คลังบทความของบล็อก

วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2554

ส่ง "มวยไทย" เข้า ครม. หวังปูทางสู่ "ระดับโลก

กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมชงเรื่องให้ ครม. รับรอง "กีฬามวยไทย" หวังสร้างความมั่นใจให้สมัชชาสหพันธ์กีฬานานาชาติ ที่กำลังจะรับรองกีฬามวยไทย พร้อมกับช่วยยกระดับให้เป็นสากลเหมือน "เทควันโด" ของเกาหลี
มวยไทย สนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมเสนอเรื่องต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อผลักดัน สภามวยไทยโลก ให้ได้รับการรับรองจากสมัชชาสหพันธ์กีฬานานาชาติ (จีเอไอเอสเอฟ) โดยหวังว่าจะเป็นบันไดก้าวแรก ที่จะผลักดันให้มีการบรรจุมวยไทยเข้าในการแข่งขันกีฬารายการต่างๆ อย่างเป็นทางการ อาทิ เอเชียนเกมส์ หรือกระทั่ง โอลิมปิกเกมส์

ทั้งนี้ "สภามวยไทยโลก (ดับเบิลยูเอ็มซี)" จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2538 โดยปัจจุบันมีสมาชิกเพิ่มขึ้นถึง 110 ประเทศ โดยทำหน้าที่ส่งเสริมเผยแพร่ด้านการฝึกสอน รวมทั้งกำหนดระเบียบควบคุมการแข่งขันในทุกประเทศ เพื่อให้เป็นไปตามกติกามาตรฐานที่ประกาศใช้โดยคณะกรรมการกีฬามวย ตามพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ.2542 นอกจากนี้ ยังเป็นองค์กรที่ดำเนินภารกิจร่วมกับ สหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ (ไอเอฟเอ็มเอ) ซึ่งเป็นองค์กรในระบบคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ที่ จีเอไอเอสเอฟ ให้การรับรองด้วย

ส่วนการที่ต้องเตรียมเสนอเรื่องเข้าสู่ ครม. ก็เนื่องจากในวันที่ 24 เมษายน 2548 นี้ "จีเอไอเอสเอฟ" มีกำหนดนำเรื่องกีฬามวยไทยเข้าสู่การพิจารณารับรองของที่ประชุมใหญ่ ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ดังนั้น การที่ไทยให้การรับรองด้วย จะยิ่งสร้างความมั่นใจให้กับสมัชชาของจีเอไอเอสเอฟว่า กีฬามวยไทยได้รับการส่งเสริม และสนับสนุนจากรัฐบาลไทยอย่างแท้จริง

สนธยา กล่าวว่า กีฬามวยไทยเป็นศิลปะการป้องกันตัวของไทยที่มีจุดเด่นเป็นเอกลักษณ์ จนสำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ ได้กำหนดให้เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ ประเภทศิลปวัฒนธรรมประจำชาติมาแล้ว แต่การจะให้กีฬามวยไทยแพร่หลายสู่การแข่งขันระดับสากลเทียบศักดิ์ศรีเท่ากับกีฬาประจำชาติอื่นๆ อย่างเช่น
  1. เทควันโด ของเกาหลี
  2. ยูโดและคาราเต้ ของญี่ปุ่น
  3. วูซู ของจีน
จำเป็นต้องได้รับการรับรองจากจีเอไอเอสเอฟเป็นด่านแรก จึงจะได้รับอนุมัติให้บรรจุในการแข่งขันรายการต่างๆ นอกจากนั้น ในปัจจุบันมีปัญหาเกิดขึ้นกับกีฬามวยไทยหลายอย่าง หลังจากที่ได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วโลก แต่ก็มีบางองค์กรที่จัดตั้งขึ้นโดยนำชื่อคนไทยหลายคนหลายระดับเข้าเป็นกรรมการโดยพลการ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์โดยรวมของการบริหารงาน ขณะที่การแข่งขันบางรายการของไทย ก็นำนักชกมวยไทยชาวต่างชาติที่ฝีมือไม่ได้มาตรฐานมาร่วมชก ซึ่งก็ถือเป็นการทำลายกีฬาชนิดนี้อีกทางหนึ่งด้วย ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีองค์กรกลางที่ได้รับการรับรอง เพื่อการทำงานอย่างเป็นระบบและมีเอกภาพขึ้น

ดันรัฐตั้งสถาบันศิลปะการต่อสู้ของชาติก่อน "มวยไทย" กลายพันธุ์ใน ตปท.

ผศ.ดร.ชาญชัย ยมดิษฐ์ ประธานสาขามวยไทยศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) หมู่บ้านจอมบึง เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนพร้อมด้วยคณาจารย์จากวิทยาลัยมวยไทยศึกษา ในโครงการความร่วมมือระหว่าง มรภ.หมู่บ้านจอมบึง กับสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตมหาสารคาม และนักศึกษาปริญญาโท สาขามวยไทยศึกษา รุ่นที่ 1 รวม 32 คน ได้เดินทางไปศึกษาดูงานในประเทศเกาหลีใต้ เนื่องในวิชาสัมมนามวยไทยเปรียบเทียบ โดยเลือกศึกษาเปรียบเทียบกับเทควันโดของประเทศเกาหลีใต้ที่สถาบันศิลปะประจำชาติเกาหลีใต้ และเยี่ยมสภามวยไทยสมัครเล่นโลกของเกาหลีใต้ ที่กรุงโซล

"การไปดูงานครั้งนี้ ได้รับแนวคิดในการพัฒนามวยไทยว่า ควรพัฒนามวยไทยให้เป็นหน่วยงานในกำกับของรัฐบาล โดยเฉพาะมวยไทยมีศักยภาพมากกว่าเทควันโด และพัฒนาจนเป็นกีฬาอาชีพ มีบ่อเกิดจากบรรพบุรุษโดยตรง และมีหลายมิติ ทั้งมิติของมวยไทยสมัครเล่น มวยไทยอาชีพ มวยไทยแนวอนุรักษ์และขัดเกลาสังคม และมวยไทยเพื่อออกกำลัง ขณะที่เทควันโดยังเป็นกีฬาสมัครเล่น จะต่างกันตรงที่รัฐบาลเกาหลีใต้ดำเนินการเองอย่างเป็นระบบ แต่ของไทยกระจัดกระจาย ขาดการพัฒนาอย่างมีทิศทาง รัฐบาลจึงควรเอาจริงเอาจัง โดยตั้งสถาบันศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวของชาติ จัดทำมาตรฐาน และสร้างศักยภาพในการใช้ศิลปะแขนงนี้ เพราะมวยไทยช่วยด้านการกล่อมเกลาทางสังคม การออกกำลังกาย การประกอบอาชีพ และกีฬาสมัครเล่นสำหรับนานาชาติ ทั้งยังเป็นทุนทางวัฒนธรรมเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันกับนานาชาติ ไม่เช่นนั้นมวยไทยจะกลายพันธุ์เป็นศิลปะของชาวต่างชาติ เช่น มวยเควัน คิ๊กบอกซิ่ง และอื่นๆ" ผศ.ดร.ชาญชัย กล่าว

เทรนด์ใหม่... มวยไทยขึ้นห้าง

กีฬามวยไทยเฟื่อง เปิดเวทีกลางสังคมไฮโซ ทรูฟิตเนสหวังจับกระแสเทรนด์ออกกำลังกายแบบป้องกันตัว เหมาะสำหรับผู้หญิงรุ่นใหม่ ราคาแพงแต่ใช้ประโยชน์ได้จริง นอกเหนือจากแอโรบิก โยคะ พิลาทิส ทรูฟิตเนสนำเสนอเวทีมวยไทยสู่สถานออกกำลังกายเป็นแห่งแรกของประเทศไทย

นายตระกูลชัย แก้วอ่อน "ครูแอ้" หัวหน้าครูฝึกกีฬามวยไทยแห่งทรูฟิตเนส กล่าวว่า กีฬามวยไทยเป็นศิลปะการป้องกันตัวที่มีเสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติไทย มวยไทยเป็นมวยโบราณที่สมัยก่อนจะใช้ในการทำสงคราม มีชั้นเชิง มีลูกไม้ลีลาท่วงท่าที่สวยงาม แตกต่าง

จากมวยสากล ดังนั้นคอร์สเวทีมวยไทยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการให้คนไทยได้รู้จักกับเทรนด์การออกกำลังกายแปลกใหม่ที่สนุกสนานและไม่จำเจ อีกอย่างหนึ่งก็เพื่อจะได้นำเทคนิคที่ได้เรียนรู้ไปใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ในชีวิตประจำวัน

ครูแอ้บอกว่า คอร์สเวทีมวยไทยนี้เปิดมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ถือว่าการตอบรับค่อนข้างดี ตอนนี้มีลูกค้าที่เป็นผู้ชาย 60% ผู้หญิง 40% เกือบทั้งหมดจะเป็นคนที่ไม่มีพื้นฐานของการชกมวยมาก่อน ซึ่งครูต้องปูพื้นฐานเริ่มต้นเหมือนกันใหม่ทั้งหมด โดยเริ่มจากระดับที่ 1 Beginer เป็นการสอนทักษะการเคลื่อนไหว ท่วงท่า ลีลา การตั้งหมัดชกและรับ ระดับ 2 Intermediat การเข้าคู่ จะเป็นการรับและส่งหมัดระหว่างคู่ต่อสู้ ระดับ 3 Advance สอนวิธีการปีนป่าย เข้าชาร์จคู่ต่อสู้และเทคนิคการทุ่ม ทับ จับ หัก

"สำหรับกีฬามวยไทยของที่นี่จะเป็นการสอนแบบคาร์ดิโอ คือ การออกกำลังกายแบบต่อเนื่องไม่หยุดพัก จะช่วยให้ผู้เล่นมีความสนุกสนานและเพลิดเพลิน อีกทั้งยังได้รูปร่างที่ฟิตและเฟิร์มเร็วกว่าการออกกำลังกายประเภทอื่นๆ" ครูแอ้กล่าว

ครูแอ้กล่าวอีกว่า มวยไทยเป็นกีฬาที่สามารถเล่นได้ทุกเพศทุกวัย แต่มีข้อจำกัดสำหรับคนที่เป็นโรคหัวใจและโรคร้ายแรงอื่นๆ ดังนั้นเราจึงมีผู้เชี่ยวชาญที่คอยตรวจเช็กสภาพร่างกายก่อนจะเข้ามาลงเล่นจริงก่อน ในคอร์สเรียนหนึ่งหนึ่งจะมีนักเรียน 10 คน ต่อ 1 ห้อง ใช้ระยะเวลาในการฝึก 1 ชั่วโมง ขณะนี้มีครูฝึกอยู่ทั้งหมด 4 คนด้วยกัน ทรูฟิตเนสจะเปิดสอนคอร์สเวทีมวยไทยทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่ 5 โมงเย็นเป็นต้นไป หรือถ้าต้องการให้ฝึกแบบตัวต่อตัว ก็สามารถระบุเวลามาได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ด้านไฮโซสาว นางกินรี ดาร์ริงตัน ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท หนึ่งในสาวรักสุขภาพที่ชื่นชอบกีฬามวยไทยโดยเฉพาะมวยไชยา กล่าวว่า "เราถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วว่ากีฬามวยไทยเป็นกีฬาที่ต้องเลือดตกยางออก และเล่นได้เฉพาะผู้ชายเท่านั้น แต่พอได้มาสัมผัสจริงๆ จึงรู้ว่ามวยไทยเป็นกีฬาที่เหมาะสำหรับผู้หญิงเป็นอย่างมาก เพราะมันมีลักษณะเด่นที่เป็นการออกกำลังกายแบบป้องกันตัว เราสามารถนำไปใช้กับชีวิตประจำวันได้ โดยเฉพาะสังคมเมืองที่น่ากลัวแบบนี้ ผู้หญิงกลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ ยิ่งต้องระวังตัวเองให้มากๆ มวยไทยเป็นกีฬาที่ช่วยให้หุ่นฟิตและเฟิร์มในทุกๆ ส่วนของร่างกาย อย่างดาราฮอลลีวู้ดหลายคนเขาก็หันมานิยมมวยไทยกันมาก อีกอย่างหนึ่งกีฬามวยเป็นกีฬาที่สนุกกว่าการออกกำลังกายแบบอื่น ทำให้สมองของเราเปิดโล่งและมีสมาธิกับการทำงานมากขึ้น"

คอร์สเวทีมวยไทยของทรูฟิตเนส เปิดให้บริการมาตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีอยู่สาขาเดียวที่ห้างสรรพสินค้าเซน ชั้น 9-10 สำหรับการสอนแบบตัวต่อตัวราคาจะอยู่ที่ชั่วโมงละประมาณ 1,250 บาทเลยทีเดียว

กทม.ดันมวยไทยเป็นหลักสูตรสอนเด็กกรุง

กทม.ร่วมสภามวยไทยโลกและสมาคมมวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการส่งเสริมศิลปมวยไทย ผลักดันเป็นหลักสูตรสอนเด็ก กทม.

