คลังบทความของบล็อก

วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ลาวใช้มวยไทยเป็นแนวทางในการพัฒนากีฬามวยให้ถึงระดับโลก

ลาวยกเครื่องกีฬามวยครั้งใหญ่ หลังได้ประธานสมาพันธ์คนใหม่ ใช้ลีลามวยไทยเป็นแนวทางพัฒนาให้ถึงระดับโลก ส่งหัวหน้าค่ายมวยมาดูชั้นเชิงมวยไทยที่กรุงเทพฯ ในเดือนหน้าเพิ่มการอัดฉีด คิดแผนใช้เวทีในประเทศไทย เป็นสังเวียนไต่ระดับ

นายสายสะมอน ไซยะจักวงสี (Saysamone Xayachack-vongsy) ประธานสมาพันธ์มวยลาวคนใหม่ ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า ทางสหพันธ์ฯ จะเพิ่มเงินรางวัลเป็น 1,000,000 กีบ หรือประมาณ 3,800 บาท แก่นักมวยที่ชนะเลิศในมวยคู่เอกของโปรแกรม และ 600,000 กีบ หรือ 2,200 บาท แก่นักมวยที่ตกรอบ ขณะที่ก่อนหน้านี้ นักมวยที่ชนะเลิศของคู่เอกได้รับเงินรางวัลเพียง 300,000 กีบ หรือ ประมาณ 1,100 บาท

สำหรับนักมวยที่ชนะเลิศในคู่รองลงไปจะได้รับ 500,000 กีบ หรือ 1,800 บาท และ 400,000 กีบ หรือราว 1,500 บาทสำหรับผู้ตกรอบ ไม่เพียงเท่านั้นคณะกรรมการจัดการแข่งขันภายใต้การดูแลของประธานสหพันธ์มวยคนใหม่ ยังกำลังวางแผนที่จะเสนอรางวัลพิเศษอีกหลายรางวัลแก่นักมวย อาทิ รางวัลสำหรับนักมวยที่สามารถน็อคคู่ต่อสู้ นักชกดีเด่นประจำวัน และนักมวยที่สามารถชกคู่ต่อสู้จนแตกยับ “เงินรางวัลราว 100,000 กีบ (370 บาท) ในแต่ละแผล” นายสายสะมอนบอกและต่อว่า ส่วนนักชกที่ได้รับบาดเจ็บก็จะได้รับเงินจำนวนเท่ากันเป็นค่ารักษาพยาบาล

นายสายสะมอนได้รับเลือกเป็นประธานสมาพันธ์เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เขาได้ตั้งคณะทำงานใหม่พร้อมแผนงานในการพัฒนาที่จะเริ่มในโปรแกรมการแข่งขันนัดแรกในเดือนหน้า ทีมของเขาจะปฏิบัติหน้าที่เป็นเวลา 4 ปี จากนั้นจึงจะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่

ส่วนหนึ่งของแผนงานคือ การเข้าไปช่วยฝึกนักชกตามค่ายมวยทั่วประเทศ รวมทั้งจะมอบอุปกรณ์สำหรับฝึกและใช้ในระหว่างการแข่งขัน

“แผนงานทั้งหมดที่จะพัฒนามวยลาวขึ้นสู่ระดับโลก จะเริ่มในเดือนกันยายน และประชาชนจะเห็นว่า เราใช้ลีลามวยไทยในการชกทุกรอบของโปรแกรมการแข่งขันที่จะมีขึ้นครั้งแรกในเดือนหน้า” นายสายสะมอนระบุ

อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่า ทางสมาพันธ์มวยลาวไม่ได้มุ่งลอกเลียนแบบมวยไทยทั้งดุ้น แต่จำเป็นต้องตามอย่างมวยไทย เนื่องจากมวยไทยได้รับการยอมรับจากสมาพันธ์มวยสากล อีกทั้งมีการแข่งขันมวยไทยในระดับโลกแล้วด้วย ( Muay Thai World Championship)

สมาพันธ์มวยลาวจะเน้นการผสมผสานมวยลาวกับมวยไทย และใช้กฎกติกาบางอย่างของมวยไทย เพื่อให้นักชกชาวลาวได้รับการยอมรับ และสามารถเข้าแข่งขันชิงแชมป์ในระดับโลกได้

เช่นเดียวกับการแข่งขันมวยสากลทั่วไป มวยลาวจะแบ่งการชกออกเป็นระดับต่างๆ ผู้ชนะเลิศในแต่ละระดับจะได้รับเข็มขัดเป็นเครื่องประกันความสามารถ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การแข่งขันมวยลาว

นักมวยจากประเทศไทย จะได้รับเชิญไปกรุงเวียงจันทน์เพื่อขึ้นชกแข่งขันกับนักมวยลาว ขณะเดียวกันก็จะส่งนักมวยลาวไปแข่งขันบนสนามมวยอาชีพของไทยที่กรุงเทพฯ

นอกจากนี้สมาพันธ์มวยลาวจะพัฒนาการจัดการของหัวหน้าค่ายมวย ด้วยการส่งไปศึกษาค่ายมวยของไทยในเดือนหน้า เพื่อส่งเสริมทักษะการฝึกมวย ตลอดจนกำลังวางแผนจะปรับปรุงสนามโชคชัย (Sokxay Ring) เพื่อให้เป็นสนามมวยอาชีพ โดยจะจัดตั้งสำนักงาน ห้องพักสำหรับนักชกจากต่างจังหวัดและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ

สำหรับประวัติส่วนตัวของนายสายสะมอนนั้น เขาจบการศึกษาจากอดีตสหภาพโซเวียต เมื่อปี 2529 จากนั้นทำงานเป็นข้าราชการเป็นเวลา 10 ปี ก่อนจะเบนเข็มมาเป็นนักธุรกิจหนุ่มในปี 2539 ในตำแหน่งผู้อำนวยการของบริษัท Concrete Factory Km-5 Company บริษัทของเขาบริจาคเงินมากกว่า 150 ล้านกีบ หรือประมาณ 56,000 บาท เพื่อพัฒนาการกีฬาในประเทศลาว

วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ฝรั่งดูถูกมวยไทย วุฒิ-นันทวุฒิ ถีบไม่ยั้ง ใน 5 หัวใจฮีโร่

“วุธ” ถีบจริงเจ็บจริง สู้ได้ไม่เกี่ยงไซส์ เปิดตัวฉากแรกล้มยักษ์ฝรั่ง โชว์ความเก่งและแกร่ง ไม่มีแสดงแทน เตะ ต่อย ถีบสูง เข่าลอย ครบเครื่องคิวบู๊

เป็นฉากเปิดตัวฝีไม้ลายมวยเด็ดๆ ของ “นันทวุฒิ บุญรับทรัพย์” ในเรื่อง “5 หัวใจฮีโร่” (Power Kids) กับ “ลูกถีบล้มยักษ์” ที่ออกลีลาถีบไม่ยั้งเมื่อฝรั่งขี้เมาตัวใหญ่ยักษ์มาพูดจาดูถูกศิลปะแม่ไม้มวยไทย เจอพลังลูกถีบมหาประลัยล้มยักษ์เข้าไปจังๆ ให้มันรู้ว่ามาหยามเด็กหัวใจแกร่งไม่ได้

ฉากนี้ทีมงานเซ็ตโลเกชั่นในซอยสีคาม ย่านสามเสน ให้เป็นบ้านมวยของครูเล็ก (อรุณ ภาวิไล) ที่เป็นที่อยู่และที่ฝึกความแข็งแกร่งด้านแม่ไม้มวยไทยของแก๊ง “5 หัวใจฮีโร่” โดยเฉพาะ วุธ-นันทวุฒิ ที่ต้องถีบจริงเจ็บจริงเหนื่อยกว่าใครเพื่อน ฉากนี้เป็นฉากแรกๆ ของเรื่องที่บอกให้รู้ว่า ถึงเป็นเด็ก เราก็ประมาทไม่ได้ เพราะเด็กแก๊งนี้สู้ได้ไม่เกี่ยงไซส์จริงๆ

ผู้กำกับ “โหน่ง กฤษณพงศ์ ราชธา” พูดถึงเบื้องหลังฉากนี้ว่า “คือในฉากนี้จะมีคนญี่ปุ่นมาขอฝึกมวยไทยแล้วก็จะมีฝรั่งขี้เมาคนนึงดูถูกว่ามวยไทยมาเรียนทำไมไม่เห็นมีประโยชน์ก็ทำให้เด็กโมโหจนมีการต่อสู้กันขึ้นในบ้านมวยไทยที่อยู่ริมน้ำ ฉากนี้จะเป็นฉากแรกเลยครับที่เปิดตัวให้เห็นถึงความเก่งและแกร่งของวุฒิและแคทที่ต้องออกแอ็คชั่นมากกว่าเด็กคนอื่นๆ โดยเฉพาะตัวน้องวุฒิเองที่ต้องหนักที่สุด

เพราะต้องแอ็คชั่นสู้จริงถีบจริงกับฝรั่งในเรื่องตัวใหญ่มากตั้ง 2 เมตรนะครับ เทียบกันกับวุฒิที่สูงแค่เกือบหน้าอก ไซส์มันก็ต่างกันมากนะครับ ซึ่งผมก็ต้องซ้อมเด็กๆ อยู่ค่อนวันนะครับ เพราะต้องดีไซน์ท่าต่อสู้ที่มีทั้งเตะต่อย ถีบสูง เข่าลอยด้วย มีการใช้อุปกรณ์ช่วยอย่างเชือกกระโดด มีทั้งเลอะแป้งอีก ก็ยากอยู่พอตัวเลยครับกว่าจะผ่านไปได้แต่ละคัท ก็รู้สึกพอใจมากๆ กับซีนนี้ที่จะได้เห็นว่าเด็กมีฝีมือจริงๆ เล่นเองจริงๆ จนคนดูอาจจะเผลอตัวเชียร์เด็กๆ ด้วยความสนุกไปด้วยก็ได้ครับ”

ด้านนักบู๊รุ่นเล็กของเราก็ได้เผยถึงการแสดงในฉากนี้ว่า “เหนื่อยมากครับ ตอนนี้นึกถึงก็ยังเหนื่อยอยู่เลยครับ เพราะทีมงานนัดกองตั้งแต่เช้าเพื่อให้ผมมาเตรียมความพร้อม มาซ้อมแอ็คชั่นจริงๆ ในเซ็ต ก็ได้ลองอยู่หลายท่ามากครับ กว่าจะลงตัวอย่างที่เห็นในฉาก ที่เด่นๆ ก็คงจะเป็นท่าถีบยันหน้าฝรั่งและก็เข่าลอยเข้าที่ยอดอกครับ ก็เป็นฉากที่สนุกด้วยและยากมากด้วยฉากหนึ่งเลยครับ

จริงๆ แอ็คชั่นเรื่องนี้ยากทุกฉากแหละครับฉากนี้ผมต้องเล่นกับฝรั่งตัวยักษ์มากครับ แค่แหงนหน้ามองก็เหนื่อยแล้วครับ นี่ต้องมาแอ็คชั่นกับเค้าด้วยยิ่งยากไปกันใหญ่ อาโหน่งผู้กำกับเค้าก็ไม่ได้เร่งหรือกดดันนะครับ แต่จะคอยมาซ้อมคอยแนะนำอยู่ด้วยตลอดการถ่ายทั้งวันเลยครับ จริงๆ ถ่ายไม่หลายเทคนะครับเพราะเราซ้อมกันมาค่อนข้างดีแต่ที่นานเพราะต้องถ่ายหลายๆ มุมเพื่อให้ภาพออกมาสวยและสมจริงมากกว่าครับ ฉากนี้ก็มีแคทมาช่วยบู๊อยู่ข้างๆ ด้วยครับ ก็ต้องกะจังหวะให้ดีๆ ไม่งั้นพลาดขึ้นมาก็จะเจ็บได้ครับ แต่ก็มีกระเด็นมีล้มมีเจ็บบ้างนิดหน่อยครับ รวมๆ แล้วก็เป็นฉากเปิดตัวของวุฒิที่สนุกมากครับ อยากให้มาดูกันนะครับ”

