คลังบทความของบล็อก

วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ลาวใช้มวยไทยเป็นแนวทางในการพัฒนากีฬามวยให้ถึงระดับโลก

ลาวยกเครื่องกีฬามวยครั้งใหญ่ หลังได้ประธานสมาพันธ์คนใหม่ ใช้ลีลามวยไทยเป็นแนวทางพัฒนาให้ถึงระดับโลก ส่งหัวหน้าค่ายมวยมาดูชั้นเชิงมวยไทยที่กรุงเทพฯ ในเดือนหน้าเพิ่มการอัดฉีด คิดแผนใช้เวทีในประเทศไทย เป็นสังเวียนไต่ระดับ

นายสายสะมอน ไซยะจักวงสี (Saysamone Xayachack-vongsy) ประธานสมาพันธ์มวยลาวคนใหม่ ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า ทางสหพันธ์ฯ จะเพิ่มเงินรางวัลเป็น 1,000,000 กีบ หรือประมาณ 3,800 บาท แก่นักมวยที่ชนะเลิศในมวยคู่เอกของโปรแกรม และ 600,000 กีบ หรือ 2,200 บาท แก่นักมวยที่ตกรอบ ขณะที่ก่อนหน้านี้ นักมวยที่ชนะเลิศของคู่เอกได้รับเงินรางวัลเพียง 300,000 กีบ หรือ ประมาณ 1,100 บาท

สำหรับนักมวยที่ชนะเลิศในคู่รองลงไปจะได้รับ 500,000 กีบ หรือ 1,800 บาท และ 400,000 กีบ หรือราว 1,500 บาทสำหรับผู้ตกรอบ ไม่เพียงเท่านั้นคณะกรรมการจัดการแข่งขันภายใต้การดูแลของประธานสหพันธ์มวยคนใหม่ ยังกำลังวางแผนที่จะเสนอรางวัลพิเศษอีกหลายรางวัลแก่นักมวย อาทิ รางวัลสำหรับนักมวยที่สามารถน็อคคู่ต่อสู้ นักชกดีเด่นประจำวัน และนักมวยที่สามารถชกคู่ต่อสู้จนแตกยับ “เงินรางวัลราว 100,000 กีบ (370 บาท) ในแต่ละแผล” นายสายสะมอนบอกและต่อว่า ส่วนนักชกที่ได้รับบาดเจ็บก็จะได้รับเงินจำนวนเท่ากันเป็นค่ารักษาพยาบาล

นายสายสะมอนได้รับเลือกเป็นประธานสมาพันธ์เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เขาได้ตั้งคณะทำงานใหม่พร้อมแผนงานในการพัฒนาที่จะเริ่มในโปรแกรมการแข่งขันนัดแรกในเดือนหน้า ทีมของเขาจะปฏิบัติหน้าที่เป็นเวลา 4 ปี จากนั้นจึงจะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่

ส่วนหนึ่งของแผนงานคือ การเข้าไปช่วยฝึกนักชกตามค่ายมวยทั่วประเทศ รวมทั้งจะมอบอุปกรณ์สำหรับฝึกและใช้ในระหว่างการแข่งขัน

“แผนงานทั้งหมดที่จะพัฒนามวยลาวขึ้นสู่ระดับโลก จะเริ่มในเดือนกันยายน และประชาชนจะเห็นว่า เราใช้ลีลามวยไทยในการชกทุกรอบของโปรแกรมการแข่งขันที่จะมีขึ้นครั้งแรกในเดือนหน้า” นายสายสะมอนระบุ

อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่า ทางสมาพันธ์มวยลาวไม่ได้มุ่งลอกเลียนแบบมวยไทยทั้งดุ้น แต่จำเป็นต้องตามอย่างมวยไทย เนื่องจากมวยไทยได้รับการยอมรับจากสมาพันธ์มวยสากล อีกทั้งมีการแข่งขันมวยไทยในระดับโลกแล้วด้วย ( Muay Thai World Championship)

สมาพันธ์มวยลาวจะเน้นการผสมผสานมวยลาวกับมวยไทย และใช้กฎกติกาบางอย่างของมวยไทย เพื่อให้นักชกชาวลาวได้รับการยอมรับ และสามารถเข้าแข่งขันชิงแชมป์ในระดับโลกได้

เช่นเดียวกับการแข่งขันมวยสากลทั่วไป มวยลาวจะแบ่งการชกออกเป็นระดับต่างๆ ผู้ชนะเลิศในแต่ละระดับจะได้รับเข็มขัดเป็นเครื่องประกันความสามารถ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การแข่งขันมวยลาว

นักมวยจากประเทศไทย จะได้รับเชิญไปกรุงเวียงจันทน์เพื่อขึ้นชกแข่งขันกับนักมวยลาว ขณะเดียวกันก็จะส่งนักมวยลาวไปแข่งขันบนสนามมวยอาชีพของไทยที่กรุงเทพฯ

นอกจากนี้สมาพันธ์มวยลาวจะพัฒนาการจัดการของหัวหน้าค่ายมวย ด้วยการส่งไปศึกษาค่ายมวยของไทยในเดือนหน้า เพื่อส่งเสริมทักษะการฝึกมวย ตลอดจนกำลังวางแผนจะปรับปรุงสนามโชคชัย (Sokxay Ring) เพื่อให้เป็นสนามมวยอาชีพ โดยจะจัดตั้งสำนักงาน ห้องพักสำหรับนักชกจากต่างจังหวัดและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ

สำหรับประวัติส่วนตัวของนายสายสะมอนนั้น เขาจบการศึกษาจากอดีตสหภาพโซเวียต เมื่อปี 2529 จากนั้นทำงานเป็นข้าราชการเป็นเวลา 10 ปี ก่อนจะเบนเข็มมาเป็นนักธุรกิจหนุ่มในปี 2539 ในตำแหน่งผู้อำนวยการของบริษัท Concrete Factory Km-5 Company บริษัทของเขาบริจาคเงินมากกว่า 150 ล้านกีบ หรือประมาณ 56,000 บาท เพื่อพัฒนาการกีฬาในประเทศลาว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น