วันนี้ (17 ก.ย.) ณ โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ ถ.รัชดาภิเษก : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วย พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ประธานสภามวยไทยโลก และ ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ นายกสมาคมมวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อร่วมกันพัฒนาและเผยแพร่ศิลปะมวยไทย รวมทั้งการนำศิลปะมวยไทยไปใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวางและมีประสิทธิภาพ เช่น มวยไทยกับการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ มวยไทยเพื่อการศึกษา และมวยไทยเพื่อการป้องกันตัว ทั้งนี้เพื่อเป็นการอนุรักษ์และสืบทอด “มวยไทย” ซึ่งถือเป็นศิลปวัฒนธรรมภูมิปัญญาของชาติไทยให้คงอยู่ตลอดไปอย่างยั่งยืน อีกทั้งเพื่อให้เด็ก เยาวชนและประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครได้ใช้มวยไทยเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต และได้มีส่วนร่วมในการสืบทอดและอนุรักษ์ “ศิลปะมวยไทย” ให้เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติแบบยั่งยืน เผยแพร่ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายทุกรูปแบบในระดับชาติ จนพัฒนาไปสู่ระดับสากลตามแบบอย่างวิถีไทย

นอกจากนั้น ทั้งสามหน่วยงานยังร่วมกันสนับสนุนและพัฒนาบุคลากรทางการกีฬา และผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องด้านการกีฬาให้มีความรู้ ความสามารถเกี่ยวกับศิลปะมวยไทยมากยิ่งขึ้น โดยจัดทำหลักสูตรและจัดวิทยากรในการถ่ายทอดความรู้ตามหลักสูตรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ “ศิลปะมวยไทย” รวมทั้งร่วมกันผลักดันให้หลักสูตร “ศิลปะมวยไทย” เข้าสู่ระบบการศึกษาในโรงเรียนสังกัด กทม.และศูนย์การเรียนรู้ (ศูนย์กีฬา, ศูนย์เยาวชน, ลานกีฬา) ในสังกัด กทม.อย่างทั่วถึงรวมถึงร่วมกันจัดหาและปรับปรุงสถานที่ พัฒนาและประยุกต์เครื่องแต่งกายมวยไทยให้มีความเหมาะสมกับการเรียนการสอน การแสดง การฝึกซ้อม และการแข่งขันเกี่ยวกับศิลปะมวยไทยด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2554

“Fairtex” ค่ายมวยใจกลาง RCA ปลุกกระแสมวยไทย...ใครก็ฝึกได้

มวยไทย กีฬาที่คนไทยมักจะมองว่า ‘เชย’ ไม่ทันสมัย และเป็นกีฬาของคนชนบท แต่วันนี้ ทุกอย่างได้เปลี่ยนไป เมื่อต่างชาติให้ความสนใจหันมาเล่นกีฬาประเภทนี้ กันมาก และเกิดสนามฝึกสอนมวยไทยที่ทันสมัย อย่าง Fairtex Muaythai ของตระกูล “บุษราคัมวงษ์” หลายแห่งในต่างประเทศ

และล่าสุด หนุ่มฮอต สาวฮอต ย่านอาร์ซีเอ ก็หันมาให้ความสนใจมวยไทย เพราะ “เปรม บุษราคัมวงษ์” ทายาทค่ายมวย Fairtex ได้ใช้งบหลายล้านบาท เนรมิตพื้นที่ สปอร์ตคลับ ข้างสนามไดร์กอล์ฟ ย่านอาร์ ซี เอ คาดหวังกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ และเด็กรุ่นใหม่หันมาให้ความสนใจมวยไทย

เปรม บุษราคัมวงษ์ เจ้าของ Fairtex Muaythai RCA กล่าวว่า การตัดสินใจเปิด แฟร์เท็กซ์ ที่อาร์ ซี เอ ส่วนหนึ่ง ต้องการให้เป็นสถานที่ออกกำลังกายรูปแบบใหม่ ที่ฉีกรูปแบบของค่ายมวยไทยแบบเดิม ๆ ที่ทุกคนมองว่าเป็นเรื่องเข้าถึงยาก เฉพาะกลุ่ม และน่ากลัว ให้เป็นเรื่องง่าย โดยการยกการออกกำลังกายด้วยมวยไทย มาไว้ที่ใจกลางเมือง อย่าง อาร์ ซี เอ ให้คนเมืองหลวงสามารถมาออกกำลังกายแบบมวยไทย ง่ายๆ หลังเลิกงาน หรือ เลิกเรียน

(คลิกเพื่อดูภาพขนาดใหญ่)

สำหรับแฟร์เท็กซ์ มวยไทย อาร์ ซี เอ ได้ประยุกต์ศาสตร์และศิลป์ของมวยไทยให้เป็นมวยไทยแนวใหม่ที่ทันสมัย เหมาะกับยุคสมัยในปัจจุบันมากขึ้น ด้วยวัตถุประสงค์ อยากให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ว่ามวยไทย ไม่ใช่การต่อสู้ที่รุนแรงอีกต่อไป แต่เป็นการออกกำลังกายโดยใช้หลักของศิลปะการป้องกันตัว และยังเป็นกีฬาที่เหมาะสมสำหรับคนที่ต้องการเผาผลาญไขมัน ได้เป็นอย่างดี ซึ่งในครั้งนี้ ไม่ได้เจาะกลุ่มไปที่ผู้ชายเท่านั้น แต่ยังมุ่งไปที่กลุ่มของเด็ก และผู้หญิง ที่สามารถเล่นมวยไทยได้อย่างสะดวกสบาย ตามสโลแกนที่ว่า “แฟร์เท็กซ์ มวยไทย ใครๆ ก็ฝึกได้”

ทั้งนี้ การเปิดที่อาร์ ซี เอ ต้องการจะสื่อให้เห็นว่ามวยไทย ไม่ใช่กีฬาที่เชย ที่เล่นกันเฉพาะในชนบท เท่านั้น แต่ใจกลางเมืองหลวง ย่านบันเทิงที่ทันสมัย มีสนามฝึกซ้อมมวยไทย เช่นกัน ประกอบกับต้องการยกระดับมวยไทยให้ดูทันสมัยในสายตาคนไทย เหมือนกีฬาเทคควันโด หรือ กีฬาอื่นๆ ที่ได้รับอิทธิพลมาจากต่างประเทศ ซึ่งแฟร์เท็กซ์ อาร์ ซี เอ นี้ ต่างจากที่พัทยา เพราะตรงนี้ ต้องการจะทำให้เป็นสถานที่ออกกำลังกาย ไม่ได้มุ่งหวังการฝึกซ้อมเพื่อการแข่งขัน ดังนั้น การเรียนมวยไทยที่นี่ ต่างจากที่พัทยา ด้วยเช่นกัน

ส่วนหลักสูตรในการสอน เริ่มจากคนที่ไม่เคยฝึกมวยไทยมาก่อน จะเรียนขั้นพื้นฐาน ไปจนถึงระดับบุคคลที่ไม่เคยมีประสบการณ์ เข้าแข่งขัน แต่ต้องการฝึกเทคนิคเพิ่มเติม โดยแบ่งคลาสออกเป็นคลาสต่างๆ


Beginner 1 และ 2 เป็นคลาสเริ่มต้นของผู้ที่ไม่มีพื้นฐาน


Intermediate เป็นอีกระดับต่อจากพื้นฐาน


Advance เป็นระดับที่ต้องการฝึกซ้อมเทคนิค เพื่อเข้าแข่งขัน


Private เป็นการฝึกซ้อมแบบตัวต่อตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าคอร์สลดน้ำหนัก โดยมีครูฝึกดูแลอย่างใกล้ชิด
(คลิกเพื่อดูภาพขนาดใหญ่)

ในส่วนอัตราค่าเรียน 1 เดือน 4,500 บาท สามารถมาเรียนได้ทุกวัน โดยจะมีเทรนเนอร์ คอยดูแลจำนวน 4 คน รวมตัว คุณเปรม ที่เป็นเทรนด์เนอร์สอนด้วย ส่วนพื้นที่รองรับผู้เรียนต่อคลาสจำนวน 20 คน โดยตั้งเป้าผู้เรียนไว้เดือนละ 20 คน เฉลี่ยอายุผู้เรียนอยู่ที่ประมาณ 12 ปี ไปจนถึง 30 กว่าปี ส่วนการขยายสาขาเพิ่มในกรุงเทพฯ ตอนนี้ยังไม่ได้คิด เพราะต้องการทำตรงจุดนี้ให้ดีก่อน ถ้ามีผู้สนใจเรียนมากขึ้น อาจจะมีการขยายสาขาเพิ่ม ส่วนการขยายสาขาในต่างประเทศ ปัจจุบันมีสาขามากกว่า 10 สาขา ใน ประเทศสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ มีแผนจะขยายสาขาเพิ่มอีกในหลายประเทศ ในประเทศไทย มี 3 สาขา คือ บางพลี พัทยา และอาร์ ซี เอ

“ผมอยากปลุกกระแสการออกกำลังกายในเมืองไทย ให้คนไทยหันมาสนใจและให้ความสำคัญกับศิลปะการป้องกันตัวอย่างมวยไทยให้มากขึ้น ในปัจจุบันลูกค้าของแฟร์เท็กซ์ มวยไทย จะเป็นชาวต่างชาติ มากกว่า 70% โดยเรามองเห็นว่า “มวยไทย” เป็นศิลปะของคนไทยก็อยากให้คนไทยได้รู้จักได้เรียนรู้ และเห็นประโยชน์ของมวยไทย อย่างจริงจัง แทนที่เด็กไทยจะไปฝึกศิลปะการป้องกันตัวของชาติอื่นๆ น่าจะหันมาส่งเสริมให้เด็กไทยได้ฝึกมวยไทยมากขึ้น ทั้งนี้ เพื่อร่วมกันอนุรักษ์ศิลปะมวยไทยให้คงอยู่คู่คนไทยตลอดไป”

นอกจาก การเปิดสอนมวยไทย แฟร์เท็กซ์ ที่อาร์ ซี เอ ยังเปิดคลาสออกกำลังกาย โยคะ สปินนิ่ง บอดี้คอมแบด และ คลาสแอร์โรบิคอื่นๆ เพราะเชื่อว่า จะได้กลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้หญิงมากขึ้น ปัจจุบันผู้หญิงไทยหันมาให้ความสนใจเรียนมวยไทย เพิ่มมากขึ้น เพราะนอกจากจะได้ออกกำลังกาย เพื่อให้รูปร่างดีแล้ว ยังได้ศิลปะการป้องกันตัวกลับไปด้วย ซึ่งผู้หญิงต่างชาติเอง ค่อนข้าง เห็นถึงความสำคัญตรงนี้ และมาเรียนมวยไทยกันเป็นจำนวนมาก