เตรียมชมฉากลูกถีบไร้ปราณีนี้ได้ในภาพยนตร์แอ็คชั่นเด็กหัวใจแกร่ง “5 หัวใจฮีโร่” พร้อมท้าพิสูจน์ความมันส์เต็มตา 5 มีนาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์

ยลลีลา "เบร์ดาสโก" โชว์มวยไทย

มาชมภาพลีลาการออกอาวุธของ เฟร์นานโด เบร์ดาสโก นักเทนนิสมือ 8 ของโลก ในการฝึกซ้อมชกมวยไทย โดยมี สมจิตร จงจอหอ ยอดนักชกขวัญใจชาวไทย เป็นผู้ฝึกสอน ซึ่งในกิจกรรมนี้มี "ซุปเปอร์บอล" ภราดร ศรีชาพันธ์ มาร่วมแจมภายในงานด้วย
เมื่อวันพุธที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา เมื่อเวลา 15.30 น. ณ บริเวณลานชั้น 1 ของ อิมแพค อารีนา เมืองทองธานี เฟร์นานโด เบร์ดาสโก มือวางอันดับ 2 ของรายการ "ไทยแลนด์ โอเพน 2010" ชาวสเปน ได้ร่วมทำกิจกรรมพิเศษในการฝึกซ้อมศิลปะแม่ไม้มวยไทย กับ สมจิตร จงจอหอ ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิคมวยสากลสมัครเล่นชาวไทย

โดยบรรยากาศภายในงาน มีทั้งสื่อมวลชน และประชาชนให้ความสนใจเข้าชมกันอย่างคับคั่ง ซึ่ง มือวางอันดับ 2 ของรายการ "ไทยแลนด์ โอเพน" ได้โชว์ศิลปะประจำชาติไทยได้อย่างงดงาม โดยมีโชว์การออกอาวุธมวยไทยทั้ง เข่า ศอก และวิธีถีบ นอกจากนั้นยังมีแขกรับเชิญสุดพิเศษ อย่าง ภราดร ศรีชาพันธ์ มาร่วมทำกิจกรรมการฝึกซ้อมมวยไทยในครั้งนี้ด้วย

"ชอบดูกีฬามาร์เทียล อาร์ต มาก ผมเลยสนใจกีฬาชนิดมากเป็นพิเศษ อทิเช่น คิกบ็อกซิง และ มวยไทย ผมเคยดูหนังเรื่อง องค์บาก ของประเทศไทยมันเป็นหนังที่สนุกมากๆ ซึ่งเป็นแรงจูงใจสำคัญทำให้ผมสนใจในกีฬามวยไทย ผมคิดหากมีโอกาสผมก็อยากจะกลับมาฝึกมวยไทยเพิ่มเติมอีก เพราะตอนนี้ผมชอบมันมากๆ" เบร์ดาสโก ยอดนักหวดชาวสเปน ให้สัมภาษณ์ภายในงาน

ขณะที่ สมจิตร จงจอหอ กล่าวกับผู้สื่อข่าว MGR SPORT ถึงการมาฝึกฝนมวยไทยของ เฟร์นานโด เบร์ดาสโก ว่า "อย่างแรกเลย ผมรู้สึกประทับใจมากๆ ที่มีนักเทนนิสระดับโลกมาให้ความสนใจในศิลปะแม่ไม้มวยไทยของเรา ซึ่งเป็นศิลปะประจำชาติไทย นับเป็นเรื่องที่ดีมากๆ โดยภาพออกไปสู่สายตาประชาคมโลก จะแสดงให้เห็นได้เป็นอย่างดีว่า มวยไทย ของเรา เป็นศิลปะการต่อสู้ที่อันตรายที่สุดในโลก และยังเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยของเราได้เป็นอย่างดี"

ส่วน "ซุเปอร์บอล" ภราดร ศรีชาพันธ์ อดีตนักหวดลูกสักหลาด มือ 1 ชาวไทย ได้ทิ้งท้ายว่า "เบร์ดาสโก ถือเป็นนักเทนนิสที่นิสัยดีมากๆ เรารู้จักกันมานานแล้ว สมัยที่ผมยังลงเล่นทัวร์นาเมนต์อยู่ ซึ่งในรายการนี้ผมคิดว่าเขามีลุ้นมากเลยทีเดียว"

วันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

'ศศิธารา' เดินหน้ารวม 2 มวยไทยเป็นหนึ่ง

ดร.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าทาง ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ นายกสมาคมมวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ได้แจ้งมาว่าจะต้องเร่งรวมสมาคมมวยไทย จาก 2 สมาคม คือ สมาคมมวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย และสมาคมมวยไทยแห่งประเทศไทย ที่มี นายสันติภาพ อินทรพัฒน์ เป็นนายกสมาคมฯ ให้เป็นสมาคมเดียว ก่อนจะเสนอให้สมัชชาสหพันธ์กีฬานานาชาติ (ไกส์ฟ) ได้รับรองภายในเดือน ธ.ค.นี้ ไม่เช่นนั้นมวยไทย จะหมดสิทธิแข่งขันในกีฬาต่างๆ เช่น ซีเกมส์ หรือมหกรรมกีฬาที่จัดโดยสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ)

