ยนไปยึดอาชีพทางการแสดงแทน ด้วยการนำชีวิตของนักชกบนเวทีมวยไทยมาตีแผ่บนแผ่นฟิล์มในชื่อว่า "โชคดี"

"มีแฟนๆ จำนวนมากที่รู้จักผมจากการชกมวยไทยจากการถ่ายทอดสดของสถานีโทรทัศน์ในฝรั่งเศส จากความโด่งดังในครั้งนั้นทำให้ผมเขียนหนังสือชีวประวัติของตัวเองขึ้นมา และมันก็ได้รับความสนใจจากผู้สร้างหนัง ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เกิดขึ้นมาได้ ที่สำคัญสามารถขายลิขสิทธิ์ได้มากถึง 125 ประเทศ นั่นทำให้ผมดีใจจนพูดไม่ออกเลยทีเดียว เพราะผมทำมันเองแทบจะทุกอย่าง ทั้งการเขียนบท อำนวยการสร้าง ออกแบบฉาก รวมไปถึงการแสดงเป็นตัวเอกของเรื่อง ผมก็รู้สึกภูมิใจกับมันมาก"

ดีด้า ยังได้เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างชีวิตบนแผ่นฟิล์ม กับการชกมวยไทยด้วยว่า

"การชกบนเวทีผมต้องต่อสู้กับคู่แข่ง มันก็เหมือนกับการอยู่ในธุรกิจภาพยนตร์ที่ผมก็ต้องแข่งขันกันกับคนอื่น เพียงแต่ว่ามันอาจจะเป็นเรื่องที่เบากว่า เพราะระหว่างที่เราอยู่ในโลกของธุรกิจบันเทิง อาจจะมีคนมาเสิร์ฟกาแฟระหว่างทำงาน แตกต่างจากการชกบนเวทีที่ไม่มีถ้วยกาแฟมาให้ผมนั่งจิบแน่"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น