แฟร์เท็กซ์ มวยไทย เป็นหนึ่งในธุรกิจ แฟร์เท็กซ์ กรุ๊ป หลังจากประสบความสำเร็จในธุรกิจเสื้อผ้า และอุปกรณ์กีฬา นายบรรจง บุษราคัมวงษ์ ประธานแฟร์เท็กซ์ กรุ๊ป เริ่มเข้ามามีบทบาทในวงการมวยไทย โดยได้ก่อตั้งค่ายมวยไทยแฟร์เท็กซ์ขึ้นมาจากความชอบส่วนตัว ประกอบกับให้ค่ายมวยไทยเป็นมากกว่า สถานที่ฝึกซ้อม โดยเปลี่ยนค่ายมวยธรรมดากลายเป็นรีสอร์ทหรู บนพื้นที่ 9 ไร่ที่ พัทยา เพื่อรองรับชาวต่างชาติที่สนใจมาเรียนมวยไทยอย่างแท้จริง

วันพุธที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2554

“มวยไทยแอโรบิก” หมัด ศอก เข่า เตะ เพื่อคนรักสุขภาพ

กระแสการรักษาสุขภาพยังคงแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะท่ามกลางการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หลายคนเลือกจะออกกำลังกายแบบแอโรบิก ที่มีอยู่หลายจุดทั่วกรุงเทพและในแต่ละจังหวัด รูปแบบไม่ต่างกันมากเท่าใด คือมีคนนำเต้น มีเพลงมันส์ๆ จากนั้นก็ใส่กันโลด เต้นทันบ้างไม่ทันบ้าง แต่ก็ได้ตามเป้าหมายหลักคือได้ขยับแข้งขาเรียกเหงื่อกันคนละ 30-45 นาที ร่างกายแข็งแรงสุดๆ

แต่ถ้าจะสังเกตสักนิดจะพบว่าทุกลานแอโรบิกมักเต็มไปด้วยคุณสาวๆ ทั้งสาวแท้ สาวเทียม พาลเอาคุณผู้ชายทั้งหนุ่มน้อยและหนุ่มเหลือน้อยออกอาการเขิน ไม่ค่อยกล้าออกไปร่วมวง บางคนกังวลถึงขนาดกลัวคนอื่นมองว่า “ไม่แมน” กลายเป็น “เก้ง-กวาง” ไปโน่นเลย ทำให้หนุ่มๆ จำนวนมากพลาดโอกาสออกเหงื่อเพื่อสุขภาพแนวนี้ไปอย่างน่าเสียดาย

หากในขณะนี้ปัญหานี้จะถูกกำจัดไป เมื่อมีการคิดการออกกำลังกายที่ชื่อว่า “มวยไทยแอโรบิก” ขึ้นมา

นพ.อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ ผอ.กองออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยที่มาของการออกกำลังกายแนวใหม่ อย่าง “มวยไทยแอโรบิก” ว่า เป็นเพราะสังเกตว่าที่ลานแอโรบิกที่มีอยู่ทั่วทุกชุมชนนั้น ผู้ที่ใช้บริการส่วนใหญ่จะเป็นสุภาพสตรี ทั้งที่การออกกำลังกายแบบแอโรบิกเป็นรูปแบบการออกกำลังกายที่ดีมาก จึงอยากคิดวิธีการออกกำลังกายแนวนี้ที่ทุกเพศทุกวัยสามารถทำได้ โดยนำกีฬาที่ห้าวหาญบึกบึนแข็งแกร่งตามสไตล์การต่อสู้เก่าแก่ของบ้านเราอย่าง “มวยไทย” มาผสมผสานกับรูปแบบการออกกำลังกายต่อเนื่องอย่างแอโรบิกเข้าไว้ด้วยกัน

“แอโรบิกเป็นการออกกำลังกายระดับกลาง เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย แต่เสียดายตรงที่สังเกตดูหลายหนแล้วจะไม่ค่อยมีผู้ชายเล่น ก็เลยอยากทำแอโรบิกที่ผู้ชายรวมถึงทุกเพศทุกวัย ทั้งเด็กรวมไปถึงผู้สูงอายุก็เล่นได้ เราได้รับความร่วมมือจากสถาบันวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งวิจัยและให้ข้อมูลแก่เราว่ารูปแบบท่ามวยไทยหากทำต่อเนื่องแล้วจะคล้ายกับการออกกำลังกายแบบแอโรบิก และท่ามวยไทยที่มีมากมายนั้นสามารถนำมาปรับใช้ออกกำลังได้แทบทุกส่วนของร่างกาย แถมสามารถประยุกต์บางท่าที่ไม่หนักจนเกินไปให้เหมาะแก่ผู้สูงอายุได้อีกด้วย”

“ส่วนเรื่องของการออกแบบท่านั้นเราได้รับความร่วมมือจากอาศรมศิลป์ ซึ่งเป็นสถาบันที่ทำด้านอนุรักษ์ภูมิปัญญาไทยด้านศิลปะป้องกันตัวและการต่อสู้โดยเฉพาะ โดยได้เลือกท่ามวยไทยแท้ๆ และนำแต่ละท่าที่เหมาะสมมาร้อยให้ต่อเนื่องให้เป็นรูปแบบการออกกำลังกาย”

หมออรรถพลให้ภาพต่อไปอีกว่า ท่าต่างๆ ที่นำมาจัดทำเป็นมวยไทยแอโรบิกนั้น มีครบทั้งหมัด ศอก เข่า เตะ ในหมวดหมัดก็จะมีหมัดตรง หมัดเสย หมัดงัด เข่าก็จะมีเข่าตรง ท่าเตะก็จะมีเตะตรง เตะเฉียง เตะเสย เตะตัด ท่าศอกจะมีศอกตรง ศอกเสย ศอกเฉียง และศอกกลับ รวมถึงมีท่าพิเศษต่างๆ ตามรูปแบบแม่ไม้มวยไทย เช่น จระเข้ฟาดหาง แต่หากกลุ่มเป้าหมายที่มาออกกำลังกายเป็นผู้สูงอายุ ก็จะเน้นการนำออกกำลังกายเป็นท่าหมวดหมัดและศอก จะเว้นหมวดที่ใช้เท้าทั้งเข่าและเตะ รวมถึงท่าพิเศษจำพวกแม่ไม้มวยไทยอื่นๆ เพื่อความปลอดภัยของผู้ออกกำลังกายสูงอายุด้วย


ผอ.กองออกกำลังกายฯ เล่าถึงความคืบหน้าล่าสุดของโปรเจ็กต์นี้ต่อไปอีกว่า เมื่อสิ้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา คณะทำงานชุดเผยแพร่การออกกำลังกายแบบมวยไทยแอโรบิกก็ได้ลงพื้นที่จังหวัดราชบุรีเพื่อจัดกิจกรรมแนะนำมวยไทยแอโรบิกที่สนามกีฬาจังหวัด มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 3,000 คน ซึ่งถือว่าประชาชนตอบรับดีมากโดยเฉพาะเด็กผู้ชายและวัยรุ่นชายที่ดูเหมือนจะชอบการออกกำลังกายแนวแมนๆ อย่างมวยไทยแอโรบิกเป็นพิเศษ

“ที่ไปเริ่มที่แรกที่ราชบุรี เพราะ อ.วิชิต เชื้อเชิญ ซึ่งเป็นอาจารย์จากอาศรมศิลป์ท่านเป็นคนที่นี่ และมีลูกศิษย์ลูกหาที่สนใจมาศึกษาเรื่องมวยไทยและศิลปะป้องกันตัวจากท่านเยอะ วันที่จัดงานมีกิจกรรมเกี่ยวกับมวยไทยแอโรบิกมากมาย ทั้งนำเต้นพร้อมกันและการจัดการแข่งขัน โดยเราแบ่งประเภทผู้เข้าแข็งเป็นประเภทเด็กนักเรียนและประชนชนทั่วไป ซึ่งก็มีผู้สนใจมาสมัครแข่งกันหลายสิบทีม”

ถึงตรงนี้ผู้อ่านหลายคนคงจะเริ่มสนใจการออกกำลังกายรูปแบบทะมัดทะแมงนี้แล้ว แต่อาจจะยังกังขาเรื่องผลที่จะได้รับจากมวยไทยแอโรบิกว่าเป็นอย่างไร ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงได้อย่างไรบ้าง

นพ.อรรถพลก็ได้อธิบายโดยอ้างอิงผลการศึกษาของสำนักวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายใต้การสนับสนุนของเครือข่ายวิจัยสุขภาพ มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ว่า หากออกกำลังกายด้วยรูปแบบมวยไทยสัปดาห์ละ 3 วันๆ ละประมาณ 30 – 40 นาที ช่วยให้การทำงานของหัวใจ ปอด ดีขึ้น ระบบการไหลเวียนเลือดในร่างกายดีขึ้น การออกกำลังกายแบบมวยไทยนี้ เหมาะกับคนทุกเพศ ทุกวัย

“มวยไทยแอโรบิกเป็นการทำท่าแบบต่อเนื่อง ถือเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกแบบหนึ่ง ซึ่งจะสามารถสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกายได้ ที่สำคัญก็คือต้องออกกำลังเป็นประจำสม่ำเสมอ ทำแค่ 15-30 นาทีก็ได้ครับ แต่อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 หน แต่ถ้าทำได้ทุกวันยิ่งดี”

หมออรรถพลยังได้บอกถึงก้าวต่อไปของโครงการดีๆ แบบนี้ว่า ในปีหน้าหากของบประมาณได้ จะเดินสายจัดกิจกรรมเผยแพร่แนวทางการออกกำลังกายมวยไทยแอโรบิกให้ได้ทุกภาคของประเทศ อย่างน้อยภาคละ 1 ครั้ง เพื่อให้ประชาชนทุกภาคได้รู้จักและเข้าถึงเพื่อสามารถทำไปใช้ประโยชน์ต่อสุขภาพได้

ามวยไฟเขียว ชิงแชมป์มวยไทย ครั้งแรกของโลก

มวยไทยโกอินเตอร์ หลังสภามวยโลกให้การรับรองพร้อมได้ฤกษ์จัด มวยไทยชิงแชมป์โลก เป็นครั้งแรกในโลก 2 รุ่นซ้อน ในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ ที่ออสเตรเลีย โดย ยอดแสนไกร แฟร์เท็กซ์ แชมป์มวยไทย รุ่นเวลเตอร์เวท วิกลุมพินี จะข้ามรุ่นชิงแชมป์ว่าง รุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวทกับ จอห์นเวย์น พาร์ นักชกที่กำลังฮอตสุดๆ ของเจ้าถิ่น ขณะที่รุ่นครุยเซอร์เวทนักชกจิงโจ้จะปะทะมวยยุ่น ด้าน พล.ต.อ.โกวิท ภักดีภูมิ มั่นใจอนาคตมวยไทยจะกระจายไปทุกมุมโลกแน่

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศในประเทศไทย อาคารมณียา ถนนเพลินจิต พล.ต.อ.โกวิท ภักดีภูมิ รองประธานสภามวยโลก ในฐานะประธานสภามวยโลก มวยไทย เป็นประธานแถลงข่าวการจัดชิงแชมป์ว่างมวยไทย ของ สภามวยโลก มวยไทย ที่โกลด์โคสต์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ในวันที่ 10 ธันวาคมนี้

ประธานสภามวยโลก มวยไทย กล่าวถึงการจัดในครั้งนี้ว่า ถือเป็นครั้งแรกที่ โฮเซ่ สุไลมาน ประธานสภามวยโลก (ดับเบิลยูบีซี) ได้อนุมัติให้มีการจัดชิงแชมป์โลกมวยไทยขึ้น โดยที่สภามวยโลกให้การรับรองอย่างเป็นทางการ รวม 2 รุ่น คือ รุ่นครุยเซอร์เวท เป็นการพบกันระหว่าง นาธาน คอร์เบตต์ แชมป์มวยไทยจากแดนจิงโจ้ กับ แม็กนัม ซาไก แชมป์จากประเทศญี่ปุ่น และคู่ชิงแชมป์ว่างรุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวท ระหว่าง จอห์นเวย์น พาร์ นักมวยไทยที่โด่งดังที่สุดในออสเตรเลีย กับ ยอดแสนไกร แฟร์เท็กซ์ เจ้าของแชมป์รุ่นเวลเตอร์เวท เวทีมวยลุมพินี