สำหรับเรื่องนี้ได้มีการหารือกับ นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และในการเดินทางไปประชุมด้านการท่องเที่ยวที่ฝรั่งเศส ในช่วงเดือน ธ.ค.นี้ จะมีการหารือกับ นายไฮน์ เวอร์บรูเกน ประธานไกส์ฟ เพื่อขอข้อมูลด้วย ขณะเดียวกัน นายสันติภาพ ก็ได้โทรศัพท์มาหาพร้อมกับแจ้งว่า ตามข้อเท็จจริงการที่จะมีกีฬามวยไทย แข่งขันในมหกรรมกีฬาต่างๆ ไกส์ฟ ไม่มีสิทธิมาเกี่ยวข้อง ซึ่งตนรับทราบข้อมูลเบื้องต้น แต่ก็ต้องศึกษาเอกสารจากทั้ง 2 ฝ่าย อย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมกับจะหารือกับนายสันติภาพในเร็วๆ นี้ด้วย

ดร.ศศิธารา กล่าวต่อว่านโยบายของรัฐมนตรีกีฬา คือ ต้องการให้มวยไทยรวมเป็น 1 สมาคม ให้ได้ พร้อมมอบหมายให้ตนไปเจรจากับนายกสมาคมฯ ทั้ง 2 ท่าน ส่วนตัวมองว่าต่างฝ่ายต่างก็ตั้งใจทำงานเพื่อกีฬามวยไทย นายสันติภาพ ก็ช่วยงานมากในมหกรรมกีฬาต่างๆ ส่วน ดร.ศักดิ์ชาย ก็เป็นบุคคลที่กว้างขวางในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะกับไกส์ฟเชื่อว่าทั้ง 2 คน ไม่มีอะไรขัดแย้งกัน เพียงแต่ว่าต่างก็ทำงานในมุมของตนเองมานานและต่างฝ่ายก็มีบารมี ซึ่งต้องยอมรับว่าถ้าจะเอาผู้มีบารมี 2 คน มารวมกันก็คงไม่ง่าย

“อย่างไรก็ตาม การจะรวมสมาคมมวยไทยเข้าด้วยกัน ทั้ง 2 ฝ่าย ถือเป็นเรื่องที่ดีของวงการกีฬาไทยที่ทุกคนอยากเห็น และทั้งนายสันติภาพและ ดร.ศักดิ์ชาย น่าจะยินดี ทั้งนี้ก็เพื่อความเป็นเอกภาพของมวยไทย ส่วนกรณีที่ว่าใครจะมาเป็นนายกสมาคมฯ ส่วนตัวมองว่าสามารถทำได้ใน 2 แนวทาง คือ 1.ดร.ศักดิ์ชาย กับนายสันติภาพ ตกลงสลับกันเป็น หรือ 2.หาคนกลางมาเป็น” ดร.ศศิธารา กล่าว

กษัตริย์จอร์แดนเสด็จเยือนค่ายมวย

สมเด็จพระราชาธิบดี อับดุลเลาะห์ บิน อัลดุลเลาะห์ กษัตริย์แห่งจอร์แดน โปรดกีฬามวยไทยเป็นกรณีพิเศษ เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ เยี่ยมค่ายมวยไทย ป.เปาอินทร์ จรัลสนิทวงศ์ 31 พร้อมพระอนุชาและพระราชโอรส ทอดพระเนตรนักมวยไทยโชว์แม่ไม้มวยไทยชุดใหญ่ พร้อมทอดพระเนตรนักมวยหญิงต่างชาติซ้อมมวยไทยโชว์ เมื่อเย็นวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา

กษัตริย์อับดุลลาห์ที่ 2 แห่งจอร์แดน เสด็จเยือนประเทศไทยโดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทยถวายการต้อนรับ เมื่อเวลา 17.30 น.ของวันอังคารที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระราชาธิบดี อับดุลลาห์ บิน อัลอุสเซ็นที่ 2 กษัตริย์แห่งประเทศจอร์แดน พร้อมด้วย เจ้าชาย อุสเซ็น อัลดุลลาห์ที่ 3 พระราชโอรส, เจ้าชาย ฮาชิม บิน อัลดุสเซน พร้อมด้วยเจ้าชาย อาลี บิน อันฮุสเซน พระอนุชา และคณะเจ้าหน้าที่ราชองครักษ์ เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ มายังค่ายมวยไทย ป.เปาอินทร์ ของพล.ต.ต.ประจวบ เปาอินทร์ ภายในซอยจรัลสนิทวงศ์ 31 เพื่อทอดพระเนตรกีฬามวยไทยเป็นการส่วนพระองค์ โดยมี พล.ต.ต.ประจวบ เปาอินทร์ ถวายการต้อนรับ

หลังเสด็จพระราชดำเนินถึง กษัตริย์จอร์แดน ทอดพระเนตรการสาธิตแม่ไม้มวยไทยซึ่งจัดแสดงถวายโดยนักมวยในค่าย ป.เปาอินทร์ โดยทรงให้ความสนพระทัยเป็นพิเศษ เกี่ยวกับแม่ไม้เช่น จระเข้ฟาดหาง และ แม้ไม้ท่าต่าง โดยมี พล.ต.ต. ประจวบ ถวยคำอธิบายผ่านเจ้าหน้าที่แปลภาษา จากนั้นจึงทอดพระเนตร การสาธิตวิธีซ้อมมวยไทยของนักมวยไทยหญิงจากต่างประเทศ ที่ได้โชว์การเตะกระสอบ, ต่อยเป้า เตะเป้า ที่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของกีฬามวยไทย ก่อนจะเสด็จพระราชดำเนินกลับ โดย พล.ต.ต. ประจวบ ได้ถวาย ชุดอุปกรณ์มวยไทย เช่น มงคลคาดศรีษะ ผ้าประเจียด พร้อมถวายคำอธิบายถึงอุปรกณ์ต่างๆ และถวายรูปปั้นนายขนมต้มด้วย

