คลังบทความของบล็อก

วันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2554

ISUZU หวัง THAI FIGHT นำ "มวยไทย" ผงาดโลก

อีซูซุชื่นชมความสำเร็จของการแข่งขันศึกมวยไทยนานาชาติ "THAI FIGHT" และแชมป์คนแรก "ฟาบิโอ พินคา" แชมป์มวยไทยจากประเทศฝรั่งเศสที่ร่วมสืบทอดมรดกการต่อสู้ "ศิลปะแม่ไม้มวยไทย" อันล้ำค่าของไทยได้อย่างยอดเยี่ยมคว้ารางวัลเงินสด 2 ล้านบาท และรถ "อีซูซุดีแมคซ์ เอ็กซ์-ซีรี่ส์" ราคาเกือบ 1 ล้านบาทไปครอง พร้อมมุ่งหวังให้กีฬามวยไทยไปผงาดบนเวทีโลก

หลังจากคัดเฟ้นจนเหลือนักมวยไทย 4 ชาติสุดท้ายจาก 16 ชาติ ศึกมวยไทยนานาชาติ "THAI FIGHT" ได้ฤกษ์ระเบิดศึกครั้งสุดท้ายชิงชัยบนสังเวียน "แชมป์" ประกาศความเป็นสุดยอดนักมวยไทยที่ร่วมสืบสานตำนานความยิ่งใหญ่ของ "ศิลปะแม่ไม้มวยไทย" อันเลื่องชื่อท่ามกลางเสียงเชียร์อันกึกก้องของบรรดาแฟนมวยทั่วฟ้าเมืองไทย ณ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา

โดยคู่ชิงชนะเลิศ ได้แก่ ฟาบิโอ พินคา (Fabio Pinca) จากฝรั่งเศส ที่ชนะ เพชรมั่นคง เพชรฟอร์กัส จากไทย ปะทะ ยูเซฟ บูร์กาเนม (Youssef Boughanem) จากเบลเยียม ที่ชนะ โชอิจิโร มิยาโคชิ (Shoichiro Miyakoshi) จากญี่ปุ่นเมื่อแกร่งปะทะแกร่งทำให้เวทีผืนผ้าใบของ THAI FIGHT เดือดพล่าน

แต่ด้วยลีลามวยไทยในสไตล์มวยหมัดหนักของฟาบิโอ พินคา ที่ลุยชกเก็บคะแนนคู่ต่อสู้ตลอด 3 ยก ทำให้คว้าแชมป์คนแรกของศึก THAI FIGHT ในที่สุด

  • รางวัลชนะเลิศ : ฟาบิโอ พินคา จากฝรั่งเศส รางวัลเงินสด 2,000,000 บาท และรถอีซูซุดีแมคซ์ เอ็กซ์-ซีรี่ส์ มูลค่า 1,000,000 บาท
  • รางวัลที่ 2 : ยูเซฟ บูร์กาเนม จากเบลเยียม รางวัลเงินสด 1,000,000 บาท
  • รางวัลที่ 3 : โชอิจิโร มิยาโคชิ จากญี่ปุ่น รางวัลเงินสด 300,000 บาท
  • รางวัลที่ 4 : เพชรมั่นคง เพชรฟอร์กัส จากไทย รางวัลเงินสด 200,000 บาท
มร.เอช. นาคางาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า การได้เห็นนักมวยต่างชาติชกมวยไทย และมีลีลาแม่ไม้มวยไทยไม่แพ้คนไทยเลยนั้น เป็นสิ่งที่คนไทยควรภาคภูมิใจ เพราะนั่นหมายถึงว่า เป็นโอกาสดีที่มวยไทยจะก้าวเข้าสู่ระดับโลก และเป็นที่รู้จักของนานาประเทศซึ่งอีซูซุจะดีใจมากถ้าหากวันหนึ่งมวยไทยได้รับการบรรจุเป็นหนึ่งในกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ และโอลิมปิก