"ที่ผ่านมาสภามวยโลก มวยไทย ได้มีการจัดการแข่งขันขึ้นและมีการชิงแชมป์หลายครั้ง แต่เป็นการชิงแชมป์ระดับภูมิภาค หรือแชมป์แต่ละประเทศเท่านั้น แต่ในการจัดที่ประเทศออสเตรเลียครั้งนี้ ถือว่าเป็นครั้งแรกของโลกที่สภามวยโลกให้การรับรองการชิงแชมป์มวยไทยอาชีพ โดยจะใช้กฎกติกามวยไทยตามที่การกีฬาแห่งประเทศไทยกำหนดทั้งหมด"

พล.ต.อ.โกวิท กล่าวอีกว่า จากการประชุมใหญ่สภามวยโลก ที่ประเทศสเปน เมื่อเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา สภามวยโลก ได้มีการเปิดตัว สภามวยโลก มวยไทย อย่างเป็นทางการ และบรรดาชาติสมาชิกของสภามวยโลกต่างให้การยอมรับเป็นอย่างดี ซึ่งทำให้เรามีความมั่นใจว่าในอนาคตมวยไทยจะได้รับการยอมรับจัดแข่งขันไปทั่วทุกมุมโลก เนื่องจากมีสถาบันหลักให้การรับรองแล้ว และน่าจะทำให้นักมวยไทยหลายคนมีโอกาสก้าวสู่ระดับนานาชาติต่อไป

วันอังคารที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2554

"เชษฐา" มั่นใจดันมวยไทยเข้าโอลิมปิก 2016

“บิ๊กเหวียง” พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ประธานสภามวยไทยโลก (WMC) เปิดเผยเมื่อ 23 พ.ค. ว่าวางแผนที่จะผลักดันกีฬามวยไทยเข้าสู่กีฬาโอลิมปิกให้ได้ในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2016 โดยขณะนี้ นายไฮน์ เวอร์บรูเกน ประธานสมัชชาสหพันธ์กีฬานานาชาติ (GAFIS) ได้รับรองมวยไทยเข้าสู่ขบวนการคัดเลือกกีฬาโอลิมปิก หลังจากให้การรับรองสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ (IFMA) เข้าเป็นสมาชิก ซึ่งทั้ง WMC และ IFMA รวมทั้ง ดร.ณัฐ อินทรปาณ สมาชิกคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) จะจับมือกันผลักดันกีฬามวยไทยเข้าสู่กีฬาโอลิมปิกให้ได้ต่อไป

พล.อ.เชษฐา กล่าวอีกว่าการผลักดันชนิดกีฬาเข้าสู่มหกรรมกีฬาโอลิมปิกนับเป็นเรื่องยาก เพราะ IOC จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเพียง 28 ชนิดกีฬา แต่ในขณะนี้มวยไทยมีความหวังเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากในการประชุมของของ IOC ที่จีน เมื่อปีที่ผ่านมา IOC จะเพิ่มชนิดกีฬาในโอลิมปิกอีก 3 ชนิด โดยพิจารณาจากความแพร่หลาย การได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง มีการเล่นและแข่งขันทั่วโลก การแข่งขันสนุกตื่นเต้น มีศิลปะและมีคนติดตามการแข่งขัน และมีสมาชิกอยู่ใน 5 ทวีปทั่วโลก ซึ่ง นายไฮน์ เวอร์ บรูเกน ที่จะทำหน้าที่คัดเลือกชนิดกีฬา ได้แจ้งให้สมาชิกทราบว่า 1 ใน 3 ชนิดกีฬาที่จะเพิ่มเข้าสู่โอลิมปิก 2016 จะมีกีฬาจากกลุ่มมาเชียลอาร์ท (กีฬาต่อสู้) 1 ชนิดกีฬา จาก 9 ชนิดที่กำลังพิจารณาอยู่คือ มวยไทย, คาราเต้, คิกบ๊อกซิ่ง, ไอกิโด, เคนโด, ซอมโบ้, วูซู, ซูโม่, ยิวยิทสู

“บิ๊กเหวียง” กล่าวต่อไปว่าจากการมาเยือนไทย 2 ครั้งของ นายไฮน์ เวอร์ บรูเกน เปิดเผยว่าตอนนี้กีฬามวยไทยได้รับการพูดถึงมากที่สุด รองลงมาได้แก่ คาราเต้ แต่มวยไทยต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างเต็มที่ เหมือนกับที่รัฐบาลเกาหลีใต้ให้การสนับสนุนเทควันโด อย่างไรก็ตามตนมั่นใจว่า โอกาสที่มวยไทยจะเบียดคาราเต้เข้าสู่โอลิมปิก 2016 มีมาก และ WMC ที่มีสมาชิกอยู่ 125 ทุกทวีปทั่วโลกจะเผยแพร่ศิลปะมวยไทยให้เป็นที่นิยมทั่วโลกมากขึ้น โดยร่วมกับเอกชนจัดรายการมวยไทย TGN ร้อยรวมใจ สืบสานมวยไทยสู่โอลิมปิก ถ่ายทอดสดมวยไทยผสมผสานกับการนำเสนอชีวิตจริงของนักมวย, เกร็ดความรู้มวยไทย กติกา พร้อมวัฒนธรรม ออกสู่สายตาชาวโลก 177 ประเทศทั่วโลก ทางสถานีโทรทัศน์ TGN (ช่อง 5 TGN) ถ่ายทอดสดผ่านดาวเทียม ทุกวันอังคารเวลา 20.15-22.15 น. รับชมได้ทางทรูวิชั่นส์ ช่อง 97 เพื่อสร้างกระแสนิยมมวยไทยทั่วโลก โดยเฉพาะในยุโรป, สหรัฐอเมริกา และแอฟริกาที่มีอิทธิพลต่อ IOC มาก

ส่วนเรื่องปัญหาองค์กรมวยไทยในเมืองไทยที่ขัดแย้งกันนั้นไม่มีปัญหา เพราะได้ชี้แจงให้ GAFIS และ IOC เข้าใจหมดแล้ว หากมวยไทยเข้าสู่โอลิมปิกสำเร็จ สหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ หรือ IFMA จะทำหน้าที่คัดเลือกนักกีฬาเข้าแข่งขันเหมือนกับไอบาของมวยสากลสมัครเล่นและถ้าทำสำเร็จไทยได้ประโยชน์มหาศาลเพราะมีเหรียญทองแน่นอนในกีฬาโอลิมปิก ไม่ต้องสร้างแรงกดดันให้กับสมาคมที่มีความหวังอย่างมวยสากลสมัครเล่น หรือยกน้ำหนัก

ตุ๊กตาเรซิ่น แม่ไม้มวยไทย

"มวยไทย" ศาสตร์การต่อสู้ที่ดุเดือดรุนแรง แฝงไปด้วยศิลปะงดงาม ปัจจุบัน แม่ไม้มวยไทยแท้ๆ หาชมได้ยากยิ่ง แต่ด้วยฝีมือสร้างสรรค์ของศิลปินชาว อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง อย่าง บัณฑิต โกศลสิทธิ์ ได้นำศิลปะการต่อสู้ของคนไทยกลับมาให้คนรุ่นใหม่สัมผัสอีกครั้ง โดยผ่านตุ๊กตา ที่มีท่วงท่า ลีลา และอารมณ์ ดุจมีชีวิตจริง

บัณฑิต โกศลสิทธิ์ เปิดเผยถึงแรงบันดาลใจเกิดจากความรักในมวยไทยของเจ้าของผลงานตั้งแต่เยาว์วัย ผสมผสานกับวิชาการปั้นตุ๊กตาชาววังที่ได้รับการถ่ายทอดจากครอบครัว เริ่มมาจากคุณแม่เคยเรียนปั้นตุ๊กตาชาววัง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2519 ซึ่งมีอาจารย์มาสอนอาชีพให้ชาวบ้าน ส่วนตัว พอจบ ม.ต้น ก็มาต่อด้านศิลปกรรม จบมาก็ทำงานบริษัท จนมีช่วงหนึ่งตกงาน เลยมาฝึกปั้นตุ๊กตาชาววังกับแม่ และได้เห็นท่าย่างสามขุมของมวยไทย แล้วประทับใจ เพราะชอบมวยตั้งแต่เด็กจนเกิดเป็นแรงบันดาลใจอยากปั้นเป็นตุ๊กตานักมวยไทย

หลังจากออกผลงานครั้งแรกปี 2535 ปัญหาที่พบ คือ ตุ๊กตาปั้นที่ทำจากดินเผา มีปัญหาแตกหักง่าย ไม่สะดวกในการขนย้ายระหว่างเดินทาง เลยเปลี่ยนวัสดุเป็น เรซิ่น แทน เพราะแข็งแรงกว่า แล้วลงสีให้เหมือนกับสีของดินเผา ต้องการรักษาความรู้สึกของการเป็นงานทำมือไว้

สำหรับจุดเด่นของตุ๊กตามวยไทยของเขานั้น อยู่ที่ความถูกต้องในท่วงท่าของแม่ไม้มวยไทย ซึ่งมาจากการศึกษาอย่างจริงจัง และได้รับคำแนะนำของครูมวยไทย รวมถึงเน้นเรื่องกายวิภาคให้ดูสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดโครงสร้างร่างกาย, กล้ามเนื้อ, เส้นเลือด และอารมณ์ใบหน้า

"ผมพยายามทำให้ลูกไม้ต่างๆ ถูกต้องที่สุด โดยเป็นมวยไทยโบราณ แบบคาดเชือก ซึ่งหาดูไม่ได้แล้ว ผมคิดว่า มวยไทยสวยงาม เป็นศาสตร์วิชาต่อสู้รอบตัว การปั้นแต่ละท่า ศึกษาจากหนังสือประวัติศาสตร์มวย และมีครูมวยคอยแนะนำบ้าง และดูจากของจริง แรกๆ ปั้นมาแล้ว มันดูเตะ ต่อยไม่มีน้ำหนัก ก็ปรับเปลี่ยนมาเรื่อยๆ ตอนนี้ ก็ 10 กว่าปีแล้ว คนภายนอกดูแล้วบอก สวย แต่ตัวผม พอใจประมาณ 80% เพราะเราก็อยากพัฒนาไปเรื่อยๆ" บัณฑิตกล่าว

สำหรับตุ๊กตาแม่ไม้มวยไทยมีทั้งหมด 82 ท่า และยิ่งเป็นมวยไทยโบราณ มีถึง 180 ท่า ขณะนี้ มีแบบที่ปั้นแล้ว ประมาณ 20 ท่า หลายท่าเป็นศิลปะการต่อสู้ที่หาชมไม่ได้แล้วจากการแข่งขันจริงๆ ตุ๊กตามวยไทยจึงเป็นเหมือนอีกหนึ่งบทบันทึกในการถ่ายทอดศิลปะ ในอดีตมาให้คนรุ่นใหม่ และต่างชาติได้รู้จัก โดยบัณฑิต มีความฝันว่า จะพยายามศึกษาและปั้นแม่ไม้มวยไทยออกมาให้ได้ครบถ้วนทุกกระบวนท่า

โดยสนนราคาขายตั้งแต่ 250 ถึง 1,500 บาท จะมีร้านค้ารับไปขาย อีกทั้ง ทำตามคำสั่งซื้อ กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนไทย นำไปมอบเป็นของที่ระลึกให้ชาวต่างชาติในวาระต่างๆ รวมถึง ร้านอาหารไทยในต่างแดนนำไปตกแต่งร้าน ตอนนี้ได้รับคำสั่งซื้อจากต่างชาติ อาทิ โรมาเนีย, ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น มียอดขายประมาณหลายร้อยตัวต่อเดือน