พ.ต.ต.ประจวบ เปาอินทร์ กล่าวว่า "นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นพ้น ที่ตนได้มีโอกาสต้อนรับการเสร็จพระราชดำเนินอย่างใกล้ชิด พระเจ้าอยู่หัวแห่งจอร์แดนสนพระทัยมวยไทยเป็นอย่างมาก พร้อมมีรับสั่งว่าจะนำโค้ชมวยไทยไปเปิดการฝึกสอนที่จอร์แดนในอนาคตด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องดีอย่างยิ่ง ในการเผยแพร่มวยไทย สู่ประเทศในแถบเอเชียกลาง ตนพยายามถวายคำอธิบายอย่างดีที่สุด เพื่อให้ทรงทราบในรายละเอียดอย่างครบถ้วน สำหรับตนแล้วคิดว่าหากมวยไทยสามารถถูกเผยแพร่ไปในประเทศแถบเอเชียกลางได้ จะอนาคตที่สนใจของมวยไทยอย่างแน่นอน"

หลักสูตร 'มวยไทย' ใกล้บรรจุ สพฐ.แล้ว

นายนิโรธ สุนทรเลขา ประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและกีฬา สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.สส.กีฬา) เป็นประธานประชุมคณะกรรมการฯ ที่อาคารรัฐสภา 3 เมื่อ 12 พ.ค. สรุปสาระสำคัญ คือ ที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าการบรรจุวิชา “มวยไทย” เป็นหลักสูตรการศึกษา โดยมีผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ (สพก.) ร่วมหารืออย่างพร้อมเพรียง

ผู้แทน สพก.แจ้งว่าหลักสูตร “ศิลปะมวยไทย” เดินหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยหลักสูตรในระดับประถมศึกษา (ขั้นพื้นฐาน) ระดับมัธยมศึกษา (ขั้นกลาง) จนถึงระดับอุดมศึกษา (ขั้นสูง) ระดับชั้นอย่างน้อย 18 ชั่วโมง หรือคาบต่อปี ซึ่งวัตถุประสงค์ของหลักสูตรศิลปะมวยไทย คือ ต้องการให้เรียนรู้ถึงประวัติศาสตร์มวยไทย เข้าถึงประโยชน์และคุณค่าตลอดจนรู้จักระเบียบประเพณีวัฒนธรรมการเรียนและการฝึกศิลปะมวยไทย นำศิลปะมวยไทยไปใช้ในการออกกำลังกาย พร้อมทั้งเป็นการป้องกันตัวอย่างถูกต้อง รวมทั้งให้ตระหนักถึงความสำคัญและอนุรักษ์ศิลปะมวยไทย ทั้งนี้ สพฐ.จะจัดกิจกรรมมหกรรมกีฬาไทยโดยมีกีฬาตะกร้อและมวยไทย เป็นกีฬาหลักขึ้นในทุกภูมิภาค เริ่มตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย. ต่อเนื่องไปจนกระทั่งเดือน ส.ค. นอกจากนี้จะจัดการแข่งขันระดับชิงแชมป์ประเทศไทย ขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมา อีกด้วย

นายนิโรธ กล่าวว่าหลักสูตรศิลปะมวยไทย ในเวลานี้ถือว่าสมบูรณ์แล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ การอบรมบุคลากรครูต้นแบบมวยไทย หรือที่เรียกว่า “ครูแม่ไก่” 185 เขตการศึกษา หลังจากนั้น สพฐ. จะส่งหนังสือเวียนขอความร่วมมือให้สถาบันต่างๆ เพื่อส่งเสริมศิลปะมวยไทย เป็นกิจกรรมในการเรียนการสอนต่อไป ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับจากสถาบันต่างๆ ก่อนจะผลักดันเข้าเป็นหลักสูตรอย่างเต็มรูปแบบในอนาคตต่อไป

วันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

14 ประเทศร่วมชิงชัย มวยไทยแชมป์เอเชีย เตรียมดันสู่อินเตอร์

ส.มวยไทย สมัครเล่นฯ - ศึกมวยไทยชิงแชมป์เอเชียครั้งที่ 2 ชิงถ้วยสมเด็จพระบรมฯ หลายชาติมี2-3 ทีมแย่งส่งเข้าแข่งต้องพิจารณาองค์กรที่คุณสมบัติถูกต้อง เตรียมหาแนวร่วมผลักดันสู่กีฬาอินเตอร์อย่างชัดเจน เผย 14 ชาติยันร่วมวงแน่ "บิ๊กเหวียง" ประธานเปิด ช่อง 11 ยิงสดทั้งปิดและเปิด

นายขจร พราวศรี เลขาธิการสมาคมมวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การแข่งขันมวยไทยสมัครเล่นชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 2 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมารฯ ระหว่างวันที่ 19-23 พฤศจิกายนนี้ ที่โรงเรียนมวยไทยรังสิต ปรากฏว่ามีหลายชาติไม่ว่าจะเป็น อิหร่าน, ฟิลิปปินส์ ฯลฯ แจ้งความจำนงเข้าร่วมแข่งขันถึง 2-3 องค์กร

แสดงให้เห็นว่ากีฬามวยไทยเริ่มได้รับความนิยมแพร่หลายในนานาชาติ อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการหารือเพื่อให้องค์กรมวยไทยสมัครเล่นแต่ละชาติ ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการโอลิมปิกชาตินั้นๆ ให้เป็นเอกภาพ และชัดเจนในการร่วมกิจกรรม เพื่อเป็นแนวร่วมในการผลักดันกีฬามวยไทยสู่การแข่งขันระดับนานาชาติต่อไป ทั้งนี้องค์กรที่จะร่วมแข่งขันครั้งนี้ ทางสมาคมฯ ได้พิจารณาจากการสมัครเป็นสมาชิกของสหพันธ์มวยไทยแห่งเอเชีย