อย่างไรก็ตามขอให้คนไทยติดตามการแข่งขันศึกอีซูซุคัพที่กำลังแข่งขันกันอยู่ทุกวันเสาร์ ณ สนามมวยสยาม (อ้อมน้อย) เพื่อลุ้นว่านักชกคนใดจะได้เป็นแชมป์ศึกอีซูซุคัพ ครั้งที่ 21 ซึ่งจะเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันศึกมวยไทยนานาชาติ THAI FIGHT ในปีหน้าต่อไป
อนึ่งการแข่งขัน "THAI FIGHT" มีวัตถุประสงค์การสนับสนุนการแข่งขัน คือ
  1. เพื่อเป็นการต่อยอดการแข่งขันศึกมวยไทย "อีซูซุคัพ" ซึ่งถือว่าเป็นศึกมวยไทยที่จัดขึ้นยาวนานที่สุดถึง 20 ปี และเป็นรายการมวยถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ที่ยาวนาน และมีเรตติ้งดีที่สุด
  2. เพื่อให้เป็นที่ประจักษ์ว่า "มวยไทย คือ มรดกทางวัฒนธรรมของไทย" ศิลปะป้องกันตัวประจำชาติไทยที่ควรค่าแก่การประกาศความเป็นเจ้าของ และให้ทั่วโลกยอมรับว่าการแข่งขันมวยไทยที่ดีที่สุดต้องที่เมืองไทยเท่านั้นเพราะมวยไทยถือเป็นสุดยอดศิลปะการต่อสู้ที่สวยงามและอันตรายที่สุดในโลกที่ผสมผสานศาสตร์ และศิลป์ได้อย่างลงตัว บ่งบอกถึงการต่อสู้ที่มีพิษสงรอบตัวของบรรพบุรุษไทยที่ได้นำศิลปะการใช้ส่วนต่างๆ ของร่างกายมาเป็นอาวุธที่ทั้งสวยงาม และอันตราย เพื่อต่อสู้ปกป้องรักษาความเป็นไทย นับเป็นมรดกอันทรงคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ และยั่งยืน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรักษา "มวยไทย" ไว้ให้อยู่คู่กับชาติไทยสืบต่อไป
  3. เพื่อยกระดับการแข่งขันมวยไทยสู่สากลโดยการผสมผสานมวยไทย และความบันเทิงเข้าด้วยกันเป็น Sport Entertainment ที่สร้างสรรค์โดยคนไทยอย่างสมบูรณ์แบบ
โดยกติกาการแข่งขัน คือ
  1. นักมวยไทยที่มีชื่อเสียงจาก 16 ประเทศ ได้แก่ เนเธอร์แลนด์, ฝรั่งเศส, อังกฤษ, รัสเซีย, ออสเตรเลีย, สเปน, เบลเยี่ยม, อิตาลี, เยอรมนี, โมร็อกโก, ตุรกี, อิหร่าน, จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี และประเทศไทย ร่วมแข่งขัน
  2. นักมวยสามารถใช้อาวุธมวยไทยได้ครบเครื่อง ทั้งหมัด เท้า เข่า ศอก ตามหลักกติกามวยไทย และชกเพียง 3 ยกเท่านั้น
  3. การแข่งขันแบ่งเป็นรอบคัดเลือก 2 ครั้ง และรอบชิงชนะเลิศ

- รอบคัดเลือก รอบแรก จาก 16 คน คัดเหลือ 8 คน

- รอบคัดเลือก รอบสอง จาก 8 คน คัดเหลือ 4 คน

- รอบรองชนะเลิศ และชิงชนะเลิศ จาก 4 คน คัดเหลือ 2 คนเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในวันเดียวกัน

โดยสถานที่จัดการแข่งขันรอบคัดเลือก ณ อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก รองรับผู้เข้าชมภายในอาคารได้ถึง 10,000 คน ส่วนรอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ ณ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา ซึ่งสามารถรองรับผู้เข้าชมภายในสนามจำนวน 40,000 คน และถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ในช่วงที่ผ่านมานั่นเอง...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น