"ปกติชาวต่างชาติชอบมวยไทยมาก เขาจะศึกษาอย่างจริงจัง ดังนั้น เราต้องทำให้ถูกต้องที่สุด ไม่ให้เขาว่าได้ และผมก็พยายามถ่ายทอดศิลปะของเรา โดยจะใช้ชื่องานว่า มวยไทย ไม่ใช่คำว่าไทย บ็อกซิ่ง (Thai Boxing) และผมก็เตรียมทำโบว์ชัวร์เพื่ออธิบายที่มาที่ไปของแต่ละแม่ไม้เสริมเข้าไว้ด้วย" บัณฑิตกล่าว

ปัญหาสำคัญ คือ อุปกรณ์ยังไม่พร้อม ด้วยเป็นงานกึ่งทำมือ จึงไม่สามารถผลิตครั้งละมากๆ ได้ รวมถึงขาดแคลนทีมงาน เวลานี้ ทำกันอยู่แค่ 2 คน แม้อีกหน้าที่จะเป็นวิทยากร สอนปั้นตุ๊กตาชาววัง อยู่ที่ ม.เกษตรศาสตร์ และพยายามสอนการปั้นตุ๊กตามวยไทยอยู่ด้วย แต่การหาทีมงานมาร่วม ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนอกจากใจรักแล้วยังต้องมีความอดทนสูงด้วย

ส่วนการโดนเลียนแบบมีอยู่บ้าง ทั้งทำเหมือน 100% และทำรูปแบบใกล้เคียงกันออกมาแข่ง แต่ทั้งนี้ ถ้าเป็นระดับผู้ประกอบการรายย่อยๆ ไม่มาแย่งตลาดโดยตรง คงไม่ว่ากัน เพราะเข้าใจหัวอกคนทำมาหากิน แต่ถ้าเป็นกลุ่มโรงงานคงต้องมีการฟ้องร้องต่อไป

ทั้งนี้ แผนในอนาคต บัณฑิต โกศลสิทธิ์ มีโครงการเตรียมจะออกชุดตุ๊กตานักรบโบราณ ไม่ว่าจะเป็นขุนพลเอก หรือนักรบชาวบ้าน เช่น ชาวบางระจัน เพราะมีลักษณะใกล้เคียงกับตุ๊กตามวยไทย ที่สามารถถ่ายทอดความเป็นไทย ผ่านการต่อสู้ รวมถึง ยังสามารถเพิ่มเติมจุดเด่นด้วยอุปกรณ์ อาทิ ดาบ หรือเกาะเหล็ก เป็นสินค้าเสริมได้อีกด้วย สนในจติดต่อ โทร.035-662-569 และ 087-900-8081

วันจันทร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2554

นักวิจารณ์มวยชื่อดังประจำบีบีซีลาโลก

แฮรร์รี คาร์เพนเตอร์ คอมเมนเตเตอร์มวยชื่อดังของบีบีซี ลาโลกแล้ว ด้วยวัย 84 ปี
นักวิจารณ์มวยชื่อดังของสำนักข่าวบรรษัทกระจายเสียงแห่งอังกฤษ หรือบีบีซี

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า แฮร์รี คาร์เพนเตอร์ นักวิจารณ์มวยชื่อดังของสำนักข่าวบรรษัทกระจายเสียงแห่งอังกฤษ หรือบีบีซี เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 84 ปี

โดยการเปิดเผยของ นายเดวิด วิลล์ ทนายประจำตัวของนายคาร์เพนเตอร์ ระบุว่า นักวิจารณ์มวยรายนี้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลคิงส์ คอเลจ ในกรุงลอนดอน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น หลังมีอาการป่วยด้วยโรคหัวใจมาตั้งแต่ฤดูร้อนที่แล้ว

ทั้งนี้ คาร์เพนเตอร์ ร่วมงานกับบีบีซี ตั้งแต่ปี 2492 หลังจากรับราชการอยู่ในกองทัพเรือเป็นเวลา 2 ปี โดยเขาเริ่มงานเป็นผู้สื่อข่าวสายมวยตั้งแต่ปี 2505 จนถึงปี 2537 อีกทั้งยังเคยร่วมงานกับหนังสือพิมพ์ชื่อดังหลายฉบับด้วย

ทึ่งครูมวย 6 ขวบออกตระเวนสอน

ทึ่ง! “จีจ้าน้อย” ครูมวยจิ๋วสุดในโลก อายุแค่ 6 ขวบ ตระเวนสอนศิลปะแม่ไม้มวยไทยให้กับเด็กๆ ตามโรงเรียนต่างๆ เผยเป็นลูกสาวเจ้าของค่ายมวยดังในสัตหีบ เริ่มฝึกมวยตั้งแต่ 4 ขวบ มีแววอัจฉริยะได้ขึ้นเวทีชกครั้งแรกตอน 5 ขวบ ลีลาการชกดุดัน ต่อมาหาประกบคู่มวยไม่ได้เลยหันเหมาเป็นครูมวยสอนเด็กๆ แทน แถมมีความสามารถพิเศษวิเคราะห์วิจารณ์มวยแม่นยำ

ณ เวทีมวยชั่วคราวตลาดนัดกิโล 10 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อเวลา 00.15 น. วันที่ 12 มี.ค. นายสันต์ศักย์ จรูญ งามพิเชษฐ์ ที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้เป็นประธานเปิดการแข่งขัน จัดการชกมวยไทยในชื่อศึกดาวรุ่งศิษย์สีเผือกเพื่อการกุศล ซึ่งเป็นการแข่งขันชกมวยเด็กดาวรุ่ง น้ำหนักไม่เกิน 30 กิโลกรัม จำนวน 11 คู่ เพื่อหารายได้มอบเป็นทุนอาหารกลางวันให้กับเด็กนักเรียนในเขต ต.พลูตาหลวง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนจะถึงรายการแข่งขันชกมวย ได้มีการโชว์ศิลปะแม่ไม้มวยไทยบนเวที โดยมี ด.ญ.อังคณา สำเภาเงิน หรือ น้องหมวย อายุ 6 ขวบ อยู่บ้านเลขที่ 27/30 หมู่ 4 ต.สัตหีบ เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนชุมชนบ้านเตาถ่าน ต.สัตหีบ และ ด.ช.วโรดม ต้นทอง อายุ 8 ขวบ หรือ “ดาวคะนอง ศิษย์ลมหนาว” แชมป์มวยเด็กของภาคตะวันออก เป็นคู่แสดงท่าแม่ไม้มวยไทยจำนวน 8 ท่า ประกอบด้วย ท่าอิเหนาแทงกริช มอญยันหลัก จระเข้ฟาดหาง ฤษีบดยา เถรกวาดลาน หนุมานเหินสมุทร หิรัญยักษ์ม้วนแผ่นดิน และนารายณ์บั่นเศียร ซึ่งได้รับความสนใจและเสียงปรบมือดังกึกก้องทั่วสนามมวย

นายสมชาย สำเภาเงิน และ นางบัวลี สำเภาเงิน บิดาและมารดาของน้องหมวย เปิดเผยว่าตนมีลูก 2 คน น้องหมวยเป็นคนเล็ก ส่วนพี่ชายอายุ 12 ขวบ เป็นนักมวยไทยฉายา “ฉลามขาว เพชรเตาถ่าน” ที่บ้านเปิดเป็นค่ายมวยชื่อค่ายเพชรเตาถ่าน สำหรับน้องหมวยได้เริ่มฝึกมวยไทยตั้งแต่อายุ 4 ขวบครึ่ง พออายุ 5 ขวบก็ขึ้นเวทีชกครั้งแรกที่ จ.ระยอง ผลออกมาเสมอ หลังจากนั้นก็เดินสายหาคู่ชกมาตลอด แต่ก็ไม่มีเพราะเป็นผู้หญิงและตัวเล็กกว่านักมวยหญิงคนอื่นๆ จนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้ขึ้นเวทีชกอีกครั้งกับ “น้องเนย ลูกอ่างตานนท์” ที่ จ.ระยอง ผลปรากฏว่าชนะคะแนน

นอกจากน้องหมวยจะเก่งในเชิงชกมวยกว่าเด็กในวัยเดียวกันแล้ว ยังเป็นครูมวยที่เก่งจนน่าทึ่งอีกด้วย โดยระหว่างที่ตนตระเวนไปสอนศิลปะแม่ไม้มวยไทยให้กับบรรดาเด็กๆ ตามโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่ อ.สัตหีบ ก็จะพาน้องหมวยไปเป็นครูมวยสอนเด็กๆ ด้วย ซึ่งน้องหมวยมีพรสวรรค์ในการสอนศิลปะแม่ไม้มวยไทยได้อย่างดีเยี่ยมจนได้รับคำชมไปทั่วและพากันตั้งฉายาว่าจีจ้าน้อย

“ปกติลูกสาวเป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยกล้าแสดงออก แต่ถ้าขึ้นเวทีเมื่อไหร่จะสวมหัวใจราชสีห์ จนแฟนมวยยกให้เป็นว่ามวยพันธุ์ดุ อีกทั้งลูกสาวยังวิเคราะห์วิจารณ์มวยได้อย่างแม่นยำ ทั้งในเรื่องจุดเด่นจุดด้อยของนักมวยแต่ละคน แต่ที่ลูกสาวภาคภูมิใจที่สุดก็คือได้เป็นครูสอนมวยไทยให้กับนักเรียนรุ่นพี่ และน่าจะถือว่าเป็นครูมวยอายุน้อยที่สุดในโลก” พ่อน้องหมวยกล่าวด้วยความปลื้ม

วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2554

ดีด้า ไดเฟต "มวยไทยคือศิลปะอันงดงาม" (4)

ดารามือใหม่ของเรายังเปิดเผยถึงบุญคุณของ "มวยไทย" ที่ส่งผลให้ตัวเองสามารถพลิกฐานะจากเด็กกำพร้าสู่ความเป็นซูเปอร์สตาร์ได้ในปัจจุบันว่า

"จากการที่คนไทยเป็นคนใจกว้าง ให้การนับถือผู้อื่นเป็นอย่างดี ผมจึงไม่มีปัญหาที่ว่าจะได้รับการดูถูกจากใครเลย ที่สำคัญคือประเทศไทยนั้นมีบุญคุณกับผมมาก"

"สำหรับผมแล้ว มวยไทย คือศิลปะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุด ทำให้ไม่คิดจะหันไปสนใจการต่อสู้ในแบบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น คาราเต้, กังฟู หรือ เควัน อะไรก็แล้วแต่ เพราะมวยไทยเป็นสิ่งที่วิเศษที่สุดแล้ว และก็สามารถเปลี่ยนชีวิตผมได้ในทุกวันนี้”

"ในอดีตผมอาจจะลำบาก ยากจนมาก แต่ก็เพราะมวยไทย ที่ทำให้ชีวิตผมในวันนี้ดีกว่าเดิมมากมาย กลายเป็นคนที่มีรถเฟอร์รารี่ขับ แน่นอนว่าผมไม่จนแล้ว มีคนยกย่องมากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องการคือการทำอะไรบางอย่างให้กับประเทศไทยบ้าง"

สิ่งที่ ดีด้า เกริ่นไว้คือการเตรียมงานเปิดตัวรายการ "เรียลิตี้โชว์" ที่จะดึงเยาวชนมาฝึกมวยไทยในค่ายซ้อม เพื่อหาคนเก่งในศาสตร์ "มวยไทย" อย่างจริงจังเสียที

"ผมคิดว่ามีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่มีความสามารถด้านการชกมวยไทย แต่ว่ายังขาดโอกาส และไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเดินบนหนทางที่ถูกต้องได้อย่างไร ผมคิดว่าเวทีนี้จะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับพวกเขาเหล่านั้น เพื่อสืบต่อศิลปะมวยไทยต่อไป"

ทั้งนี้ ดีด้า คาดว่ารายการเรียลิตี้น้องใหม่รายการนี้จะเปิดตัวให้แฟนๆ ได้ชมกันในช่วงปลายปีนี้ หรือหากติดขัดก็อาจจะเป็นในปีหน้า ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเรื่องการเลือกช่องโทรทัศน์ว่าจะออกอากาศทางสถานีใดในประเทศไทย ที่สำคัญรายการนี้จะมีการถ่ายทอดกลับไปยังประเทศฝรั่งเศส บ้านเกิดของ ดีด้า อีกด้วย