ทางด้านนายสมเกียรติ ตันทัตสวัสดิ์ กรรมการฝ่ายต่างประเทศสมาคมมวยไทยสมัครเล่นฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ 14 ชาติที่เข้าร่วมการแข่งขันมวยไทยสมัครเล่นชิงแชมป์เอเชีย ได้แจ้งยืนยันการเดินทางและจำนวนนักมวยแล้วดังนี้ กัมพูชา 6 คน, ฮ่องกง 3 คน, มาเก๊า 3 คน, อิหร่าน 10 คน, เวียดนาม 9 คน, อินเดีย 9 คน, อุซเบกิสถาน 11 คน, เติร์กเมนิสถาน 6 คน, พม่า 7 คน, ฟิลิปปินส์7 คน, เกาหลี 7 คน, ญี่ปุ่น 7 คน, มาเลเชีย 7 คน

ขณะที่ประเทศไทยได้ทีมยะลาแชมป์เก่าส่งเข้าแข่งขัน13 คน สำหรับคาซัคสถาน และทาร์จิกิสถาน ยังไม่แจ้งเข้าร่วมการแข่งขัน ทั้งนี้พิธีเปิดในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ พลเอกเชษฐา ฐานะจาโร ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานเปิด โดยช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์จะถ่ายทอดสดทั้งพิธีเปิดและปิด ตั้งแต่เวลา 16.30-18.30 น.

ลาวใช้มวยไทยเป็นแนวทางในการพัฒนากีฬามวยให้ถึงระดับโลก

ลาวยกเครื่องกีฬามวยครั้งใหญ่ หลังได้ประธานสมาพันธ์คนใหม่ ใช้ลีลามวยไทยเป็นแนวทางพัฒนาให้ถึงระดับโลก ส่งหัวหน้าค่ายมวยมาดูชั้นเชิงมวยไทยที่กรุงเทพฯ ในเดือนหน้าเพิ่มการอัดฉีด คิดแผนใช้เวทีในประเทศไทย เป็นสังเวียนไต่ระดับ

นายสายสะมอน ไซยะจักวงสี (Saysamone Xayachack-vongsy) ประธานสมาพันธ์มวยลาวคนใหม่ ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า ทางสหพันธ์ฯ จะเพิ่มเงินรางวัลเป็น 1,000,000 กีบ หรือประมาณ 3,800 บาท แก่นักมวยที่ชนะเลิศในมวยคู่เอกของโปรแกรม และ 600,000 กีบ หรือ 2,200 บาท แก่นักมวยที่ตกรอบ ขณะที่ก่อนหน้านี้ นักมวยที่ชนะเลิศของคู่เอกได้รับเงินรางวัลเพียง 300,000 กีบ หรือ ประมาณ 1,100 บาท

สำหรับนักมวยที่ชนะเลิศในคู่รองลงไปจะได้รับ 500,000 กีบ หรือ 1,800 บาท และ 400,000 กีบ หรือราว 1,500 บาทสำหรับผู้ตกรอบ ไม่เพียงเท่านั้นคณะกรรมการจัดการแข่งขันภายใต้การดูแลของประธานสหพันธ์มวยคนใหม่ ยังกำลังวางแผนที่จะเสนอรางวัลพิเศษอีกหลายรางวัลแก่นักมวย อาทิ รางวัลสำหรับนักมวยที่สามารถน็อคคู่ต่อสู้ นักชกดีเด่นประจำวัน และนักมวยที่สามารถชกคู่ต่อสู้จนแตกยับ “เงินรางวัลราว 100,000 กีบ (370 บาท) ในแต่ละแผล” นายสายสะมอนบอกและต่อว่า ส่วนนักชกที่ได้รับบาดเจ็บก็จะได้รับเงินจำนวนเท่ากันเป็นค่ารักษาพยาบาล

นายสายสะมอนได้รับเลือกเป็นประธานสมาพันธ์เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เขาได้ตั้งคณะทำงานใหม่พร้อมแผนงานในการพัฒนาที่จะเริ่มในโปรแกรมการแข่งขันนัดแรกในเดือนหน้า ทีมของเขาจะปฏิบัติหน้าที่เป็นเวลา 4 ปี จากนั้นจึงจะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่

ส่วนหนึ่งของแผนงานคือ การเข้าไปช่วยฝึกนักชกตามค่ายมวยทั่วประเทศ รวมทั้งจะมอบอุปกรณ์สำหรับฝึกและใช้ในระหว่างการแข่งขัน

“แผนงานทั้งหมดที่จะพัฒนามวยลาวขึ้นสู่ระดับโลก จะเริ่มในเดือนกันยายน และประชาชนจะเห็นว่า เราใช้ลีลามวยไทยในการชกทุกรอบของโปรแกรมการแข่งขันที่จะมีขึ้นครั้งแรกในเดือนหน้า” นายสายสะมอนระบุ

อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่า ทางสมาพันธ์มวยลาวไม่ได้มุ่งลอกเลียนแบบมวยไทยทั้งดุ้น แต่จำเป็นต้องตามอย่างมวยไทย เนื่องจากมวยไทยได้รับการยอมรับจากสมาพันธ์มวยสากล อีกทั้งมีการแข่งขันมวยไทยในระดับโลกแล้วด้วย ( Muay Thai World Championship)

สมาพันธ์มวยลาวจะเน้นการผสมผสานมวยลาวกับมวยไทย และใช้กฎกติกาบางอย่างของมวยไทย เพื่อให้นักชกชาวลาวได้รับการยอมรับ และสามารถเข้าแข่งขันชิงแชมป์ในระดับโลกได้

เช่นเดียวกับการแข่งขันมวยสากลทั่วไป มวยลาวจะแบ่งการชกออกเป็นระดับต่างๆ ผู้ชนะเลิศในแต่ละระดับจะได้รับเข็มขัดเป็นเครื่องประกันความสามารถ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การแข่งขันมวยลาว

นักมวยจากประเทศไทย จะได้รับเชิญไปกรุงเวียงจันทน์เพื่อขึ้นชกแข่งขันกับนักมวยลาว ขณะเดียวกันก็จะส่งนักมวยลาวไปแข่งขันบนสนามมวยอาชีพของไทยที่กรุงเทพฯ

นอกจากนี้สมาพันธ์มวยลาวจะพัฒนาการจัดการของหัวหน้าค่ายมวย ด้วยการส่งไปศึกษาค่ายมวยของไทยในเดือนหน้า เพื่อส่งเสริมทักษะการฝึกมวย ตลอดจนกำลังวางแผนจะปรับปรุงสนามโชคชัย (Sokxay Ring) เพื่อให้เป็นสนามมวยอาชีพ โดยจะจัดตั้งสำนักงาน ห้องพักสำหรับนักชกจากต่างจังหวัดและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ

สำหรับประวัติส่วนตัวของนายสายสะมอนนั้น เขาจบการศึกษาจากอดีตสหภาพโซเวียต เมื่อปี 2529 จากนั้นทำงานเป็นข้าราชการเป็นเวลา 10 ปี ก่อนจะเบนเข็มมาเป็นนักธุรกิจหนุ่มในปี 2539 ในตำแหน่งผู้อำนวยการของบริษัท Concrete Factory Km-5 Company บริษัทของเขาบริจาคเงินมากกว่า 150 ล้านกีบ หรือประมาณ 56,000 บาท เพื่อพัฒนาการกีฬาในประเทศลาว

วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

แพร่มวยไทยเช่นเทควันโด

คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติมีมติเอกฉันท์ขึ้นทะเบียนศิลปะมวยไทยต้นตำรับเป็นมรดกทางวัฒนธรรม รวบรวมข้อมูลที่ถูกต้องไว้พร้อมแล้ว คาดจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ไม่แพ้เทควันโดของเกาหลี จัดพิธีประกาศ 30 ก.ค.

นายสมชาย เสียงหลาย เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) กระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า จากการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงานขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาท้องถิ่นทางวัฒนธรรม ได้มีการหยิบยกประเด็นการพิจารณาศิลปะมวยไทยเพื่อรับรองการประกาศขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม โดยมีข้อสรุปว่า ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ในการประกาศขึ้นทะเบียนศิลปะมวยไทยเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม

ทั้งนี้ ได้กำหนดให้มวยไทยที่จะขึ้นทะเบียน หมายความเฉพาะศิลปะมวยไทยที่ได้มีการสืบสานอย่างต่อเนื่องและยาวนาน มิใช่มวยไทยที่เป็นกีฬาแข่งขัน

นายสมชายกล่าวว่า ที่ประชุมยังมีมติเห็นด้วยในการจะจัดทำตำรับมวยไทยแห่งชาติขึ้น เพื่อเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลองค์ความรู้เกี่ยวกับมวยไทยไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เบื้องต้นได้เก็บรวบรวมไว้เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังเห็นว่าศิลปะมวยไทยมีความสำคัญและจำเป็นที่จะต้องมีการจัดลำดับขั้นของศิลปะมวยไทยไว้อย่างเป็นระบบ เพื่อใช้ในการเตรียมการสอนภายในประเทศ และสำหรับใช้ในการสอนชาวต่างชาติที่สนใจและชื่นชอบศิลปะมวยไทยเป็นจำนวนมาก โดยมีท่วงท่าในศิลปะที่ถูกต้อง เหมาะสม ไม่ผิดเพี้ยน

"หากดำเนินการสำเร็จลุล่วงแล้วก็จะสามารถสร้างมูลค่าตามแนวเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เหมือนกับเทควันโดของประเทศเกาหลีที่สร้างมูลค่าให้แก่ประเทศ" นายสมชายกล่าว

เลขาธิการ กวช.กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) จะจัดพิธีการประกาศขึ้นทะเบียนศิลปะมวยไทย พร้อมกับรายการอื่นๆ รวม 21 รายการ ในวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ ที่หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

สื่อเทศตีข่าวไทสันมีสิทธิ์มาชกมวยไทย

สื่อนอกตีข่าว ไมค์ ไทสัน อดีตยอดกำปั้นรุ่นยักษ์ชาวมะกัน มีโอกาสมาเป็นลูกหลานนายขนมต้ม หลังสภามวยไทยโลกกำลังเดินหน้าดึงมาแดนสยามเพื่อเรียนรู้การชกมวยไทย หวังสอนเจ้า "มฤตยูดำ" ให้รับรู้ประเพณีไหว้ครู, พาเข้าวัดเพื่อกล่อมจิตใจ ตลอดจนให้ความเคารพคู่ต่อสู้เมื่ออยู่บนเวทีผ้าใบอีกด้วย

ไมค์ ไทสัน อดีตแชมป์โลกชาวอเมริกัน อาจขึ้นสังเวียนเปลี่ยนแนวไปชกมวยไทย "เอเอฟพี" สำนักข่าวต่างประเทศชื่อดัง รายงานข่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม ที่ผ่านมาว่า สภามวยไทยโลก ต้องการดึง "มฤตยูดำ" ไมค์ ไทสัน อดีตแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวต 3 สถาบัน ชาวอเมริกัน เดินทางมาประเทศไทย และเรียนรู้การชกมวยไทยต่อไป

รายงานข่าวระบุว่า สภามวยไทยโลกซึ่งก่อตั้งเพื่อส่งเสริมมวยไทยและจัดการชกไปทั่วโลกนั้น กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับตัวแทนของ ไทสัน และจะเดินทางไปยังลาสเวกัส, รัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันพฤหัสบดีหน้าเพื่อพูดคุยกับเจ้า "มฤตยูดำ" ในเรื่องนี้