ถึงวันนี้แม้หนุ่มฝรั่งเศสนาม ดีด้า ไดเฟต จะอำลาจากผืนผ้าใบอย่างเป็นทางการไปหลายปีแล้ว แต่ก็ยังมุ่งมั่นที่จะเผยแพร่ศาสตร์การต่อสู้จากลุ่มน้ำเจ้าพระยาสู่สายตาชาวโลกด้วยการทำรายการเรียลิตี้โชว์ ซึ่งเหตุผลเดียวที่ ดีด้า บอกไว้ก็คือ

มวยไทยคือสิ่งงดงามที่สุดสำหรับผม และผมก็ตกหลุมรักมวยไทยไปตั้งแต่วันแรกที่ได้รู้จักกัน”

ดีด้า ไดเฟต "มวยไทยคือศิลปะอันงดงาม" (3)

เมื่อวันเวลาไม่เคยโกหกและยังคงทำหน้าที่อย่างเที่ยงตรง จนสภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวยให้กับการชกมวยอย่างทรหดโชกโชนดังเช่นอดีต ดีด้า จึงตัดสินใจหันหลังให้กับกลิ่นสาบสังเวียนเมื่อวัยขึ้นสู่เลข 3 จึงมาถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ทำให้หนุ่มสายเลือดเดียวกับนโปเลียนรายนี้เปลี่ยนไปยึดอาชีพทางการแสดงแทน ด้วยการนำชีวิตของนักชกบนเวทีมวยไทยมาตีแผ่บนแผ่นฟิล์มในชื่อว่า "โชคดี"

"มีแฟนๆ จำนวนมากที่รู้จักผมจากการชกมวยไทยจากการถ่ายทอดสดของสถานีโทรทัศน์ในฝรั่งเศส จากความโด่งดังในครั้งนั้นทำให้ผมเขียนหนังสือชีวประวัติของตัวเองขึ้นมา และมันก็ได้รับความสนใจจากผู้สร้างหนัง ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เกิดขึ้นมาได้ ที่สำคัญสามารถขายลิขสิทธิ์ได้มากถึง 125 ประเทศ นั่นทำให้ผมดีใจจนพูดไม่ออกเลยทีเดียว เพราะผมทำมันเองแทบจะทุกอย่าง ทั้งการเขียนบท อำนวยการสร้าง ออกแบบฉาก รวมไปถึงการแสดงเป็นตัวเอกของเรื่อง ผมก็รู้สึกภูมิใจกับมันมาก"

ดีด้า ยังได้เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างชีวิตบนแผ่นฟิล์ม กับการชกมวยไทยด้วยว่า

"การชกบนเวทีผมต้องต่อสู้กับคู่แข่ง มันก็เหมือนกับการอยู่ในธุรกิจภาพยนตร์ที่ผมก็ต้องแข่งขันกันกับคนอื่น เพียงแต่ว่ามันอาจจะเป็นเรื่องที่เบากว่า เพราะระหว่างที่เราอยู่ในโลกของธุรกิจบันเทิง อาจจะมีคนมาเสิร์ฟกาแฟระหว่างทำงาน แตกต่างจากการชกบนเวทีที่ไม่มีถ้วยกาแฟมาให้ผมนั่งจิบแน่"

ดีด้า ไดเฟต "มวยไทยคือศิลปะอันงดงาม" (2)

ในวันที่อากาศร้อนอบอ้าวคุกคามกรุงเทพฯ ทีมข่าวกีฬาของ "ผู้จัดการรายวัน" มีนัดกับหนุ่มฝรั่งเศสอดีตนักมวยไทยชื่อกระฉ่อนบนแผ่นดินยุโรป ที่ปัจจุบันผันตัวเองจากซูเปอร์สตาร์บนผืนผ้าใบสู่วงการบันเทิงอย่างไม่ขัดเขิน

ทันทีที่เราไปถึงโรงแรมคอนราร์ดฯ ก็ได้พบกับชายชาวต่างชาติผิวขาว รูปร่างเล็ก ทว่าดูแกร่งเกร็งไปด้วยกล้ามเนื้อที่สมส่วนภายใต้การแต่งตัวตามสบายในเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีชมพูอ่อนๆบนเก้าอี้นั่งอย่างสบายอารมณ์ พร้อมด้วยสื่อมวลชนจากหลายสำนัก ที่รายล้อมเป้าหมายของเราอยู่ แน่นอนว่านี่แหละ "ดีด้า ไดเฟต" ที่เรามองหาอยู่

ทันทีที่ได้ทำความรู้จักกันผ่านล่ามสาวหน้าหวาน ดีด้า แสดงท่าทีเป็นมิตรอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับกล่าว "สวัสดีครับ" เป็นภาษาไทยอย่างคุ้นลิ้น โดยอดีตนักชกหนุ่มวัย 37 ปีเล่าให้เราฟังถึงพรหมลิขิตอันเป็นจุดเริ่มต้นที่นำพามารู้จักกับ "มวยไทย" กีฬาที่เขารักอย่างแนบแน่นว่า

"ผมเป็นเด็กกำพร้าจากตอนเหนือของกรุงปารีสในฝรั่งเศส ต้องอาศัยอยู่กับคุณยาย แต่ก็ไม่ได้ใกล้ชิดอะไรมากมายนัก การมีชีวิตเติบโตจากครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบจากย่านที่เปรียบเหมือนแหล่งเสื่อมโทรม ทำให้ผมมีชีวิตที่ผิดทางต้องเข้าไปอยู่ในคุก แต่เหมือนโชคชะตาลิขิตที่นั่นแหละทำให้ผมได้เกิดใหม่และรู้จักกับมวยไทย"

"วันหนึ่งระหว่างรับโทษมีเพื่อนร่วมคุกนำภาพถ่ายการชกมวยไทยในประเทศไทยให้ดู มันทำให้ผมรู้สึกทึ่งมากเลยทีเดียว ผมตกหลุมรักมวยไทยตั้งแต่แรกเห็น พอเพื่อนเล่าเรื่องราวต่างๆนานาที่เกี่ยวข้องกับกีฬาชนิดนี้ให้ฟัง ผมเริ่มมีความรู้สึกอยากมาเห็นและเรียนรู้ด้วยตัวเองบ้าง"

จุดเริ่มต้นดังกล่าวนี่เองทำให้อดีตเด็กวัยรุ่นจอมเกเรวัย 18 ปี ตัดสินใจเก็บข้าวของจากบ้านเกิดเพื่อเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงลุ่มน้ำเจ้าพระยาในเมืองไทย โดยจุดหมายแรกที่หัวใจของ ดีด้า นำพามาก็คือ "สนามมวยลุมพินี" ซึ่งเป็นจุดหมายเดียวที่หนุ่มน้อยในวันนั้นรู้จักเกี่ยวกับเมืองไทยนั่นเอง

"มันตื่นเต้นมากที่ได้มาดูมวยไทยที่เวทีลุมพินี นั่นเป็นที่แรกที่ผมต้องการจะไปในเมืองไทย ผมได้ดูนักชกทั้งสองฝ่ายบนเวทีกำลังออกอาวุธทั้งหมัด เท้า เข่า ศอก เข้าใส่กันอย่างเมามัน โดยมีเสียงคนดูรอบสนามโห่ร้อง โอ้ว โอ้ว โอ้ว เป็นจังหวะ มันเรียกความรู้สึกคึกคักเร้าใจมาก ในบรรยากาศแบบนั้นมันทำให้เลือดผมสูบฉีดอย่างแรง เห็นแล้วก็ต้องร้องอุทานออกมาอย่างลืมตัวเลย กับการต่อสู้บนเวทีของจริงในวันนั้น"

ก้าวต่อไปที่ทำให้ ดีด้า นำพาตัวเองเข้าสู่ค่ายมวย "ส.เพลินจิต" ได้นั้น อดีตนักชกสายเลือดน้ำหอมกล่าวว่า

"ระหว่างที่ผมนั่งชมอยู่ในสนามมวยลุมพินี ผมไม่รู้จักใครเลย ผมมาคนเดียว และก็รู้ทันทีว่ามวยไทยนี่แหละคือสิ่งที่ต้องการ ตอนนั้นผมเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ในที่นั่งอยู่ใกล้เวทีคนหนึ่ง มีคนเข้าไปยกมือไหว้เขามากมาย ผมก็เลยคิดว่าต้องเข้าไปรู้จักคนๆ นี้ให้ได้เลยไปดักรอเขาตรงทางออก จนผมได้พบกับเขา หรือคุณทองดี ที่เป็นเจ้าของค่ายมวยไทย "ส.เพลินจิต" ผมได้เข้าไปฝากตัวกับเขาและก็ได้ไปกินอยู่หลับนอนและเริ่มต้นฝึกซ้อมมวยไทยอยู่ที่นั่นตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา"

ดีด้า ไดเฟต "มวยไทยคือศิลปะอันงดงาม" (1)

"สำหรับผมแล้ว มวยไทย คือศิลปะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุด ทำให้ไม่คิดจะหันไปสนใจการต่อสู้ในแบบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น คาราเต้, กังฟู หรือ เควัน อะไรก็แล้วแต่ เพราะมวยไทยเป็นสิ่งที่วิเศษที่สุดแล้ว และก็สามารถเปลี่ยนชีวิตผมได้ในทุกวันนี้"

แทบจะเป็นเรื่องปกติสำหรับการแข่งขันชกมวยไทยในสนามมวยทั้ง "ลุมพินี" และ "ราชดำเนิน" ที่เราคนไทยจะได้ประสบพบเห็นเหล่าบรรดากองทัพชาวต่างชาติที่ต่างเดินทางมาจากทั่วทุกสาระทิศเพื่อซึมซับบรรยากาศอันน่าตื่นตาตื่นใจของการประเคนหมัดเท้าเข่าศอกเข้าหากัน พร้อมชมการต่อสู้ที่เปรียบดั่งการร่ายรำของนักชกบนสังเวียนที่ห้ำหั่นกันเพียง 5 ยก ก็จบการแข่งขันของแต่ละคู่

ใครจะรู้บ้างว่าสำหรับชาวต่างชาติบางคนที่ยอมทุ่มตัว เทหัวใจให้กับ แม่ไม้มวยไทย อย่างไม่ลืมหูลืมตา จะสามารถขยับตัวเองจากเด็กกำพร้าสู่ตำแหน่งนักกีฬาซูเปอร์สตาร์เพียงชั่วข้ามปีด้วยศาสตร์การต่อสู้ของลูกหลานนายขนมต้มชนิดนี้

วันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2554

ISUZU หวัง THAI FIGHT นำ "มวยไทย" ผงาดโลก

อีซูซุชื่นชมความสำเร็จของการแข่งขันศึกมวยไทยนานาชาติ "THAI FIGHT" และแชมป์คนแรก "ฟาบิโอ พินคา" แชมป์มวยไทยจากประเทศฝรั่งเศสที่ร่วมสืบทอดมรดกการต่อสู้ "ศิลปะแม่ไม้มวยไทย" อันล้ำค่าของไทยได้อย่างยอดเยี่ยมคว้ารางวัลเงินสด 2 ล้านบาท และรถ "อีซูซุดีแมคซ์ เอ็กซ์-ซีรี่ส์" ราคาเกือบ 1 ล้านบาทไปครอง พร้อมมุ่งหวังให้กีฬามวยไทยไปผงาดบนเวทีโลก

หลังจากคัดเฟ้นจนเหลือนักมวยไทย 4 ชาติสุดท้ายจาก 16 ชาติ ศึกมวยไทยนานาชาติ "THAI FIGHT" ได้ฤกษ์ระเบิดศึกครั้งสุดท้ายชิงชัยบนสังเวียน "แชมป์" ประกาศความเป็นสุดยอดนักมวยไทยที่ร่วมสืบสานตำนานความยิ่งใหญ่ของ "ศิลปะแม่ไม้มวยไทย" อันเลื่องชื่อท่ามกลางเสียงเชียร์อันกึกก้องของบรรดาแฟนมวยทั่วฟ้าเมืองไทย ณ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา