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสภามวยไทยโลกรายหนึ่งซึ่งมีส่วนร่วมในการเจรจาด้วยนั้น เผยว่า "เขา (ไทสัน) ชอบมวยไทย เขาพร้อมที่จะทำให้เกิดการเจรจา ในกรณีที่เรื่องนี้ประสบความสำเร็จล่ะก็ เขาจำเป็นจะต้องใช้เวลาอยู่เมืองไทยสักระยะ ไม่ใช่เพียงแค่เรียนรู้มวยไทยเท่านั้น แต่ยังต้องแสดงให้เห็นถึงความเคารพประเพณีและวัฒนธรรมไปพร้อมๆ กันด้วย"

"เขาจะได้รับการต้อนรับอย่างดีในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม เขาจะต้องเรียนรู้การถ่อมตัว ความนับถือ และการส่งเสริมประเพณีของมวยไทย เราจะสอนเขาให้รับรู้ถึงประเพณีการไหว้ครู, พาเขาไปวัดเพื่อชำระจิตใจ และยังจะสอนเขาให้รับรู้ถึงการแสดงความเคารพคู่ต่อสู้เมื่ออยู่บนสังเวียนการชกอีกด้วย" แหล่งข่าววงใน ระบุ

ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์ "วอชิงตัน โพสต์" ของเมืองลุงแซม ได้เปิดเผยว่า เจ้า "มฤตยูดำ" ซึ่งหยุดชกไปตั้งแต่ได้รับบาดเจ็บเอ็นหัวเข่าฉีกในไฟต์ที่พ่ายน็อกเอาต์ แดนนี่ วิลเลี่ยมส์ นักมวยชาวอังกฤษ ในยกที่ 4 ของการชกอุ่นเครื่อง เมื่อเดือนกรกฎาคมปีก่อนนั้น มีโอกาสที่จะกลับมาขึ้นสังเวียนผ้าใบอีกครั้งในวันที่ 25 มิ.ย. นี้ หรือก่อนวันเกิดครบรอบ 39 ปีของตนเองเพียงแค่ 5 วันเท่านั้น

เชลลี่ ฟิงเคิ่ล ผู้จัดการของ ไทสัน ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวว่า ยังไม่ได้กำหนดเวลาและคู่ต่อสู้ที่จะขึ้นชกกับอดีตแชมป์โลก 3 สถาบันแต่อย่างใด กระนั้นก็ตาม วันเสาร์ที่ 25 มิ.ย. นี้ เป็นช่วงเวลาที่สถานที่ชกในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ว่างพอดี ทำให้คาดหวังว่าน่าจะมีการชกในช่วงเวลาดังกล่าว

กวช.เล็งขึ้นทะเบียนแม่ไม้ “มวยไทย” หวั่นต่างชาติทำเพี้ยน

ที่สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) นายสมชาย เสียงหลาย เลขาธิการคณะ กรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) เปิดเผยว่า จากการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงานขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาท้องถิ่นทางวัฒนธรรม ได้มีการหยิบยกประเด็นการพิจารณาศิลปะมวยไทย เพื่อรับรองการประกาศขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม โดยมีข้อสรุปดังนี้ที่มติประชุมมีความเห็นด้วย 100% ในการประกาศขึ้นทะเบียนศิลปะมวยไทย เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ซึ่งได้กำหนดให้มวยไทยที่จะขึ้นทะ เบียน หมายความเฉพาะศิลปะมวยไทยที่ได้มีการสืบสานมาอย่างต่อเนื่อง และยาวนาน มิใช่มวยไทยที่เป็นกีฬาแข่งขัน

เลขา กวช. กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังมีมติเห็นด้วยในการที่จะต้องจัดทำตำรับมวยไทยแห่งชาติขึ้น เพื่อเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลองค์ความรู้เกี่ยวกับมวยไทยไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเบื้องต้นได้เก็บรวบรวมข้อมูลไว้เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังเห็นว่าศิลปะมวยไทยมีความสำคัญและจำเป็นที่จะต้องมีการจัดลำดับขั้นของศิลปะมวยไทยไว้อย่างเป็นระบบ เพื่อใช้ในการเรียนการสอนภายในประเทศ และสำหรับใช้ในการสอนชาวต่างชาติที่สนใจและชื่นชอบศิลปะมวยไทยเป็นจำนวนมาก โดยมีท่วงท่าในศิลปะที่ถูกต้องเหมาะสมไม่ผิดเพี้ยนและหากดำเนินการสำเร็จลุล่วงแล้ว ก็จะสามารถสร้างมูลค่าตามแนวทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เหมือนกับเทกวนโดของประเทศเกาหลีที่สร้างมูลค่าให้กับประเทศ

เลขา กวช. กล่าวต่อไปว่า สำหรับขั้นตอนการดำเนินงานรับรองการขึ้นทะเบียนศิลปะมวยไทยนั้น สวช.จะจัดพิธีการประกาศขึ้นทะเบียนพร้อมกับรายการอื่นๆ รวม 21 รายการในวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ที่หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาภูมิปัญญาของชาติถูกรุกราน ทำลายจากวัฒนธรรมต่างชาติ รวมถึงการนำภูมิปัญญาไปใช้ไม่เหมาะสม ส่งผลให้สูญเสียอัตลักษณ์ของภูมิปัญญานั้นๆ จำนวนมาก ดังนั้นการประกาศขึ้นทะเบียน มวยไทย เป็นมรดกทางภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมนั้น จะเป็นหนทางหนึ่งในการปกป้องคุ้มครองและเป็นหลักฐานสำคัญของประเทศ และจะผลักดันให้ศิลปะมวยไทยสามารถขึ้นทะเบียนระดับโลกต่อไปให้ได้