โดยคู่ชิงชนะเลิศ ได้แก่ ฟาบิโอ พินคา (Fabio Pinca) จากฝรั่งเศส ที่ชนะ เพชรมั่นคง เพชรฟอร์กัส จากไทย ปะทะ ยูเซฟ บูร์กาเนม (Youssef Boughanem) จากเบลเยียม ที่ชนะ โชอิจิโร มิยาโคชิ (Shoichiro Miyakoshi) จากญี่ปุ่นเมื่อแกร่งปะทะแกร่งทำให้เวทีผืนผ้าใบของ THAI FIGHT เดือดพล่าน

แต่ด้วยลีลามวยไทยในสไตล์มวยหมัดหนักของฟาบิโอ พินคา ที่ลุยชกเก็บคะแนนคู่ต่อสู้ตลอด 3 ยก ทำให้คว้าแชมป์คนแรกของศึก THAI FIGHT ในที่สุด

  • รางวัลชนะเลิศ : ฟาบิโอ พินคา จากฝรั่งเศส รางวัลเงินสด 2,000,000 บาท และรถอีซูซุดีแมคซ์ เอ็กซ์-ซีรี่ส์ มูลค่า 1,000,000 บาท
  • รางวัลที่ 2 : ยูเซฟ บูร์กาเนม จากเบลเยียม รางวัลเงินสด 1,000,000 บาท
  • รางวัลที่ 3 : โชอิจิโร มิยาโคชิ จากญี่ปุ่น รางวัลเงินสด 300,000 บาท
  • รางวัลที่ 4 : เพชรมั่นคง เพชรฟอร์กัส จากไทย รางวัลเงินสด 200,000 บาท
มร.เอช. นาคางาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า การได้เห็นนักมวยต่างชาติชกมวยไทย และมีลีลาแม่ไม้มวยไทยไม่แพ้คนไทยเลยนั้น เป็นสิ่งที่คนไทยควรภาคภูมิใจ เพราะนั่นหมายถึงว่า เป็นโอกาสดีที่มวยไทยจะก้าวเข้าสู่ระดับโลก และเป็นที่รู้จักของนานาประเทศซึ่งอีซูซุจะดีใจมากถ้าหากวันหนึ่งมวยไทยได้รับการบรรจุเป็นหนึ่งในกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ และโอลิมปิก

อย่างไรก็ตามขอให้คนไทยติดตามการแข่งขันศึกอีซูซุคัพที่กำลังแข่งขันกันอยู่ทุกวันเสาร์ ณ สนามมวยสยาม (อ้อมน้อย) เพื่อลุ้นว่านักชกคนใดจะได้เป็นแชมป์ศึกอีซูซุคัพ ครั้งที่ 21 ซึ่งจะเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันศึกมวยไทยนานาชาติ THAI FIGHT ในปีหน้าต่อไป
อนึ่งการแข่งขัน "THAI FIGHT" มีวัตถุประสงค์การสนับสนุนการแข่งขัน คือ
  1. เพื่อเป็นการต่อยอดการแข่งขันศึกมวยไทย "อีซูซุคัพ" ซึ่งถือว่าเป็นศึกมวยไทยที่จัดขึ้นยาวนานที่สุดถึง 20 ปี และเป็นรายการมวยถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ที่ยาวนาน และมีเรตติ้งดีที่สุด
  2. เพื่อให้เป็นที่ประจักษ์ว่า "มวยไทย คือ มรดกทางวัฒนธรรมของไทย" ศิลปะป้องกันตัวประจำชาติไทยที่ควรค่าแก่การประกาศความเป็นเจ้าของ และให้ทั่วโลกยอมรับว่าการแข่งขันมวยไทยที่ดีที่สุดต้องที่เมืองไทยเท่านั้นเพราะมวยไทยถือเป็นสุดยอดศิลปะการต่อสู้ที่สวยงามและอันตรายที่สุดในโลกที่ผสมผสานศาสตร์ และศิลป์ได้อย่างลงตัว บ่งบอกถึงการต่อสู้ที่มีพิษสงรอบตัวของบรรพบุรุษไทยที่ได้นำศิลปะการใช้ส่วนต่างๆ ของร่างกายมาเป็นอาวุธที่ทั้งสวยงาม และอันตราย เพื่อต่อสู้ปกป้องรักษาความเป็นไทย นับเป็นมรดกอันทรงคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ และยั่งยืน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรักษา "มวยไทย" ไว้ให้อยู่คู่กับชาติไทยสืบต่อไป
  3. เพื่อยกระดับการแข่งขันมวยไทยสู่สากลโดยการผสมผสานมวยไทย และความบันเทิงเข้าด้วยกันเป็น Sport Entertainment ที่สร้างสรรค์โดยคนไทยอย่างสมบูรณ์แบบ
โดยกติกาการแข่งขัน คือ
  1. นักมวยไทยที่มีชื่อเสียงจาก 16 ประเทศ ได้แก่ เนเธอร์แลนด์, ฝรั่งเศส, อังกฤษ, รัสเซีย, ออสเตรเลีย, สเปน, เบลเยี่ยม, อิตาลี, เยอรมนี, โมร็อกโก, ตุรกี, อิหร่าน, จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี และประเทศไทย ร่วมแข่งขัน
  2. นักมวยสามารถใช้อาวุธมวยไทยได้ครบเครื่อง ทั้งหมัด เท้า เข่า ศอก ตามหลักกติกามวยไทย และชกเพียง 3 ยกเท่านั้น
  3. การแข่งขันแบ่งเป็นรอบคัดเลือก 2 ครั้ง และรอบชิงชนะเลิศ

- รอบคัดเลือก รอบแรก จาก 16 คน คัดเหลือ 8 คน

- รอบคัดเลือก รอบสอง จาก 8 คน คัดเหลือ 4 คน

- รอบรองชนะเลิศ และชิงชนะเลิศ จาก 4 คน คัดเหลือ 2 คนเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในวันเดียวกัน

โดยสถานที่จัดการแข่งขันรอบคัดเลือก ณ อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก รองรับผู้เข้าชมภายในอาคารได้ถึง 10,000 คน ส่วนรอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ ณ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา ซึ่งสามารถรองรับผู้เข้าชมภายในสนามจำนวน 40,000 คน และถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ในช่วงที่ผ่านมานั่นเอง...

วันจันทร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2554

รักษ์ มวยไทย ในวิถีโปรโมเตอร์ต่างชาติ (1)

รูปแบบการจัดเวทีชกมวยไทยในเมืองนอก คล้ายการจัดเอนเตอร์เทนแบบมวยปล้ำ

"ในฐานะที่ผมเป็นโปรโมเตอร์จัดการแข่งขันมวยไทยในต่างประเทศ ทำให้ต้องเดินทางมาเมืองไทยค่อนข้างบ่อย และทุกครั้งหากได้พบปะพูดคุยกับเยาวชนไทยผมมักจะถามพวกเขาว่า กีฬาอะไรที่พวกคุณสนใจ ส่วนใหญ่แล้วจะตอบว่า ฟุตบอล หรือ เทนนิส แต่เมื่อถามถึงมวยไทยพวกเขากลับแสดงท่าทีไม่สนใจ เรื่องดังกล่าวทำให้ผมวิตกมากเพราะอันที่จริงแล้ว มวยไทย คือศิลปะป้องกันตัวอันเป็นสัญลักษณ์ของคนไทย แต่กลับไม่มีใครอยากสานต่อ ในขณะเดียวกัน ศิลปะป้องกันตัวของเกาหลีและญี่ปุ่นอย่างเทควันโด และ ยูโด กลับได้รับความสนใจมากกว่า"

ความรู้สึกข้างต้นนี้คือสิ่งที่ มาเร็ค บารอน ยาเนเชค โปรโมเตอร์ จัดการแข่งขันมวยไทยในยุโรปมากว่า 10 ปี วิตกกังวลถึงสถานะมวยไทยนับวันจะเสื่อมความนิยมในประเทศต้นกำเนิดลงไปทุกที ในขณะที่ดัชนีความนิยมในต่างประเทศของศิลปะป้องกันตัวประเภทนี้กลับเป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสาธารณรัฐเช็ก ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ มาเร็ค มีผู้สนใจฝึกมวยไทยสูงถึง 2,000 คน

มาเร็ค ซึ่งเป็นอดีตบุตรชายเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเช็กประจำประเทศไทยที่ได้เรียนรู้มวยไทยอย่างลึกซึ้งตั้งแต่อายุ 10 ปี จากความหลงใหลในอดีตของเด็กชาย มาเร็ค ปัจจุบันผู้ชายสัญชาติเชก คือ กุญแจสำคัญในการเผยแพร่ศิลปะป้องกันตัวจากประเทศเล็กๆ ในถิ่นอุษาคเนย์ ให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

บรรทัดต่อจากนี้ คือ ความรู้สึกและเส้นทางของ มาเร็ค บารอน ยาเนเชค ผู้ที่ไม่ได้คิดว่ามวยไทยคือการต่อสู้ แต่มวยไทยคือศิลปะป้องกันตัวด้วยมือเปล่าขั้นสูงอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองไทย

บุกยิง เฮี้ยง มวยตู้ นักแทงมวยชื่อดัง

ตำรวจรับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตที่ ร.พ.ราษฎร์บูรณะ จึงไปสอบสวนพร้อมด้วย พ.ต.ต.กมล นุ่มหอม สวส.(สบ2) และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน พบศพ นายสุชาติ เรืองศรี อายุ 72 ปี อยู่บ้านเเลขที่ 45 หมู่ 8 ซ.ประชาอุทิศ 10 แขวงและเขตราษฎร์บูรณะ กทม. ถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบขนาด เข้าแก้มซ้ายทะลุขมับขวา เสียชีวิตเนื่องจากกระสุนตัดก้านสมอง โดยที่เกิดเหตุอยู่ภายในบ้านพักสุดซอยประชาอุทิศ 10 จึงเดินทางไปตรวจสอบเป็นบ้านไม้ 2 ชั้นที่บริเวณโต๊ะอาหารชั้นล่างพบคราบเลือดจำนวนมาก จากการสอบสวน นายสมพงษ์ สุจิตวัฒนสุข อายุ 39 ปี บุตรเขย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุพ่อตาเพิ่งจะกลับเข้าบ้านตอน 2 ทุ่ม ซึ่งลูกหลานกินข้าวกันแล้ว จึงแยกย้ายกันขึ้นห้อง มีผู้ตายนั่งกินข้าวอยู่คนเดียว กระทั่งมีคนร้ายเปิดประตูบุกเข้ามาชักปืนจ่อยิง ก่อนวิ่งหลบหนีไปขึ้นรถจักรยานยนต์ ที่มีคนร้ายอีกคนจอดรออยู่หลบหนีไป

นายสมพงษ์ ให้การต่อว่า "ก่อนหน้านั้นได้มีชายต้องสงสัย 2 คนอายุราว 30 ปีเศษ ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดแถวบ้าน ตนเห็นผิดสังเกต เนื่องจากมีบ้านตนหลังเดียว จึงออกไปถามชายดังกล่าวอ้างว่ามาหาเพื่อนและรีบขับรถออกไป ซึ่งจำได้ว่าคนขี่รูปร่างท้วม ขี่รถ จยย.ยี่ห้อคาวาซากิ จีทีโอ ทะเบียน 382 คนซ้อนรูปร่างผอม เสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงยีนส์ น่าจะเป็นคนร้ายที่มาดูลาดเลาก่อนลงมือ"
เบื้องต้นสอบสวนทราบว่า ผู้ตายเคยทำธุรกิจส่งมะพร้าวกะปิตามตลาด และเปิดรับแทงมวยตู้ฉายา เฮี้ยง มวยตู้ ย่านราษฎร์บูรณะ ตอนหลังวางมือให้คนอื่นทำ และออกเงินกู้ มีบ้านให้เช่าในย่านดังกล่าว มีตำรวจในพื้นที่รู้จักดี คนร้ายน่าจะเป็นมือปืนรับจ้าง สาเหตุน่าจะหักธุรกิจด้านมืด

มวยไทยศิลปะคู่บ้านสู่เวทีโลก (2)

สมัยอธุธยาตอนต้นนั้นยังชกกันด้วยมือเปล่า เท้าเปล่ากันอยู่ พระมหากษัตริย์อย่างพระเจ้าเสือหรือขุนหลวงสรศักดิ์เคยปลอมตัวออกจากวังเพื่อไปประลองมวยไทยกับชาวบ้าน เสถียรเล่าเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ของมวยไทย

สมัยกรุงธนบุรีมวยไทยเป็นหนึ่งในสรรพวิชาการต่อสู้ที่คนไทยต้องฝึกเพื่อทำสงครามกู้ชาติกับพม่า พระเจ้าตากสินมหาราช และพระยาพิชัยดาบหักมีส่วนอย่างมากในการเผยแพร่ศิลปะมวยไทยสมัยนั้น ในงานเทศกาลหรืองานบุญ พระยาพิชัยจะเป็นหนึ่งในนักมวยที่ขึ้นประลองฝีมือเสมอๆ สมัยนั้นจะใช้ด้ายดิบชุบแป้งให้แข็ง เส้นโตขนาดดินสอดำ แล้วนำมาพันตั้งแต่สันมือจนถึงข้อศอก และพันรัดเป็นปอยด้านหลังข้อมือเป็นรูปก้นหอย เรียกว่า คาดเชือก เมื่อด้ายแข็ง ที่พันมือสัมผัสกับผิวหนังจะทำให้เนื้อฉีกขาดได้ง่าย เรียกเลือดในการต่อสู้ได้ทุกครั้งไป ปัจจุบันศิลปะมวยไทยกลายเป็นอาชีพหนึ่งที่ประกอบกิจการค่ายมวยอย่างเป็นล่ำเป็นสัน มีการจัดการชกมวยอาชีพทุกวันที่เวทีราชดำเนินและเวทีลุมพินี นอกจากจะเป็นการรักษาศิลปะของชาติไม่ให้สูญหายแล้ว การแข่งขันมวยอาชีพยังเป็นแหล่งพนันที่ถูกกฎหมายขนาดใหญ่ ที่บรรดาเซียนมวย เข้าไปต่อรองราคาคู่มวย วันหนึ่งๆ มีเงินสะพัดในเวทีมวยจำนวนมหาศาล ชาวต่างชาติเขาเข้ามาเห็นการชกมวยไทย พวกเขาชอบ อยากเรียน แต่เขากลัว มวยไทยสมัครเล่นจึงเกิดขึ้นในลักษณะเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรม ไม่เน้นการใช้อาวุธที่รุนแรงหรือการเอาชนะ เน้นที่การใช้ศิลปะ

เสถียรเล่าถึงแนวคิด ในการจัดตั้งมวยไทยสมัครเล่น มวยไทยสมัครเล่นเกิดขึ้นในประเทศไทย เมื่อ 10 ปีมาแล้ว มีการจัดการแข่งขันชิงแชมป์โลก 3 ครั้งที่ประเทศไทย ครั้งแรกมีต่างประเทศ เข้าร่วม 17 ประเทศ ครั้งที่ 2 มี 40 ประเทศ และนี้เป็นครั้งล่าสุด จุดประสงค์หลักเพื่อเผยแพร่ศิลปะมวยไทยให้แพร่หลาย การต่อสู้จะทำให้อ่อนลงในการปะทะกัน แต่แม้ไม้ลูกไม้ของมวยไทยยังอยู่ครบ ฝึกให้คนที่เรียนมวยไทยเคร่งครัดในประเพณีการไหว้ครู มารยาทของนักกีฬา เดี๋ยวนี้คนต่างชาติเขาพัฒนาฝีมือมวยไทยไปมากทั้งแม่ไม้ทั้งลูกไม้ คนไทยตัวเล็กกว่า เรื่องฝีมือเรายังสู้เขาได้ แต่เราแรงไม่มีโดนเรียกตัวมากะทันหัน อุดม แก้วดี นักมวยสมัครเล่นรุ่นไม่เกิน 57 กิโลกรัม เล่าความรู้สึกหลังจากแพ้คะแนนนักมวยสมัครเล่นจากฟินแลนด์

นอกจากการจัดการแข่งขันชิงแชมป์มวยไทยสมัครเล่นในประเทศไทยแล้ว ทางสมาพันธ์มวยไทยนานาชาติกำลังรวบรวมข้อมูลต่างๆ นำเสนอต่อคณะกรรมการโอลิมปิกสากล เพื่อให้มวยไทยได้เข้าแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก ซึ่งในารแข่งขันโอลิมปิกที่ประเทศออสเตรเลียนี้ มวยไทยจะเป็นหนึ่งในกีฬาสาธิตด้วย วีสตังค์ กี์ เด็กหนุ่มชาวฟิลิปปินส์ เขาเป็นนักมวยไทยสมัครเล่นรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 67 กิโลกรัม หลังจากที่แพ้นักมวยไทยจากประเทศเกาหลีใต้ เขาบอกเล่าความรู้สึกที่มีต่อกีฬามวยไทยว่า ผมเพิ่มหัดมวยไทยได้แค่ 2 เดือนเท่านั้น และผมจะฝึกต่อไป มวยไทยแพร่หลายมากในฟิลิปปินส์ ครั้งหน้าผมจะกลับมาแข่งใหม่ ผมคิดว่า มวยไทย It's a Good Game

มวยไทยศิลปะคู่บ้านสู่เวทีโลก (1)

มื่อกล่าวถึงศิลปะพื้นบ้านของคนไทย มวยไทย ถือเป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวที่อยู่คู่กับการสร้างบ้านแปรงเมืองของชนชาติไทยมาช้านาน นับตั้งแต่ นายขนมต้ม ที่เรียกได้ว่าเป็นบิดาแห่งศิลปะมวยไทย สร้างตำนานลือลั่นโดยการชกชนะนักมวยพม่า 10 คน จนชาวพม่า จารึกชื่อไว้ในพงศาวดาร

ปัจจุบันศิลปะมวยไทย เป็นที่ยอมรับและแพร่หลายทั่วโลก มีค่ายมวยไทยกระจายทั่วโลกกว่า 20,000 ค่าย และในการแข่งขันชิงแชมป์โลกมวยไทยสมัครเล่นครั้งที่ 3 นี้ มีประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขันกว่า 54 ประเทศ อะไรที่ทำให้ชาวต่างชาติพิสมัยศิลปะการต่อสู้ของคนไทย ผมเคยเรียนคิกส์ บ๊อกซิ่งมาก่อน แต่เมื่อมาเห็นมวยไทย ดูนักมวยไทยชกกันที่อังกฤษ ผมชอบมาก เป็นศิลปะป้องกันตัวที่ครบครันที่สุด มันมหัศจรรย์ จัสติน นาวิส เด็กหนุ่มชาติเวลล์ เขาเรียนมวยไทยมา 4 ปี ก่อนที่จะเป็นหนึ่งในคณะของเวลล์เข้าแข่งขันมวยไทยสมัครเล่นชิงแชมป์โลกครั้งนี้

มวยไทยเกิดขึ้นพร้อมๆ กับชาติไทย เป็นสัญชาตญาณของการต่อสู้ สมัยก่อนกษัตริย์ทุกพระองค์เป็นมวยไทย อาทิ พระเจ้าเสือ พระเจ้าตากสินมหาราช หรือขุนนางอย่างพระยาพิชัยดาบหัก ท่านเหล่านี้มีส่วนอย่างยิ่งในการเผยแพร่ศิลปะมวยไทย เสถียร สภาพงษ์ เลขาธิการสมาพันธ์มวยไทยนานาชาติ หนึ่งในหัวแรงหลัก ในการจัดการแข่งขันครั้งนี้ เริ่มเล่าถึงประวัติของมวยไทย ในอดีตชายฉกรรจ์ไทยส่วนใหญ่จะฝึกมวยไทย เพื่อความพร้อมในยามที่บ้านเมืองเกิด ศึกสงคราม ไพร่จะถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร การเรียนรู้ศิลปะมวยไทยจะเป็นพื้นฐานสำหรับการใช้อาวุธอื่นๆ อาทิ ดาบเดี่ยว ดาบ 2 มือ หอก ง้าว เป็นต้น เพราะเมื่อต่อสู้แบบประชิดตัวกับข้าศึก การใช้เท้าแตะ ถีบ คู่กับการใช้อาวุธจะเป็นประโยชน์มาก ขณะเดียวกันในยามที่บ้านเมืองสงบ มวยไทยเป็นส่วนหนึ่งในการทดสอบชายไทยที่จะเข้ารับราชการทหาร การจัดประลองฝีมือมวยไทยในงานสมโภชหรืองานบุญเป็นกิจกรรมที่คนไทยในอดีตให้ความสนใจกันมาก


วันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2554

กติกา เกมทายผลมวยไทย

  • เกมทายผลมวยไทย ให้บริการโดยทีมงาน มวยไทยออนไลน์ ด้วยระบบการทายผลมวยไทย ที่สมบูรณ์แบบที่สุดเพียงแห่งเดียวของประเทศ
  • เริ่มเปิดให้ทายผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553
  • มีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมเล่นเกมแล้วมากกว่า 5,000 คน
  • ผู้เล่น 1 คนสามารถสมัครได้เพียง 1 ชื่อเท่านั้น
  • ในแต่ละวันจะมีมวยให้เลือกทาย 5-7 คู่
  • ผู้เล่นสามารถเลือกทายได้ไม่จำกัดจำนวน
  • โดยการทายผลแบ่งออกเป็นการทายแบบทั่วไปและการทายแบบทีเด็ด
  • ซึ่งสมาชิกสามารถเลือกทายแบบทั่วไปหรือทีเด็ดก็ได้
  • ทายแบบทั่วไป ถูก +1 คะแนน  ผิด 0 คะแนน
  • ทายแบบทีเด็ด ถูก +3 คะแนน ผิด -3 คะแนน
  • หากผลการแข่งขันออกมาเสมอ หรือไล่ลงเวที (ชกไม่สมศักดิ์ศรี) ไม่นับคะแนน
  • ผู้เล่นต้องเข้ามาทายผลก่อนเวลาที่กำหนดในแต่ละวัน เช่น วันเสาร์-อาทิตย์ ปิดการทายผลตอนเที่ยงตรง
  • กรณีที่มีการเปลี่ยนคู่ชกนั้น ไม่ว่าจะเป็นกรณีไม่สบาย หรือเจ็บป่วยกะทันหัน ทางทีมงานจะทำการยกเลิกผลการทายคู่นั้นโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยสมาชิกยังคงสามารถเข้ามาทายคู่ที่เข้ามาทดแทนได้

มวยไทยออนไลน์ เกมทายผลมวย อันดับ 1 เมืองไทย

สุดยอดเกมทายผลมวยไทย ที่เดียวในเมืองไทย ที่มีการเปิดให้สมาชิกเข้าร่วมทายผลเกมมวยไทย ชิงเงินรางวัล 10,000 บาททุกเดือน เริ่มตั้งแต่เดือน พ.ย.53 เป็นต้นมา ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม ..เล่นง่ายๆ ไม่เสียค่าใช้จ่าย

นอกจากนั้น ยังมีข้อมูลสาระน่ารู้ต่างๆ เกี่ยวกับ กีฬามวยไทย ให้ทุกคนได้ศึกษา ค้นคว้า นำไปใช้งานได้ โดยข้อมูลมวยไทย ที่ทางเว็บไซต์มวยไทยออนไลน์ได้ไปรวบรวมมานั้น ล้วนแต่เป็นข้อมูลหายากทั้งสิ้น

ตอนนี้คุณพร้อมแล้วรึยัง ที่จะได้ทำความรู้จักกับกีฬามวยไทยอย่างแท้จริง เชิญร่วมทดสอบความสามารถในการวิเคราะห์ วิจารณ์มวยได้แล้วที่นี่ มวยไทยออนไลน์